การกลับมาของกระเป๋า ‘Speedy’ และลาย ‘Damier’ ที่สรรสร้างความพิเศษโดย Pharrell Williams

     การเข้ามาของ Pharrell Williams ในฐานะหัวเรือใหญ่ของแบรนด์ Louis Vuitton เพื่อสรรสร้างแฟชั่นฝั่งบุรุษได้รับการพูดถึงอย่างหนาหู เพราะเขาคือแฟชั่นไอคอนที่หยิบจับความโดดเด่นมานำเสนอได้อย่างมีเอกลักษณ์แทบทุกครั้ง แต่คำปรามาสก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฟาร์เรลล์คือศิลปินและเซเลบริตี้ทว่าไม่ใช่ดีไซเนอร์โดยสายอาชีพดั้งเดิม นั่นทำให้เขาถูกตั้งคำถามว่าเขาจะนั่งแท่นผู้กุมบังเหียนแบรนด์อย่างหลุยส์ วิตตองได้อย่างไร และเขากำลังจะนำเสนออะไรให้กับเหล่าสาวกแฟชั่นทั่วโลกเมื่อการเดบิวต์งานดีไซเนอร์แบบเต็มตัวนั้นเริ่มต้นกับแบรนด์ระดับหัวแถวของฝรั่งเศส

     ตลอดปี 2023 ผู้คนจับตามองฟาร์เรลล์อย่างจริงจังเกี่ยวกับวิถีแฟชั่นรูปแบบใหม่ที่เขาสร้างขึ้นภายใต้แบรนด์ระดับยักษ์ใหญ่ จนสุดท้ายฟาร์เรลล์ใช้กลยุทธ์การหวนคืนสู่ความทรงจำอันหอมหวานกับการหยิบจับไอเท็มที่ทุกคนคุ้นเคยมานำเสนอใหม่ให้มีความโดดเด่นและจัดจ้านทันสมัย ไอเท็มสำคัญคือกระเป๋ารุ่น ‘Speedy P9’ เหมาะสำหรับการถือและสะพายของผู้ชาย ถือเป็นไอเท็มไอคอนิกที่เคยเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ โดยในแคมเปญคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 เขานำเสนอกระเป๋ารุ่นนี้ด้วยลวดลายโมโนแกรม วัสดุหนัง และสีสันจัดจ้านถึง 4 สี ตั้งแต่เขียว แดง เหลือง และน้ำเงิน โดยนอกจากกลุ่มนายแบบที่นำเสนอพร้อมลุคกลิ่นอายสตรีตผสมเทเลอริ่งที่ปรากฏบนรันเวย์แล้ว ยังมี LeBron James สุดยอดนักบาสเกตบอลแห่งยุคมาร่วมนำเสนอลุคเด่นพร้อมกระเป๋าไอคอนิกที่ปรากฏขึ้นพร้อมกับลวดลายโมโนแกรมสีคลาสสิกด้วย

     อีกหนึ่งสิ่งที่ฟาร์เรลล์พาทุกคนหวนย้อนนึกถึงความทรงจำอันหอมหวานในอดีตคือลวดลาย ‘Damier’ ลายตารายสุดไอคอนิกที่ทำให้ทุกคนคุ้นเคยกับหลุยส์ วิตตองด้วยแพตเทิร์น ไม่ใช่โลโก้ ‘LV’ หรือลวดลายโมโนแกรม ฟาร์เรลล์กำลังรื้อสร้างและตีความลายดามิเยร์ในรูปแบบใหม่ เขานำเสนอมันลงบนเสื้อผ้าหลากหลายประเภท เน้นย้ำไปที่การสร้างลุคที่แมตช์ลวดลายนี้เข้าด้วยกันอย่างลงตัวในแคมเปญคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2024 โดยไอเท็มทั้งหลายประกอบด้วยแจ็กเก็ตหนัง กางเกงหนัง เสื้อเชิ้ต แจ็กเก็ตกระดุมทอง และเสื้อโค้ต รวมถึงไอเท็มผ้าเดนิมที่มีรายละเอียดน่าตื่นตาตื่นใจ โดยทั้งหมดนำเสนอผ่านการใช้สีสอดประสานคล้ายกับกระเป๋ารุ่นสปีดี้ เช่นสีเหลือง แดง และน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีสีน้ำตาลอันเป็นสีคลาสสิกของลวดลายดามิเยร์ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย การนำทัพของฟาร์เรลล์จึงไม่เพียงสร้างความสดใหม่หรือนำเสนอแฟชั่นอันน่าตื่นตาผ่านไอเดียความสร้างสรรค์ฉีกแนวทางเดิมเท่านั้น เขายังสร้างรากฐานจากมิติความงดงามในอดีตที่ทุกคนคุ้นเคยให้ได้สัมผัสกันอีกครั้งผ่านกระเป๋าและลวดลายไอคอนิกของหลุยส์ วิตตอง และนี่อาจเป็นแนวทางสำคัญที่ทำให้ฟาร์เรลล์นำทัพแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสให้ประสบความสำเร็จอย่างถึงที่สุด