เจาะรากฐานเรื่อง Soft Tailoring กับการพุ่งทะยานในช่วงยุค ‘80s และอยู่อย่างมั่นคงในปัจจุบัน

     อิทธิพลแฟชั่นบ้างก็ถูกลบเลือนหายไปตามกาลเวลา บ้างก็เป็นแค่เทรนด์ตามยุคสมัย แต่สำหรับบางสิ่งบางอย่างนั้นถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ก่อนจะถูกทำให้เป็นที่รู้จักวงกว้าง ก่อนจะกลายเป็นรากฐานสำคัญของโลกแฟชั่นในปัจจุบันและต่อยอดสู่อนาคต ในบทความนี้จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีแฟชั่นที่เรียกว่า ‘Soft Tailoring’ หรือโครงสร้างงานเทเลอริ่งที่อ่อนช้อยสวยงามที่ได้รับความนิยมและโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงปลายยุค 1980s ทว่าสิ่งนี้ถือกำเนิดมาเป็นเวลานานแต่มันเพียงรอคอยจังหวะเวลาที่จะสร้างพื้นที่ในโลกแฟชั่นเพียงเท่านั้น

ผลงาน Le Smoking โดย Yves Saint Laurent ที่ปฏิวัติวิถีการสวมสูทสำหรับผู้หญิงในช่วงยุค 1960s / ภาพ: Helmut Newton

     งานเทเลอริ่งอาจเป็นสิ่งที่ถูกนิยามว่าเป็นเรื่องแฟชั่นของผู้ชายมาอย่างนมนาน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าขนบธรรมเนียมการสวมสูทผูกไทนั้นเป็นอิทธิพลแฟชั่นสำหรับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ กว่างานเทเลอริ่งจะเชื่อมโยงกับแฟชั่นผู้หญิงก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคสงครามที่มีการผลิตซ้ำแฟชั่นเชื่อมโยงเข้ากับเครื่องแบบทหาร หลังจากนั้นก็ก้าวมาถึง ‘Le Smoking’ โดย Yves Saint Laurent ก่อนหน้านี้อาจมีแฟชั่นกลิ่นอายแมสคิวลีนผลิดอกออกผลมาตั้งแต่ยุคของ Coco Chanel ทว่ายังไม่มีรายละเอียดของงานเทเลอริ่งอันตราตรึงและระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นงานเทเลอริ่งที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

งานเทเลอริ่งในช่วงยุค 1980s โดย Giorgio Armani ยุคแรกที่ยังเห็นลายเส้นของสูททรงพลังตามยุคสมัย แต่สอดแทรกรายละเอียดของความนุ่มนวลพลิ้วไหวต้นกำเนิดความนิยมของสไตล์ Soft Tailoring / ภาพ: Fabrics Store Blog

     ก้าวกระโดดมาถึงยุค 1980s สิ่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อ Giorgio Armani นำเสนอผลงานเทเลอริ่งที่นุ่มนวล ตัดทอนโครงสร้างในส่วนต่างๆ รวมถึงเสริมแต่งสีสันสะดุดตา ต้องบอกว่านี่เป็นวิถีแฟชั่นเปลี่ยนโลก เพราะนี่เป็นครั้งแรกๆ ที่งานเทเลอริ่งถูกออกแบบสำหรับทุกเพศ แม้จะมีการเน้นผลงานตัดเย็บเนี้ยบประณีต ทว่าการสร้างสรรค์ของแบรนด์ก็ยกระดับด้วยการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสูทหรือเบลเซอร์ให้มีความพลิ้วไหวสวมใส่สบายราวกับเป็นผิวหนังชั้นที่ 2 ซึ่งต่อมามันกลายเป็นรูปแบบแฟชั่นที่ยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับความนิยมจากความสนใจเรื่องเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นต้องเฉียบคมทุกเหลี่ยมมุมเช่นเดิมอีกแล้ว

Fred Astaire กับการสวมสูทที่เน้นย้ำเรื่องเทคนิคการเดรปจนสร้างความแตกต่างในแบบฉบับของเฮาส์ Anderson & Sheppard / ภาพ: The Rake

     แท้จริงแล้วงานเทเลอริ่งสไตล์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ต้องบอกว่าแพตเทิร์นเสื้อผ้าดั้งเดิมของอิตาลีมีการสรรสร้างเสื้อผ้ารูปแบบนี้มานานหลักศตวรรษ แม้จะไม่ใช่รูปแบบของสูทหรืองานเทเลอริ่งที่เราคุ้นตา แต่ก็แสดงให้เห็นถึงวิถีการผลิตเสื้อผ้าที่มีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ทว่ามันก็ไม่ได้เป็นแฟชั่นกระแสหลัก มีเพียงเฮาส์ท้องถิ่นที่ซุ่มพัฒนาการตัดเย็บและสร้างแพตเทิร์นชิ้นงานแบบนี้อย่างไม่หวือหวาต่อไป ด้านประวัติศาสตร์โลกของสูทสุภาพบุรุษเองก็เช่นกัน Frederick Scholte และ Anderson & Sheppard ก็รังสรรค์สิ่งนี้จนเป็นลายเซ็นมาอย่างยาวนาน ก่อนที่ช่างสูทชื่อดังของอิตาลีอย่าง Vincenzo Attolini แห่ง Rubinacci จะนำเข้ามาปรับแต่งและสร้างสรรค์เป็นสูทโครงสร้างนุ่มนวลอย่างที่ทุกคนคุ้นตาและกลายเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน

สูทจากแบรนด์ The Row ที่แสดงให้เห็นความนุ่มนวลพลิ้วไหวและโปร่งสบาย ซึ่งถือเป็นไอเท็มสำคัญประจำยุคปัจจุบันอันได้อิทธิพลมาจากความนิยมเมื่อกว่า 4 ทศวรรษก่อน / ภาพ: The Row

     ตลอดระยะหลายทศวรรษหรืออาจจะถึงหลักศตวรรษที่การรังสรรค์สูทสไตล์นุ่มนวลแบบนี้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและมีการบันทึกไว้อย่างชัดเจน ทว่ามันไม่ได้ถูกยกขึ้นเป็นเทรนด์กระแสหลัก มีเพียงชายผู้หลงใหลในแนวทางเฉพาะที่เสพสมผลงานศิลปะแห่งการสวมใส่เสื้อผ้าที่มีจุดเด่นไม่เหมือนใครเสียมากกว่า จนกระทั่งยุค 1980s กับยุคสมัยของอาร์มานีที่เปลี่ยนแปลงโลกแฟชั่นไปตลอดกาล หากจะให้เครดิตว่าอาร์มานีคือผู้คิดค้นแนวทาง ‘Soft Tailoring’ อาจพูดได้ไม่เต็มปาก ทว่าหากพูดว่าอาร์มานีคือจุดตั้งต้นแห่งความนิยมที่นำวิถีแฟชั่นรูปแบบนี้เข้าสู่เทรนด์กระแสหลักและตั้งบรรทัดฐานพร้อมนำเสนอแฟชั่นรูปแบบนี้อย่างเป็นสากลนั้นคงจะเป็นจุดที่ตรงประเด็นมากกว่า ปัจจุบันมันกลายเป็นแนวงานเทเลอริ่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จุดตั้งต้นที่ทุกคนควรนึกถึงไม่ใช่แค่กระแสโด่งดังเป็นพลุแตกจากยุค 1980s โดยอาร์มานี แต่ต้องย้อนไปถึงเหล่าช่างฝีมือที่สรรสร้างสิ่งเหล่านี้มาด้วยแนวทางของตัวเองมานานร่วมศตวรรษ