“โลกเราไม่ได้ใจดีกับทุกคน” คำกล่าวนี้เป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริงเสมอมา เพราะต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งสภาพร่างกายและปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับเวทีแฟชั่นที่เริ่มเกิดกระแสการเรียกร้องถึงความเท่าเทียมในหลายมิติก็ปรับตัวพัฒนาตามชุดความคิดของคนในสังคมที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ทว่าในอีกมุมหนึ่งนางแบบผู้เป็นหน้าเป็นตาของแบรนด์กลับยังไม่มีความหลากหลายแบบกว้างมากนัก แน่นอนว่ามีความหลากหลายด้านชาติพันธุ์ เพศ และอื่นๆ มากมาย แต่นิยามความสวยงามบางอย่างยังถูกตีกรอบ จนวันนี้ที่นางแบบคนหนึ่งได้ก้าวเดินบนรันเวย์ด้วยความสง่างาม
เรื่องราวต้องย้อนกลับไปในโชว์ Matières Fècales ช่วงต้นของปารีสแฟชั่นวีกประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2026 แบรนด์ฝีมือการรังสรรค์ของคู่หูอย่าง Steven Raj Bhaskaran และ Hannah Rose Dalton ขึ้นชื่อเรื่องความขบถและจุดประเด็นความอ่อนไหวได้อย่างเผ็ดแสบ โดยสตีเว่นเฝ้ามองฮันน่าห์กับการก้าวเดินไปใช้ชีวิตเผชิญโลกในแต่ละวัน และเธอก็โดนด่วนตัดสินตั้งแต่การแสดงออกอันเป็นตัวเอง โดยสตีเว่นกล่าวว่า “หลายครั้งมันเป็นการลดทอน(ความเป็นมนุษย์) เธอ(ฮันน่าห์)ยังคงเดินฝ่าเสียงหัวเราะ การชี้นิ้ว การชายตามอง และอีกหลายครั้งกับความโกรธ” นำมาสู่การเปรียบเปรยเรื่องราวผ่านโชว์บนรันเวย์ที่เปิดพื้นที่ให้ Nikki Lily ยูทูบเบอร์ระดับโลกผู้ฝ่าฟันอุปสรรคทางอคติมาก้าวเดินบนรันเวย์ได้อย่างน่าประทับใจ
โชว์ครั้งนี้นำเสนอวิธีการถ่ายทอดตัวตนของปัจเจกบุคคลที่โดนตราหน้าว่าผิดเพี้ยนไปจากบรรทัดฐาน ไม่ใช่แค่ตัวตนที่เลือกได้ สำหรับนิกกี้ไม่สามารถเลือกได้เลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่เธออายุ 6 ขวบก็ต้องต่อสู้กับอาการผิดปกทางร่างกาย ‘AVM’ ทำให้ต้องผ่าตัดเพื่อรักษา จนสุดท้ายสภาพใบหน้าจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เห็นเป็นประจักษ์ในปัจจุบัน เธอเริ่มการทำยูทูบตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แบ่งปันประสบการณ์ถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตและเรื่องราวของ ‘ความแตกต่างเชิงประจักษ์’ ซึ่งหมายถึงร่างกายของเธอนั่นเอง
เรื่องราวของเธอสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างล้นหลาม มีการผลักดันประเด็นการต่อต้านการบูลลี่ สภาพจิตใจ อาการป่วย เรื่อยไปจนถึงมิติด้านความงาม นิกกี้มีผู้ติดตามมากถึงหลัก 2.8 ล้านคน แม้จะประสบความสำเร็จและเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก แต่สำหรับเวทีแฟชั่นระดับโลกอย่างปารีสแฟชั่นวีก หลายคนยังมีชุดความคิดว่ามันไม่เหมาะกับเธอ สตีเว่นและฮันน่าห์ที่เป็นพวกขบถต่อต้านบรรทัดฐานหรือชุดความคิดดั้งเดิมจึงเนรมิตพื้นที่แห่งความอิสระให้นิกกี้ได้โลดแล่นไปพร้อมกับชุดเดรสเกาะอกสีดำ เพิ่มรายละเอียดงานปักประดับดอกกุหลาบสีชมพูที่ขับความสวยสะพรั่ง สร้างโมเมนต์อันน่าจดจำและคัดค้านบรรทัดฐานความงามเกี่ยวกับนางแบบบนรันเวย์ เรื่อยไปจนถึงการโต้กลับสิ่งที่หลายคนต้องเผชิญแม้จะก้าวเท้าออกจากบ้านไปใช้ชีวิตนอกบ้านเลยด้วยซ้ำ การเดบิวต์ของนิกกี้จึงไม่ใช่เพียงการสื่อสารถึงความขบถต่อสังคม ทว่าหมายถึงการแสดงออกและทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกลุ่มคนผู้เผชิญกับการกดทับทางสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม เหตุการณ์นี้ยิ่งใหญ่กว่ารันเวย์ ยิ่งใหญ่กว่ากรุงปารีส เพราะมันสะท้อนถึงหัวใจมนุษย์ที่แม้มีขนาดเชิงกายภาพเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับสิ่งที่กล่าวมา แต่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับมนุษย์เสมอมาและตลอดไป
(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมของแบรนด์สุดขบถนี้ได้กับบทความ Matières Fécales คู่หูผู้รังสรรค์บู๊ตหนังมนุษย์บุกโว้กอเมริกาเตรียมบุกปารีสแฟชั่นวีก!)