ชื่อ Louis Vuitton กับกระเป๋าใบเด่นเป็นความคลาสสิกที่ผูกโยงกันอยู่เสมอ ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมามีกระเป๋ารุ่นไอคอนิกจากแบรนด์หัวแถวสัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์นี้ปรากฏขึ้นในสารบบแฟชั่นเสมอมา ถึงปี 2023 แบรนด์ก็เผยโฉมกระเป๋ารุ่นใหม่พร้อมให้สาวกแฟชั่นจับจองกันอีกครั้ง โดยกระเป๋ารุ่นนี้ใช้ชื่อว่า "GO-14" ที่ผสมผสานระหว่างแนวคิดการออกแบบอันสร้างสรรค์ ความลับของผู้เชี่ยวชาญในการทำหีบ และความเฉลียวฉลาดของช่างฝีมือ เปรียบเป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสุดยอดแห่งผลงานฝีมือจากหลุยส์ วิตตองในเวลาเดียวกัน

     ผลงานชิ้นนี้ไม่ใช่ผลงานใหม่แกะกล่อง แต่เป็นผลงานชิ้นคลาสสิกของ Nicolas Ghesquière ตั้งแต่ปี 2014 ตามชื่อรุ่น ทว่ากระเป๋ารุ่นดังกล่าวปรับโฉมใหม่และสรรสร้างคาแร็กเตอร์อันเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ด้วย “Malletage” สะท้อนความวิจิตรและจิตวิญญาณแห่งประวัติศาสตร์การทำหีบแบบดั้งเดิมของหลุยส์ วิตตอง วิธี “Galon Trim” ช่วยรักษารูปทรงกระเป๋าเหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อกันการบิดเบี้ยวและยับย่นเมื่อเดินทางท่องเที่ยว นิโกลาส์จึงหยิบจับเอานวัตกรรมเด่นตรงนี้มาใช้ในคอลเล็กชั่นแรกที่เขาเข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่และปลุกความสวยงามเสริมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานอันน่าประทับใจแบบดั้งเดิมให้กลับมาอีกครั้ง “มีรหัสลับบางอย่างที่บ่งบอกถึงหลุยส์ วิตตองโดยเฉพาะ มันเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายและปรับเปลี่ยนสู่เซ็ตติ้งใหม่” นิโกลาส์กล่าวถึงการเลือกแรงบันดาลใจจากคลังความไอคอนิกดั้งเดิมเพื่อนำเสนอในรูปแบบเสื้อผ้าและแอ็กเซสเซอรี่ปัจจุบัน

     GO-14 เวอร์ชั่นใหม่มาพร้อมทรงกระเป๋าที่คลาสสิกใช้งานง่าย มาพร้อมหนังแกะนุ่มฟู โดดเด่นด้วย “Malletage” และเทคนิค “Overstitching” ที่ขับงานดีไซน์ทั้งในเชิงความโค้งเว้าสวยงามและความรู้สึกนุ่มดั่งหมอนให้ชัดเจน สอดประสานกับคู่สีตัดกันที่สามารถดึงดูดสายตาอย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่คู่สีขาว-ดำ เรื่อยไปจนถึงสีไล่เฉดที่เผยให้เห็นความละเอียดของพื้นผิวหนังอย่างน่าสนใจ ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานยังตอบโจทย์ด้วยวิธีสไตลิ่งหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสะพายไหล่ที่มีลูกเล่นเป็นสายโซ่ทองให้กลิ่นอายเหมือนสร้อย หรือจะคล้องแขนหรือถือด้วยมือก็สามารถทำได้อย่างอิสระ และด้วยสายโซ่ 2 สาย จึงเปิดโอกาสให้สไตลิ่งด้วยการสะพายไขว้ หรือใครจะออกแบบการสะพายในรูปแบบเฉพาะตัวก็สามารถทดลองให้เหมาะกับลุคต่างๆ ได้แบบไร้ซึ่งข้อจำกัด สุดท้ายหูจับด้านบนแมตช์กับตัวกระเป๋ายังเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความคลาสสิกที่แบรนด์ตั้งใจวาง GO-14 ไว้ในสถานะนี้อย่างเต็มภาคภูมิ

     เจาะลึกไปถึงเทคนิคเบื้องหลังเพิ่มเติม GO-14 ถือเป็นกระเป๋าที่เต็มไปด้วยรายละเอียด อย่างที่กล่าวไปว่า “Malletage” สร้างมิติความสวยงามซับซ้อนแล้ว ยังสะท้อนภาพงานฝีมือที่เกิดจากช่างผู้ชำนาญ ขั้นตอนการทำกระเป๋ารุ่นนี้มีมากกว่า 20 ขั้นตอน ซึ่งรวมถึงเทคนิคพาติน่าหรือการลงสีหนังเพื่อให้ได้ลักษณะสีและพื้นผิวไล่ระดับความอ่อนเข้มตามต้องการ อีกทั้งยังไม่ละเลยรายละเอียดสีเล็กๆ น้อยๆ ที่แอบซ่อนเพื่อเน้นย้ำความละเอียดประณีตจนถึงที่สุด เท่ากับว่ากระเป๋า GO-14 เปรียบเสมือนผลงานระดับสูงที่สะท้อนภาพมนต์เสน่ห์ของอเตลิเยร์หลุยส์ วิตตองได้อย่างเฉียบคม แฟนโว้กสามารถชมภาพเบื้องหลังการทำกระเป๋ารุ่นนี้ได้ที่ด้านล่างนี้เลย

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6