หรือ Lady Gaga จะพาชื่อ Alexander McQueen กลับมาอีกครั้ง แม้ Seán McGirr ถูกวิจารณ์ไม่พัก

     ตั้งแต่ Seán McGirr เข้ารับตำแหน่งผู้กุมบังเหียนแบรนด์ Alexander McQueen หลังจาก Sarah Burton ก้าวลงจากตำแหน่ง เขาถูกจับจ้องและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงถึงวิธีการรังสรรค์ผลงานภายใต้แบรนด์อันเลื่องชื่อเรื่องความพิเศษเหนือระดับที่แตกต่างและก้าวไปอีกขั้นอยู่เสมอ ทว่าสำหรับดีไซเนอร์หนุ่มคนนี้กลับต้องแบกรับความคาดหวังและการเปรียบเทียบจนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขายังไม่ก้าวถึงจุดที่น่าพึงพอใจสำหรับสาวกแฟชั่นพันธุ์แท้ แต่เปิดศักราชปี 2025 เส้นทางความสดใสของอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนอาจกำลังมาถึงเพราะการโอบอุ้มจากศิลปินระดับแถวหน้าของโลก

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายุคปัจจุบันคือยุคสมัยแห่งการสร้างภาพโปรโมตอันยอดเยี่ยมผ่านศิลปินชั้นนำ องค์ประกอบสำคัญที่อาจชี้ชะตาของแบรนด์ในช่วงเวลาหนึ่งเลยก็ว่าได้ ครั้งนี้อเล็กซานเดอร์ แม็กควีนมีส่วนร่วมกับการนำเสนอแฟชั่นคุมธีมในมิวสิกวิดีโอเพลง “Fat Juicy and Wet” ที่เป็นการร่วมงานกันของศิลปินชั้นนำระดับโลกอย่าง Bruno Mars, Lady Gaga, Rosé และ Sexxy Red ซึ่งถือเป็นความน่าสนใจที่พวกเขาเลือกชุดสูทเทเลอริ่งจากแบรนด์ชื่อกระฉ่อนที่กำลังว่ายวนอยู่ในความสับสนภายใต้การคุมหางเสือของดีไซเนอร์คนใหม่

     ศิลปินทั้ง 4 คนสวมชุดสูทพินสไตรป์กระดุมแถวเดียวสีดำสลับเบอร์กันดีจากพรีคอลเล็กชั่น ฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ในมิวสิกวิดีโอเพลงของบรูโน่และเซ็กซี่ เรด ซึ่งสะท้อนภาพมิติความงดงามในการรังสรรค์งานเทเลอริ่งของแบรนด์ ย้อนรากฐานไปถึงการทำงานในวงการเทเลอริ่งอย่างเข้มข้นของดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งได้เป็นอย่างดี แนวทางของดีไซเนอร์คนปัจจุบัน (ตามคำกล่าว) คือการรื้อฟื้นรากฐานแฟชั่นแบบดั้งเดิมของแบรนด์ให้กลับมาโลดแล่นในโลกแฟชั่นยุคใหม่ ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายความดั้งเดิมและการตีความรูปแบบใหม่ ถึงกระนั้นสิ่งที่ต้องพูดถึงอย่างมากคือเลดี้ กาก้ากับเส้นทางความจัดจ้านที่มาบรรจบกับอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนอีกครั้ง

     แน่นอนว่าศิลปินอีก 3 คนก็ถือเป็นบุคคลสำคัญที่อาจพาชื่ออเล็กซานเดอร์ แม็กควีนให้กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง ทว่าเลดี้ กาก้าคือไอคอนที่มีภาพลักษณ์และโมเมนต์ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับแบรนด์เป็นทุนเดิม และเธออาจเป็นผู้ชุบชีวิตอเล็กซานเดอร์แม็กควีน ในยุคที่หลายคนเชื่อว่าแบรนด์อาจกำลังเจอวิกฤติ ต้องบอกว่าเธอคือศิลปินที่สร้างโมเมนต์สะกดตาพร้อมกับภาพจำของแบรนด์บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสวม Armadillo Shoe จากคอลเล็กชั่น Plato Atlantis ที่ถือว่าเป็นคอลเล็กชั่นบนรันเวย์ครั้งสุดท้ายก่อนดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งจะเสียชีวิต หลังจากนั้นเลดี้ กาก้าก็ปรากฏโฉมในงานสำคัญด้วยชุดจากอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนบ่อยครั้ง ถือเป็นหนึ่งในศิลปินที่อุ้มชูชื่อของแบรนด์ไว้ไม่น้อยเลยทีเดียว

     ในวันที่คนจำนวนมากกร่นด่าและวิจารณ์แบรนด์แบบถึงพริกถึงขิง แสดงความกังวลว่าอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนจะสูญเสียมนต์เสน่ห์และความยอดเยี่ยมเหนือระดับไปตลอดกาล แต่เลดี้ กาก้าและเพื่อนศิลปินที่ปรากฏโฉมในลุคแฟชั่นแฟชั่นของแบรนด์เป็นส่วนสำคัญในผลงานใหม่ที่ได้รับการจับตามอง แม้จะเป็นเพียงมิวสิกวิดีโอตัวเดียว แต่นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้กระแสของอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนยังคงเกาะเกี่ยวไปกับโลกยุคใหม่พร้อมได้การยอมรับมากขึ้น ในวันที่หลายคนเริ่มหันหลังให้กับแบรนด์ไอคอนิกแห่งนี้ แต่เลดี้ กาก้ายังคงเชื่อมั่นและเลือกนำเสนอลุคที่อาจไม่ได้หวือหวาจัดจ้านเท่าเดิม แต่ก็มีกลิ่นอายเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมอาจเป็นหลักยึดสำคัญที่เปลี่ยนแปลงทิศทางและการก้าวหน้าของดีไซเนอร์เลือดใหม่ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก หากจะกล่าวว่าเลดี้ กาก้าจะช่วยชุบชีวิตอเล็กซานเดอร์ แม็กควีนอาจฟังดูโอเวอร์ ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลังจากนี้แบรนด์จะได้รับความสนใจมากขึ้นและต่อยอดสู่การเปิดใจรับโดยอัตโนมัติผ่านกลไกความนิยมต่อไปก็เป็นได้

 

สามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์เพิ่มเติมกับบทความ Alexander McQueen โดย Seán McGirr เผยโฉมคอลเล็กชั่นรีสอร์ตที่อาจลบล้างคำวิจารณ์ได้