Harris Reed ดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาพร้อมกับพลังแห่งความ Queer และความลื่นไหลทางเพศ
FASHION

Harris Reed ดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาพร้อมกับพลังแห่งความ Queer และความลื่นไหลทางเพศ

เพียงในวัย 26 มีผลงานร่วมกับศิลปินคนดังในงานใหญ่ระดับโลก และยังเป็นคนรุ่นใหม่ผู้สนันสนุนแรงผลักดันในเรื่อง Genderless/Fluidity ความลื่นไหลและไร้ขอบเขตทางเพศในโลกของแฟชั่น

พบกับดีไซเนอร์สายเลือดอเมริกัน-อังกฤษ คลื่นลูกใหม่แห่งยุค Gen-Z ในเพียงวัย 26 ปี Harris Reedได้ร่วมงานกับศิลปินคนดังในงานใหญ่ระดับโลกมากมาย เช่น การออกแบบชุดร่วมกับ Dolce and Gabbana ให้กับซูเปอร์โมเดลอย่าง Iman เพื่องาน MET Gala ปี 2021 การรังสรรค์เดรสกระโปรงสุ่มกับแจ็กเก็ตเบลเซอร์ทรงไหล่ยกสูงให้กับ Harry Styles บนปกโว้กอเมริกา รวมถึงการเป็นสไตลิสต์ให้กับดาราเบอร์ใหญ่อย่าง Emma Watson, Solange และ Selena Gomez หลังจบการศึกษาจาก Central Saint Martins เพียงไม่นาน

นอกจากความน่าประทับใจทางด้านผลงานการออกแบบเสื้อผ้า แฮริสยังเป็นคนรุ่นใหม่ผู้สนันสนุนแรงผลักดันในเรื่อง Genderless/Fluidity ความลื่นไหลและไร้ขอบเขตทางเพศในโลกของแฟชั่น รวมถึงความมีตัวตนและยังเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในการฉีกกฏเกณฑ์ด้านแฟชั่นด้วยการผสมผสานสไตล์ Glam-Rock และ Romanticsm ในรูปแบบความเควียร์ (Queer) ซึ่งน่าความตื่นเต้นและเป็นที่จับตามองในสื่ออุตสาหกรรมแฟชั่นปัจจุบัน



WATCH




‘60 YEARS A QUEEN’ เป็นคอลเล็กชั่นเรดี้ทูแวร์ ประจำฤดูใบไม้ร่วง ที่แฮริสได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือภาพในชื่อเดียวกันจากปี 1897 โดย Sir Herbert Maxwell เกี่ยวกับเรื่องการครองราชย์ของราชินีวิคเตอเรียในห้องสมุดระหว่างช่วงที่เป็นนักศึกษา ผสมผสานกับเซ็ตรูปถ่ายของ Mick Jagger ศิลปินร็อกเกอร์ชื่อดังผู้มีเอกลักษณ์ด้านสไตล์แบบ Androgynous ที่แฮริสชื่นชอบ คอลเล็กชั่นนี้แฮริสไม่ได้รับแรงบันดาลใจมากความโน้มเอียงจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ในช่วงศตวรรธที่ 19 โดยตรง แต่กลับเป็นความประทับใจที่แฮริสมีต่อวัฒนธรรมใต้ดินช่วงยุค 70s-80s อย่าง Club Kids ของชาว LGBTQ+ ผู้ได้หยิบยกความหรูหราของเสื้อผ้าราชวงศ์มาทำให้สนุกและอลังการยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ที่เน้นงานเดรปชุดหางยาว ระบายปกคอ หน้ากากงานเลี้ยงกลางคืน เครื่องหัวขนาดใหญ่ ผสมผสานกับกางเกงลูกไม้หางกระดิ่ง เลกกิ้งสีเงิน รองเท้าบู้ตแพลตฟอร์มสีสด ซึ่งเป็นการผสมผสานสไตล์ของสองยุคออกมาเป็นลายเซ็นโดนเด่นเฉพาะของแฮริส รีด

นอกจากงานดีไซน์ที่มีความเท่สไตล์ขบถในคราบของความหรูหรา แฮริสยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืน หรือ Sustainability โดยเลือกใช้วัสดุที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระหว่างที่แฮริสไปพักร้อนที่บริเวณแถบทางใต้ของประเทศอิตาลี แฮริสได้บังเอิญพบกับครอบครัวตระกูล Bussandri อดีตผู้จัดทำวัสดุเกี่ยวกับงานออกแบบภายในมาเป็นเวลาร้อยปี ระหว่างการแลกเปลี่ยนบทสนทนา ครอบครัวบุซซานดรีกล่าวว่าตนนั้นมีผ้าค้างสต็อกที่ไม่ได้ใช้งานมาหลายสิบปี แฮริสเลยถือโอกาสขอซื้อและนำผ้าที่ถูกทิ้งไว้มาผลิตเป็นผลงานของคอลเล็กชั่นนี้

ผลงานของแฮริสได้รับความน่าสนใจเป็นอย่างมากในแวดวงของอุตสาหกรรมแฟชั่นและบันเทิง รวมไปถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมเกี่ยวกับเรื่องอิสระการแสดงออกทางเพศ ทางโว้กอเมริกา กล่าวว่า “ผลงานของแฮริส รีดไม่ได้เป็นเพียงแค่งานดีไซน์ที่สนุกและแปลกใหม่ แต่เป็นเหมือนการแสดงจุดยืนที่มีความสำคัญต่อสังคมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของพรหมแดนที่ไร้กฏเกณฑ์ทางเพศ’

ข้อมูลและภาพ : vogue.com

WATCH