FASHION

เจาะลึกค่ำคืนแห่งความช็อกในโลกแฟชั่นกับการเปลี่ยนชีวิตของ Demna และ Donatella Versace

คืนวันที่ 13 มีนาคม 2025 (ตามเวลาประเทศไทย) คือช่วงเวลาช็อกโลกแฟชั่นกับการเปลี่ยนหัวเรือของ Gucci และ Versace รวมถึงปรากฏการณ์ขมวดปมสัปดาห์อันวุ่นวายหลังแฟชั่นวีก

     ปรากฏการณ์เก้าอี้ดนตรียังสร้างความสั่นคลอนให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 มาจนถึงปี 2025 นับว่าเป็นยุคเปลี่ยนผ่านที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ด้วยจำนวนและความกะทันหันของการโยกย้ายนั้นทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างเป็นประจักษ์และเชิญชวนให้ทุกคนเฝ้ารอพิสูจน์ว่าเหล่าดีไซเนอร์คนใหม่ของแต่ละเมซงจะสามารถยกระดับสำเร็จหรือกอบกู้สถานการณ์แบรนด์กันอย่างไร ซึ่งค่ำคืนที่ช็อกวงการคงหนีไม่พ้น ค่ำคืนวันที่ 13 มีนาคม 2025 ที่มีการประกาศข่าวช็อกวงการติดต่อกัน เพราะดีไซเนอร์ระดับบิ๊กเนมเตรียมก้าวลงจากตำแหน่งเดิม และมีการสับเปลี่ยนระหว่างแบรนด์ระดับชั้นนำ

Donatella Versace ในช่วงท้ายของโชว์ Versace คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 ซึ่งเป็นผลงานส่งท้ายของเธอในฐานะหัวเรือใหญ่ / ภาพ: Vogue Runway 

      ข่าวที่ทำให้วงการแฟชั่นสั่นสะเทือนอย่างมากคือการประกาศวางมือของ Donatella Versace แห่งแบรนด์ Versace ที่รับไม่ได้ต่อจาก Gianni Versace หลังจากเหตุการณ์การเสียชีวิตมานานร่วม 3 ทศวรรษ ซึ่งเธอเพิ่งนำเสนอคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2025 จบลงไปเพียงไม่ถึง 1 เดือน เธอกำลังจะเปลี่ยนบทบาทสู่ตำแหน่ง ‘Chief Brand Ambassador’ และตั้งตารอการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Dario Vitale ที่ทำให้ดอนนาเทลล่าตื่นเต้นเพราะกำลังจะได้เห็นวิธีการตีความเวอร์ซาเช่ในสายตาคู่ใหม่ นอกจากนี้เธอยังกล่าวขอบคุณทีมออกแบบและพนักงานทุกคนที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จมาตลอดหลายสิบปี

     ความน่าสนใจของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือเวอร์ซาเช่จะไม่ได้ตกอยู่ในการกุมบังเหียนของสมาชิกตระกูลเวอร์ซาเช่อีกแล้ว แต่จะเป็นดาริโอ อดีตหัวเรือใหญ่จาก Miu Miu เข้ามาแทน ดังนั้นการปรับเปลี่ยนมุมมองแฟชั่นผ่านเลนส์คู่ใหม่อาจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่จะสร้างกระแสความสนใจให้กับแบรนด์สัญชาติอิตาเลียนแบรนด์นี้อย่างแน่นอน ทว่าเมื่อมองอีกมุมหนึ่งนี่คือความกดดันมหาศาลที่ดีไซเนอร์คนใหม่ต้องแบกรับความความหวังภายใต้ชื่อเวอร์ซาเช่ “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเวอร์ซาเช่ในฐานะผู้อำนวยการสร้างสรรค์ และเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นเฮาส์ระดับลักชัวรีอันทรงพลังที่สรรสร้างโดยจานนีและดอนนาเทลล่า” ดาริโอกล่าว

Demna กับการก้าวออกจาก Balenciaga และรับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์แบรนด์ Gucci / ภาพ: Demna

     ในค่ำคืนเดียวกันข่าวของเวอร์ซาเช่ไม่ใช่ประเด็นร้อนเพียงประเด็นเดียว เพราะมีการประกาศสายฟ้าแลบมาจากเครือ Kering เพราะ Demna จะโยกย้ายจาก Balenciaga สู่ Gucci ซึ่งเป็นเรื่องราวใหญ่โต หลังจาก Sabato de Sarno ก้าวลงจากตำแหน่งไปเพียง 1 เดือนเท่านั้น François-Henri Pinault ประธานกรรมการบริหารของเคอริ่งระบุว่า “พลังแห่งความสร้างสรรค์ของเขาคือสิ่งที่กุชชี่ต้องการ” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาค เพราะแบรนด์ระดับยักษ์ใหญ่เช่นนี้อาจถูกแปลงโฉมและมีภาพจำแบบใหม่ ดั่งที่ยุคของ Alessandro Michele ปรากฏเด่นชัดอีกครั้งหลังย้ายเมซง หรือจะเป็นซาบาโตเองที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบผลงานกุชชี่ให้กลายเป็นแฟชั่นสายมินิมัล สวนทางกับมิติแฟชั่นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง

