FASHION
Alexander McQueen กับการเน้นซิลูเอต รูปทรง และวอลลุ่ม เพื่อต้อนรับคอลเล็กชั่นใหม่ SS2021เตรียมก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นแห่งความดิบเท่ของ Alexander McQueen |
ความดิบเท่ จัดจ้าน และไม่กลัวถูกผิดคือดีเอ็นเอที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนานของ Alexander McQueen แบรนด์สัญชาติอังกฤษนี้จึงเปรียบเสมือนเชฟชั้นยอดที่กล้าลองจับผสมวัตถุดิบต่างขั้วอยู่เสมอ ทำให้โลกแห่งแฟชั่นได้โอกาสลิ้มรสความแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย อาหารจานล่าสุดที่เชฟมือหนึ่งของแบรนด์อย่าง Sarah Burton รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการเปิดรั้วต้อนรับสาวกคือคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อนปี 2021 ที่ครั้งนี้เน้นหนักในเรื่องของซิลูเอต รูปทรง และวอลลุ่ม โดยนำเสนอผ่านแฟชั่นฟิล์มที่ที่ใช้ชื่อว่า “First Light”
First Light
First Light ถูกบอกเล่าผ่านแฟชั่นฟิล์มโดยฝีมือของผู้กำกับชาวอังกฤษ Jonathan Glazer นำเสนอเรื่องราวความสงบเงียบของกรุงลอนดอน บริเวณริมแม่น้ำเทมส์ ซาร่าจึงหยิบเอาช่วงเวลาเหล่านั้นมารังสรรค์ขึ้นพร้อมผสมผสานด้วยกลิ่นอายความดาร์ก พังค์ และโรแมนติกเข้าด้วยกันจึงกลายมาเป็นเหล่าชุดที่เล่นซิลูเอตโครงร่างอย่างเจนจัด ทั้งเทคนิคการจับเดรประบายช่วงแขนให้ดูพองใหญ่ขึ้นของเชิ้ตเดรสสีขาวสะอ้านพร้อมเข็มขัดรัดเอวเพิ่มเส้นสายให้กับชุด หรือจะเป็นลุคที่ดูเฟมินิมากขึ้นด้วยโครงเสื้อคอร์เซตผ้านิตพร้อมกระโปรงตัวยาว หรือจะเป็นชุดสูทที่เล่นการเลเยอร์ที่ชั้นเสื้อก็ตาม จับคู่ด้วยรองเท้าบู้ทหนังเงามันหุ้มข้อจึงกลายมาเป็นคอลเล็กชั่นที่อวลไปด้วยความดิบอย่างเต็มพลัง
The Curve
นอกเหนือไปกว่าชุดที่อัดแน่นด้วยดีเทล การดัดแปลงรูปทรง และการใช้แมททีเรียลแล้ว อีกหนึ่งแฟชั่นพีซในคอลเล็กชั่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือกระเป๋าสะพายทรงบักเก็ตรูปร่างเตะตา ในยุคที่กระเป๋าไซส์จิ๋วกำลังเป็นกระแสแม็กควีนสวนทางเทคะแนนไปที่กระเป๋าสะพายทะมัดทะแมงมากกว่า “The Curve” คือกระเป๋าที่อัดแน่นด้วยความเป็นโมเดิร์นใบกระทัดรัดที่จุของได้สารพันอย่าง ฝาพับกระเป๋าปิดพับได้อย่างไร้รอยต่อนวลเนียน ในขณะที่ตัวกระเป๋าถูกดีไซน์ให้เหมือนถูกสายรัดที่มัดตัวพาดไปมาอย่างมีศิลปะ เรียกว่ากระเป๋าใบนี้คือความทวิสต์ที่ครีเอทีฟไดเรกเตอร์อย่างซาร่าจับผสมความเป็นแม็กควีนเข้ากับความเป็นตัวของเธอเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ
WATCH
แม็กควีนจัดจ้านในแพทเทิร์นการตัดเย็บและการออกแบบรูปทรงที่แปลกตามากกว่าการใช้สีสันจี๊ดจ๊าดที่ไม่ค่อยใช่ตัวตนของแบรนด์เท่าไหร่นัก แม้คู่สีประจำของแบรนด์จะเป็นสีแดงและสีดำก็ตาม หากการออกแบบกระเป๋าเรายังได้โอกาสเห็นการหยอดสีสันเฉดอื่นลงไปบ้างเพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับคอลเล็กชั่นได้เป็นอย่างดี สำหรับกระเป๋า The Curve มาในหลากสีสันทั้งสีเขียวมะกอก น้ำตาล ดำ ครีม และอีกมากมายตามซีซั่น ซึ่งวัสดุมีทั้งแบบการใช้หนังลูกวัวผลิตและการใช้ผ้าเดนิมเพื่อสร้างสัมผัสใหม่ๆ ให้กับตัวกระเป๋า มาพร้อมสายสะพายที่ปรับการใช้งานได้ 2 แบบทั้งสะพายแบบครอสบอดี้และสะพายไหล่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันอย่างปฏิเสธไม่ได้
The Short Story
คอลเล็กชั่นนี้นอกจากกระเป๋า The Curve แล้วยังมีรุ่น “The Short Story” ที่น่าสนใจไม่แพ้กันกระเป๋าโท๊ตที่ได้รับการดัดแปลงมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง The Tall Story กระเป๋าหนังลูกวัวทรงเหลี่ยมที่โดดเด่นด้วยหูจับฮาร์ดแวร์เมทัลลิกที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจิวเวลรีของแบรนด์เอง พร้อมด้วยการออกแบบสายสะพายกระเป๋าให้เลือกปรับได้ทั้งการสะพายแบบครอสบอดี้และแบบสะพายไหล่ เป็นกระเป๋าอีกหนึ่งใบที่แบรนด์ดีไซน์ขึ้นเพื่อความเป็น City Life ขนานแท้
กระเป๋า The Curve คืออีกหนึ่งเครื่องหมายที่เป็นการประกาศว่าซาร่าสามารถผสมผสานตัวตนของเธอเองเข้ากับแบรนด์ได้อย่างกลมกล่อมถูกใจเหล่าสาวกแม็กควีน และแน่นอนต่อจากนี้ที่คุณกำลังหิ้วกระเป๋าใบเก๋นี้ออกไปท่องโลกกว้าง คุณกำลังก้าวเดินไปด้วยความดิบเท่ของออริจินัลแม็กควีนและความโมเดิร์นร่วมสมัยของซาร่าด้วยเช่นกัน
และเพื่อร่วมนำเสนอคอลเล็กชั่นนี้โว้กประเทศไทยดึงเอาแฟชั่นอินฟลูเอนเซอร์อย่าง “แก้ว-จริญญา” มาถ่ายทอดมุมมองของคอลเล็กชั่นสุดพังค์และโรแมนติกนี้ผ่านโปรดักชั่นเรียบง่ายจากที่บ้านด้วยฝีมือการสไตลิ่งของ “โทนี่ รากแก่น” และช่างภาพ “อนน สิงห์ทองลา” ที่แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของเสื้อผ้าและกระเป๋าได้เป็นอย่างดี
WATCH