FASHION

เจาะลึกทุกรายละเอียดการกลับมาของ LOUIS VUITTON x MURAKAMI ครั้งแรกในรอบ 20 ปี

Louis Vuitton จับมือกับ Takashi Murakami นำเสนอความโดดเด่นทั้งเรื่องแฟชั่นและศิลปะ สอดผสานอัตลักษณ์ระหว่างกันจนเดินทางข้ามเวลาจาก 2 ทศวรรษก่อนมาจนถึงปัจจุบัน

     หากย้อนกลับไปในอดีตเมื่อพูดถึงโปรเจกต์คอแลบอเรชั่น นั่นหมายถึงเรื่องใหญ่ของวงการแฟชั่นที่จะได้พบการผสมผสานมิติความสร้างสรรค์ที่เหนือระดับและแปลกแตกต่างกว่าที่เคย สำหรับการคอแลบอเรชั่นในความทรงจำของสาวกแฟชั่นพันธุ์แท้คงต้องมีชื่อของ “LOUIS VUITTON x MURAKAMI” อย่างแน่นอน โดยแบรนด์ระดับแถวหน้าสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Louis Vuitton จับมือร่วมสร้างสรรค์ผลงานกับ Takashi Murakami เมื่อปี 2004 และสร้างปรากฏการณ์เขย่าโลกกับไอเท็มแฟชั่นที่ผสมผสานระหว่างอัตลักษณ์และเส้นสายแห่งความสร้างสรรค์โดยศิลปินชาวญี่ปุ่นระดับไอคอน

     เมื่อระยะเวลาผ่านไป 20 ปีการกลับมาของโปรเจกต์การหลุยส์ วิตตองและมูราคามิทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะครั้งนี้แบรนด์กำลังชวนทุกคนหวนถึงความทรงจำอันหอมหวานกับไอเท็มฉบับ ‘re-edition’ ที่ตีความและอัปเดตจากคอลเล็กชั่นดั้งเดิมเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน ภายในคอลเล็กชั่นใหม่นี้จะประกอบด้วยผลงานการสร้างสรรค์ราวๆ 170 ชิ้น สะท้อนภาพความสัมพันธ์เรื่องมิติความสร้างสรรค์ วิสัยทัศน์เชิงศิลป์ เรื่อยไปจนถึงงานฝีมือและเทคโนโลยีล้ำสมัย และที่ขาดไม่ได้คือมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมป๊อปและวัฒนธรรมการสะสมของช่วงต้นศตวรรษที่ 21



WATCH




     อัตลักษณ์ของหลุยส์ วิตตองคือความมุ่งมั่นในการพัฒนาเรื่องความสร้างสรรค์ นวัตกรรม และงานฝีมือชั้นยอด ในอีกด้านหนึ่งมูราคามิโดดเด่นในเรื่องศิลปะเหนือจินตนาการและความสวยงามที่เปี่ยมด้วยสีสัน นอกจากนี้ยังรวมถึงการหยิบยกวิถีดั้งเดิมตามแบบฉบับของญี่ปุ่นมาผสมสานกับความเป็นสากล ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ เรื่องไซไฟ อนิเมะ และคาแร็กเตอร์ตัวละครแสนน่ารัก ทั้งหมดปรากฏอยู่ในผลงานของศิลปินญี่ปุ่นคนนี้ในหลากหลายรูปแบบมาอย่างยาวนาน เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้ถูกผสมผสานเข้ากับแนวทางของหลุยส์ วิตตองเมื่อครั้งสมัย Marc Jacobs กุมบังเหียน จึงเกิดเป็นโปรเจกต์ “LOUIS VUITTON x MURAKAMI” ที่มอบมนต์เสน่ห์ความสนุกเหนือจินตนาการที่ไร้ขอบเขต ภาพ Kaleidoscope ถูกนำมาใช้ผสมผสานกับลวดลายโมโนแกรม และเป็นต้นกำเนิดของการสร้างสรรค์ลวดลายโมโนแกรมฉบับพิเศษเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันถูกนำเสนอผ่านไอเท็มที่ครบถ้วนตั้งแต่กระเป๋า ผ้าพันคอ แว่นตา รองเท้า และอื่นๆ อีกมากมาย

     เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การเดินทางสู่ความน่าสนใจในรูปแบบใหม่ตามแบบฉบับปี 2024 ก็ต้องมาพร้อมเรื่องเทคโนโลยี วิถีการรังสรรค์ผลงานของเมซงและมูราคามิยังคงรักษารากฐานเช่นเดิมจากเมื่อ 20 ปีก่อน แต่เพิ่มเติมการขยายกรอบแห่งความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีและลวดลายโมทีฟต่างๆ ที่ถูกยกระดับให้มีความชัดเจนแม่นยำมากขึ้น ซึ่งในคอลเล็กชั่นแสนพิเศษครั้งนี้มีไฮไลต์อันโดดเด่นคือ ‘Monogram Multicolore’ ที่เนรมิตลวดลายโมโนแกรมดั้งเดิมให้ผสมผสานสีกันมากกว่า 33 สี สะท้อนความงดงามที่บ่งบอกถึงความล้ำหน้าและเจิดจรัสกว่าที่เคย ซึ่งมันจะถูกประทับลงบนกระเป๋าใบเด่นของเมซงตั้งแต่ Keepall, Coussin, Dauphine, OnTheGo และ Speedy ไว้อย่างครบถ้วนที่สุด

     นอกจากนี้ยังมีไอเท็มอื่นๆ ที่กำลังจะถูกเนรมิตผ่านลวดลายและสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ ไล่เรียงตั้งแต่เข็มขัด กระเป๋าสตางค์ รองเท้าส้นเตารีด สอดผสานกับการนำเสนอกระเป๋า Alma BB ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะผ่านลวดลายโลโก้ ‘LV Hands’ ที่รังสรรค์ขึ้นใหม่ และที่ขาดไม่ได้คือลวดลาย ‘Superflat Panda’ อีกหนึ่งผลงานชิ้นชูโรงของมูราคามิที่เดินทางผ่านกาลเวลาอย่างเป็นอมตะ และยังมีลวดลายต่างๆ อย่าง ‘Superflat Garden’ และอื่นๆ ที่เป็นดั่งลายเซ็นของศิลปินปรากฏบนไอเท็มนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าอีกหลายรุ่น รองเท้าแตะ หีบไอคอนิก เรื่อยไปจนถึงขวดน้ำหอมเลยทีเดียว

     “อดีต ปัจจุบัน และตลอดไป” นิยามของโปรเจกต์  “LOUIS VUITTON x MURAKAMI” ที่สะท้อนภาพการเดินทางข้ามกาลเวลาและกระแสนิยม ผ่านยุคสมัย และเจนเนอเรชั่นอันหลากหลาย ทว่าผลงานเมื่อครั้งอดีตก็ยังจะโดดเด่นมีเอกลักษณ์และสามารถรักษาความไอคอนิกได้จนถึงตอนนี้และต่อเนื่องไปจนถึงอนาคตอันไม่รู้จบ และแน่นอนว่าการจับมือกันครั้งนี้จะทำให้ดิสเพลย์ของแฟล็กชิปหลุยส์ วิตตองแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่ศิลปะที่เปี่ยมด้วยความสนุกตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นไป และนี่เป็นเพียง Chapter One โดย Chapter Two มีกำหนดการปล่อยอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคม 2025 และมีการเกริ่นว่าจะเน้นย้ำแพตเทิร์น “Cherry Blossom” ที่เหมาะกับช่วงฤดูใบไม้ผลิ

 

สรุปลิสต์ไอเท็มหลุยส์ วิตตองที่สอดผสานเข้ากับลวดลายอันโดดเด่นของมูราคามิได้ดังนี้

Monogram Multicolore (White Background):

  • กระเป๋า: Dauphine Soft, OnTheGo, Venice, Speedy 25 และ Alma BB
  • เครื่องหนังขนาดเล็กและแอ็กเซสเซอรี่: Vanity Pouch, Nano Diane, Nano Speedy รวมถึงหีบ, เข็มขัด, กระเป๋าสตางค์, แว่นตากันแดด และผ้าพันคอ
  • ไอเท็ม Made-to-Order: Malle Wardrobe

Monogram Multicolore (Black Background):

  • กระเป๋า: OnTheGo และ Speedy 30
  • เครื่องหนังขนาดเล็กและแอ็กเซสเซอรี่: Art of Travel Luggage, Nano Speedy, หมวดเบสบอล, หมวกบักเก็ต, กระเป๋าสตางค์, ผ้าพันคอ และแว่นตากันแดด
  • รองเท้า: รองเท้าแบบสวม, สนีกเกอร์ และรองเท้าบัลเลต์

Superflat Panda:

  • กระเป๋า: OnTheGo PM Chain, Alma BB, Keepall 45 และ Mini Square Trunk
  • เครื่องหนังขนาดเล็กและแอ็กเซสเซอรี่: กระเป๋าสตางค์แบบซิป, ซองใส่พาสปอร์ต, พวงกุญแจ และสเก็ตบอร์ดสีดำ

Superflat Garden:

  • น้ำหอม: Attrape-Rêves

Leather Goods - Small Leather Goods

Accessories

Travel

Shoes

Gifting

Fragrances

ภาพ : Courtesy of Louis Vuitton

WATCH