การจรดดินสอมหึมาของ Giorgio Armani กับสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอมตะบนรันเวย์ของแบรนด์

     ช่วงเวลาแฟชั่นวีกของฝั่งบุรุษกำลังคึกคัก มีแบรนด์ชั้นนำจำนวนมากนำเสนอความโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง มีทั้งการนำเสนอความแปลกใหม่ทะลุเพดาน หรือการหยิบจับไอเดียจากอดีตเพื่อสรรสร้างสิ่งสดใหม่ที่เป็นอมตะเชื่อมโยงเข้ากับทุกยุคทุกสมัย รวมถึงการตั้งตารอคอยผลงานออกแบบครั้งแรกของ Pharrell Williams ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Louis Vuitton ทว่าอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาและนำเสนอเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังคงความคลาสสิกตามแบบฉบับดั้งเดิมได้อย่างดีก็คือ Giorgio Armani ซึ่งครั้งนี้ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งในชื่อเดียวกันนี้ก็แสดงสัญลักษณ์ที่โดดเด่นบนรันเวย์

     หากติดตามแฟชั่นมาโดยตลอดคงไม่มีใครไม่รู้จักจอร์โจ อาร์มานี่ เขาคือผู้ยืนหยัดการสร้างสรรค์ผลงานสไตล์เทเลอริ่งที่มีลายเซ็นเป็นของตัวเอง นอกจากนี้ยังพัฒนาวิธีการสไตลิ่งไอเท็มเบสิกให้เรียบหรูดูดีชนิดไม่ต้องทำอะไรให้แปลกประหลาดหรือเป็นจุดสนใจเกินพอดี โทนสีหลากหลายผสมผสานกับมิติความดั้งเดิมเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โลกแฟชั่นยังคงหมุนรอบแบรนด์อยู่เสมอ แม้บางครั้งวงโคจรนั้นจะห่างไกลบ้าง เข้าใกล้บ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับยุคสมัย ทว่าไม่มีใครปฏิเสธว่าจอร์โจ อาร์มานี่ไม่เคยหายไปจากสารบบเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟชั่นสำหรับฝั่งบุรุษที่ผลงานเทเลอริ่งและความคลาสสิกเรียบง่ายคือความนิยมหลักเสมอมา

     ความน่าสนใจคือการจรดดินสอลงบนพื้นรันเวย์เป็นพร็อพขนาดใหญ่ที่น้อยครั้งจะเห็นบนรันเวย์เรียบๆ ของแบรนด์ดังสัญชาติอิตาเลียน แล้วดินสอขนาดมหึมาที่จรดลงบนพื้นหมายถึงอะไร จอร์โจเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้เชิงเปรียบเปรยว่าแฟชั่นเป็นการเขียนและเขียนซ้ำ ดังนั้นการที่คอลเล็กชั่นนี้หยิบยกแรงบันดาลใจมาจากเสื้อผ้าบุรุษยุคแรกของแบรนด์จึงเป็นเหมือนการเขียนซ้ำลายเซ็นอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอความโดดเด่นของแบรนด์อย่างถึงที่สุด มากไปกว่านั้นยังเสริมสร้างวิถีแห่งความสดใหม่ด้วยซิลูเอตแปลกตา เรื่อยไปจนถึงการเลือกลงรายละเอียดอย่างที่เราอาจไม่ได้เห็นจากจอร์โจ อาร์มานี่มากนัก พร้อมทั้งเลือกสรรไอเท็มถักทอและแจ็กเก็ตเบาสบายสำหรับฤดูร้อน นับว่าเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญที่ตำนานแห่งวงการที่สร้างผลงานมาหลายทศวรรษประกาศความเกรียงไกรและเตรียมยืนหยัดบนเส้นทางนี้ต่อพร้อมรอยจรดดินสอที่ทุกคนต้องจดจำ