     ความกังวลของสาวกกุชชี่พันธุ์แท้คือความกังวลว่าเดมน่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงกุชชี่จนไม่เหลืออัตลักษณ์ดั้งเดิม เพราะผลงานของเขา ณ บาเลนเซียกาถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของการตีความแฟชั่นรูปแบบใหม่ และการมองผ่านเลนส์ความขบถสุดโต่ง หลายคนเกรงว่าเขาจะทำในสิ่งเดียวกัน ณ กุชชี่ และแปรสภาพจากแบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่สู่การเป็นแบรนด์แฟชั่นสายขบถ แม้จะมีการโต้เถียงว่าวิถีของเดมน่าเป็นมากกว่าเสื้อผ้า แต่เป็นวัฒนธรรมที่สำคัญ นอกจากนี้เขายังหยิบยกผลงานเก่าของ Cristóbal Balenciaga มารังสรรค์ใหม่ในแบบฉบับโอตกูตูร์ พร้อมสอดแทรกองค์ประกอบแฟชั่นแบบดั้งเดิมลงไป ถึงกระนั้นภาพความจัดจ้านและต่อต้านสังคมก็ยังเด่นชัดเกินกว่าจะเชื้อเชิญให้รู้สึกถึงรากฐานแฟชั่นของคริสโตบัลได้อย่างเป็นประจักษ์
 

     “ผมตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวกุชชี่” เดมน่ากล่าว พร้อมเสริมว่า “เป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์(กุชชี่) ซึ่งผมให้ความเคารพและชื่นชมมาอย่างยาวนาน ผมรอคอยที่จะทำงานร่วมกับ Stefano Cantino (ประธานกรรมการบริหารของกุชชี่) และทีมในการเขียนเรื่องราวบทใหม่ของกุชชี่” แน่นอนว่าหลายคนอาจนึกย้อนกลับไปถึงปี 2021 กับโปรเจกต์การคอแลบอเรชั่นของทั้ง 2 แบรนด์ (บาเลนเซียกา และ กุชชี่) ภายใต้ชื่อ “Hacker Project” เราจึงเห็นแววการชิมลางของเดมน่าในการสาดความคิดเชิงศิลป์บนเส้นทางของกุชชี่มาพลางๆ ซึ่ง ณ วันนั้นกุชชี่ในแบบฉบับเดมน่าก็ชี้ชัดถึงความขบถและมีเอกลักษณ์อยู่ไม่น้อยทีเดียว




ลุคโอตกูตูร์ของ Balenciaga ที่ใช้เวลาทำเพียง 30 นาทีด้วยฝีมือของ Demna / ภาพ: Balenciaga

     “การเดิมพันครั้งสำคัญของกุชชี่” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้รับการขนานนามไว้ว่าเช่นนี้ เพราะการฉีกกรอบนิยามแบบดั้งเดิมและมุ่งหาดีไซเนอร์ผู้พร้อมเสิร์ฟการตั้งแง่และการตีความแบบที่หลายคนนึกไม่ถึงอาจเป็นคำตอบที่แบรนด์อาจกำลังมองหา แต่นั่นก็ไม่ได้การันตีว่าเดมน่าจะประสบความสำเร็จกับแบรนด์ใหม่ แม้จะมีการติดต่อเจรจากันมาสักพัก ทว่าการเสียบตำแหน่งชนิดสายฟ้าแลบแบบนี้ก็สร้างเซอร์ไพรส์และผู้บริหารอาจต้องเตรียมรับแรงกระแทก หากดีไซน์ของเดมน่าออกมาฉีกทุกขนบ นำพากุชชี่สู่การเป็นแบรนด์แฟชั่นสายขบถในแบบที่เขาทำกับบาเลนเซียกา ไม่เพียงแต่ลุ้นเรื่องภาพลักษณ์​ โชว์ หรือไอเท็มสำหรับการขายเท่านั้น แต่ยังต้องลุ้นอีกว่ากระแสความนิยมและนิยามความสวยงามยุคใหม่สอดคล้องไปกับแนวทางของเดมน่าหรือไม่ คำถามคือ “เดมน่าจะตกยุคหรือไม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

     เมื่อมีคำถามถึงความเหมาะสม การเปลี่นแปลงครั้งสำคัญก็ย่อมเกิดช่องโหว่ให้อุดรอยรั่วกันด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหัวเรือใหญ่อย่างเดมน่าที่จากลาบาเลนเซียกา แม้จะนำเสนอโชว์โอตกูตูร์ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2025 ก่อนแล้วค่อยออกก็ตาม บาเลนเซียกาต้องหาเป้าหมายในการเข้ารับตำแหน่งเพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงักทันทีเช่นกัน ซึ่งก็มีข่าวลือพัวพันกับ Pieter Mulier ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Alaïa ยุคปัจจุบัน เฉกเช่นเดียวกับดอนนาเทลล่าที่มีดาริโอเป็นผู้สานต่อ นอกจากนี้ยังมีข่าวเรื่องการแต่งตั้ง Duran Lantink รับตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์แห่ง Jean Paul Gaultier คงต้องติดตามกันต่อไปว่าแบรนด์เหล่านี้จะเดินเกมอย่างไรในอนาคตที่กำลังสั่นคลอนด้วยระยะเพียงไม่กี่วัน รวมถึงค่ำคืนช็อกโลกดังที่กล่าวไป


(สามารถอ่านเรื่องราวเก้าอี้ดนตรีเพิ่มเติมได้ที่บทความ รวมทุกข่าวลือในโลกแฟชั่น! ดีไซเนอร์คนไหนกำลังจะโดนโละและเปลี่ยนตัวออกจากกระดานแฟชั่นบ้าง)

WATCH

 
Close menu