เซลฟี่ประวัติศาสตร์! เมื่อนักกีฬาเกาหลีเหนือและใต้ รวมถึงจีนร่วมฉลองเหรียญโอลิมปิก

     ปฏิเสธไม่ได้ความขัดแย้งเชิงการเมืองคือปัญหาสำคัญระดับโลกที่แม้แต่เกมกีฬาก็อาจละเลยสิ่งนี้ไปไม่ได้เช่นกัน โดยเฉพาะความขัดแย้งที่สร้างความตึงเครียด ณ คาบสมุทรเกาหลี ทั้งเกาหลีเหนือและใต้ รวมถึงประเทศข้างเคียงอย่างประเทศจีนมีความบาดหมางกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในโอลิมปิกเรื่องราวความขัดแย้งนั้นอาจถูกลดละความสำคัญและมุ่งเน้นสู่การแข่งขันกีฬาเสียมากกว่า และแล้วโมเมนต์อันน่าประทับใจก็เกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสประเภทคู่ผสม เพราะเกิดการเซลฟี่ครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั้ง 3 ชาติร่วมเฟรมเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง

     จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อการแข่งขันเทเบิลเทนนิสประเภทคู่ผสมเดินทางมาถึงรอบสุดท้าย โดยทีมจีน (Wang Chuqin และ Sun Yingsha) เอาชนะทีมชาติเกาหลีเหนือ (Ri Jong-sik และ Kim Kum-young) ไปได้ 4 ต่อ 2 เกม คว้าเหรียญทองไปตามคาด แต่โมเมนต์สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือทีมชาติเกาหลีใต้ต้องชิงเหรียญทองแดงกับทีมชาติฮ่องกง โดยคู่ของ Lim Jonghoon และ Shin Yubin จากเกาหลีใต้เอาชนะ Wong Chun Ting และ Doo Hoi Kem ไปได้ 4 ต่อ 0 เกม ส่งผลให้เกาหลีใต้ทะยานขึ้นรับเหรียญในฐานะทีมที่ 3 ในการแข่งขันครั้งนี้

     หลายคนจับตาดูโมเมนต์ประวัติศาสตร์ว่าจะเกิดความตึงเครียดหรือปฏิกิริยาแบบใดบนโพเดียมมอบเหรียญรางวัล แต่แล้วหลังจากทุกคนรับเหรียญพร้อมสีหน้าแห่งความยินดี อิมจองฮุน นักกีฬาชายทีมชาติเกาหลีใต้ได้หยิบโทรศัพท์มือถือของสปอนเซอร์มาเพื่อเซลฟี่ (ช็อตเซลฟี่ได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์โทรศัพท์) พร้อมจัดแจงการเซลฟี่เก็บภาพชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทุกความขัดแย้งถูกละไว้เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ในโลกกีฬา โดยเฉพาะในเวทีโอลิมปิก อิมจองฮุนแสดงให้เห็นว่า 3 ชาติที่กำลังมีความบาดหมางกันสามารถเชื่อมสัมพันธ์อันงดงามได้ผ่านเกมกีฬา

     อย่างที่กล่าวไปว่าช็อตเซลฟี่แทบจะเป็นช็อตบังคับจากสปอนเซอร์หลักของโอลิมปิกครั้งนี้ ทว่าการเซลฟี่ของนักกีฬาเทเบิลเทนนิสทั้ง 3 ชาตินั้นเป็นโมเมนต์อันเป็นธรรมชาติ ทุกคนแสดงความดีใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ต้องร่วมโพเดียมกับนักกีฬาชาติอริใกล้เคียง ถือเป็นตัวอย่างสำคัญสะท้อนให้เห็นภาพงดงามของเกมกีฬาอันเป็นหัวใจสำคัญของโอลิมปิก โดยอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้โมเมนต์นี้เป็นไวรัลคืออิมจองฮุนมีท่าทางดีใจและคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเขาสามารถคว้าเหรียญทองแดง ส่งผลให้ได้รับการละเว้นเข้ารับราชการทหาร (หากนักกีฬาชายได้เหรียญรางวัลในโอลิมปิกจะได้รับการละเว้นอย่างเป็นทางการจากประเทศเกาหลีใต้) นั่นทำให้เขาตื่นเต้นจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ นำมาสู่องค์ประกอบสำคัญของโมเมนต์ที่ทำให้เกิดภาพเซลฟี่ประวัติศาสตร์ และภาพนี้กลายเป็นดั่งสัญลักษณ์สะท้อนภาพเกมกีฬาอันปราศจากเรื่องความขัดแย้งโดยสมบูรณ์