FASHION
ขุดที่มา 'มงกุฎวิกตอเรีย' สมบัติอังกฤษที่เกือบหายไปตลอดกาล
|
มงกุฎเพชร และแซฟไฟร์สีน้ำเงินชิ้นนี้ เป็นสมบัติของเจ้าชายอัลเบิร์ต ที่ได้รับการออกแบบ และสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อภรรยาของเขา นั่นคือ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ในปี 1840 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาทั้งคู่เข้าพิธีเสกสมรสกัน นับแต่นั้นจิวเวลรีชิ้นนี้ก็กลายเป็นสมบัติราชวงศ์ และกลายเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทว่าหากได้ย้อนกลับไปเมื่อเพียงสามปีก่อนหน้านี้ เชื่อหรือไม่ว่า...จิวเวลรีชิ้นประวัติศาสตร์ชิ้นนี้เกือบจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ราชวงศ์ของอังกฤษตลอดกาล
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2016 มีข่าวว่ามงกุฎนี้ถูกขายให้กับบายเออร์ต่างประเทศในราคาสูงถึง 6.5 ล้านดอลลาร์ ทว่าเมื่อผู้ซื้อยื่นขอใบอนุญาตในการส่งออก กลับก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้น ซึ่งตามมาด้วยคำสั่งห้ามมีการสั่งห้ามส่งออกมงกุฎชิ้นนี้ และยังเป็นการเริ่มต้นการค้นหาที่ต้องใช้เวลานับปี กว่าที่มหาเศรษฐีชาวไอริช-อเมริกัน คนดังกล่าวจะปรากฏตัวขึ้น ซึ่งเขาก็คือ William Bollinger จนเกิดเป็นข่าวใหญ่ที่ได้รับการโหมกระพืออยู่ช่วงหนึ่ง นั่นจึงก่อให้เกิดคำถามที่ตามมาว่า เพราะเหตุใด จึงต้องมีการร่วมมือกันป้องกันการส่งออกชิ้นจิวเวลรีชิ้นนี้...
สมาชิกของคณะกรรมการที่ควบคุมเรื่องการส่งออก ที่เป็นผู้ออกคำสั่งห้ามนั้น ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนไว้ว่า "การจากไปของมงกุฎดังกล่าวจะกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อพิจารณาจากความงาม และการเชื่อมโยงต่อประวัติศาสตร์เบื้องหลังของมัน ความงามของมงกุฎชิ้นดังกล่าวประจักษ์ด้วยไพลิน 11 เม็ดที่ถูกวางเรียงกันในระยะที่ห่างเท่ากัน บนวงโค้งของมงกุฎชิ้สำคัญนี้ ที่รายล้อมไปด้วยทองคำ และเพชรสีเงิน ซี่งการออกแบบมงกุฎดังกล่าวได้ถูกบันทึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์ในหนังสืออีกว่า "รัดเกล้าเล็ก ๆ ชิ้นนี้มีความยืดหยุ่น ซึ่งนับเป็นรสนิยมการสร้างสรรค์ชิ้นจิวเวลรีในรูปแบบยุคโกธิกโดยแท้ ดังนั้นเราจึงปล่อยให้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นนี้หายไปจากอังกฤษไม่ได้เด็ดขาด"
ไม่เพียงความงามบนรูปลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนมงกุฎชิ้นนี้เท่านั้น เพราะอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ "ความสัมพันธ์ในประวัติศาสตร์" ของจิวเวลรีชิ้นนี้ ดังที่หลายคนคงเคยได้เห็นในพระบรมสาทิสลักษณ์ Franz Xaver Winterhalter ของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียที่พระองค์ทรงสวมใส่ (ที่มีกระแสวิพากษ์ว่าการลงสีบนภาพวาดดังกล่าวมีความผิดเพี้ยนไปจากเดิม) โดยความสำคัญในมิติที่ลึกลงไปกว่านั้นคือ อัญมณีล้ำค่าของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่กลายเป็นสักขีพยานแห่งความรัก และออกแบบมาสำหรับสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียในปีที่พวกเขาแต่งงานกันโดยเฉพาะ ก่อนที่ในเวลาต่อมาพระองค์จะทรงเลือกที่จะสวมใส่มันอีกครั้งในการเปิดตัวรัฐสภา หลังจากการตายของเจ้าชายอัลเบิร์ต เพื่อเป็นดั่ง “เครื่องประดับไว้ทุกข์" ของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรียอันแสนเศร้า จึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า มงกุฎนี้คือเครื่องหมายที่แสดงถึง “ความรักแท้” ของเขาทั้งคู่อย่างแท้จริง
WATCH
นอกจากนี้ Diana Singer นักประวัติศาสตร์ด้านเครื่องประดับชั้นสูงยังได้กล่าวไว้อีกว่า “สิ่งนี้คือสิ่งแทนใจ และมีความหมายพิเศษต่อจิตใจของราชินีองค์นี้ มันไม่ได้เป็นเพียงของขวัญจากเจ้าชาย หากเป็นของขวัญจากสามีต่อภรรยา ที่สัญญาว่าจะเก็บความลับของพวกเขาด้วยกันในมงกุฎล้ำค่านี้” มงกุฎชิ้นดังกล่าวตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น กระทั่งในปี 1992 ในงานแต่งงานของลูกชายคนที่ 7 ของเอิร์ลแห่งฮาร์วู้ด เจ้าสาวผู้โชคดีก็สวมมงกุฎชิ้นนี้เช่นเดียวกัน และตอนนี้มงกุฎดังกล่าวก็ยังคงสถิตอยู่ที่อังกฤษ เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สำคัญ และเป็นพยานรักให้แก่สมเด็จพระราชีนาถวิกตอเรีย และเจ้าชายอัลเบิร์ตผู้ล่วงลับ
WATCH