FASHION

ปาร์ตี้ยังไงให้สนุก! เปิด 5 เคล็ดลับของสาวปาร์ตี้ที่จะทำให้คุณเป็นควีน

นี่คือวิถีแห่งการเอาตัวรอดของสาวๆ ที่ริอยากจะแปลงร่างเป็น "ตัวแม่" ในงานปาร์ตี้...

     เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น เทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีก็จะเวียนกลับมาหาพวกเราอีกครั้ง ให้เหล่าสายแฟ(ชั่น) ทุกคนได้ออกมาร่วมเฉลิมฉลองกับเทศกาลส่งท้ายปี ทว่าหลายปีที่ผ่านมาสาวๆ สายแฟ(ชั่น) หลายคนก็ต้องตกม้าตายกับเรื่องง่ายๆ จนต้องยอมแพ้ไปจากวงการปาร์ตี้งานเลี้ยง จากที่ตั้งใจว่าจะเป็นควีนกลับต้องหนีกลับบ้านไปก่อนปาร์ตี้จะจบเสียดื้อๆ ครั้งนี้โว้กประเทศไทยไม่รอช้ารวบรวมเคล็ดลับการเป็นควีนในปาร์ตี้ปลายปีที่กำลังจะมาถึงนี้ มาให้เรียนรู้กันก่อนที่จะตัดสินใจตอบรับปาร์ตี้ของเพื่อนสาว มาดูกันว่าการจะเป็นควีนประจำปาร์ตี้ให้ได้จนถึงเช้าต้องทำอย่างไรบ้าง...

 

การแต่งตัวไปงานปาร์ตี้เป็นเรื่องสำคัญ

     เรื่องแรกที่เป็นเรื่องสำคัญที่สาวๆ สายแฟ(ชั่น)ต้องคำนึงถึง ก็เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของการแต่งตัว จะว่ายากก็ยาก แต่จะว่าง่ายก็ง่าย เพราะการจะตัดสินใจเลือกสวมเดรส หรือเลือกหยิบชิ้นเสื้อผ้าสักชิ้นหนึ่งไปงานปาร์ตี้แสนสุดเหวี่ยงนั้น จะต้องคำนึกถึงหลายอย่างสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย ไปจนถึงความสวยสะกดที่จะต้องแย่งซีนได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไปในปาร์ตี้นั้นๆ กฎเหล็กสำคัญของสาวปาร์ตี้ที่เขารู้กันก็คือ ยิ่งน้อยชิ้นยิ่งดี เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว (และความเซ็กซี่) แต่น้อยชิ้นที่ว่านี้รายละเอียดก็ต้องจัดเต็ม ถ้านึกไม่ออก เราก็ขอให้นึกถึงภาพของซูเปอร์โมเดลระดับโลกอย่าง นาโอมิ แคมป์เบลล์ และเคต มอสส์ ที่โดนจับภาพได้ขณะเดินควงคู่กันในชุดเดรสสั้นสีเมทัลลิก จนกลายเป็นภาพไอคอนิกของวงการแฟชั่นในยุค 1990s มาแล้ว แต่กฎเหล็กนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับทุกปาร์ตี้เสมอไป เพราะในบางปาร์ตี้ที่มีธีมการแต่งตัวแบบจัดเต็ม สาวๆ สายแฟ(ชั่น)ก็ต้องเคารพธีมนั้นๆ ด้วยเช่นกัน เพราะนั่นเป็นมารยาทที่ดีของสาวปาร์ตี้ตัวแม่ทุกคนที่ต้องจำให้ขึ้นใจ ส่วนเรื่องของเครื่องประดับก็ขอแนะนำให้สาวๆ เลือกหยิบเครื่องประดับที่ติดกับร่างกาย ไม่ได้ห้อยเป็นเลเยอร์ยาว หรือซับซ้อนมากนัก หรือจะเลือกชิ้นสเตตเมนต์ชิ้นเดียวแบบเอาอยู่ไปเลยได้ก็จะเป็นเรื่องดีสุดๆ

 

มองหาสถานที่ซ่อนตัวในงานปาร์ตี้เผื่อเอาไว้

     ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้ส่งท้ายปี ไม่มีหรอกที่จะเริ่มตอนสองทุ่ม แล้วแยกย้านกันตอนสี่ทุ่มอะไรนั่น เพราะอย่างน้อยที่สุดแล้วปาร์ตี้ส่งท้ายปีก็ต้องกินเวลา 5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ใช่...คุณฟังไม่ผิดหรอก! นั่นเป็นเวลาที่นานพอจะนอนอยู่บ้านดูเน็ตฟลิกซ์อยู่ที่บ้านจบไปได้หลายเรื่อง แต่ในเมื่อเลือกที่จะเป็นสาวปาร์ตี้ตัวแม่แล้ว เราก็ต้องแก้สถานการณ์กันไป อย่างแรกที่คุณต้องทำก็คือ มองหาสถานที่ซ่อนตัวชั่วคราว ในเวลาที่คุณเบื่อ เหนื่อย หรือไม่สบอารมณ์กับคู่สนทนาในงานปาร์ตี้ ซึ่งสถานที่ยอดฮิตก็หนีไม่พ้นห้องน้ำ ที่นอกจากจะปลีกวิเวกจากงานปาร์ตี้วุ่นวายได้แล้ว ยังสามารถมาเติมหน้า ไปจนถึงแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ได้ด้วย แต่ถ้าหากสาวปาร์ตี้ทุกคนคิดเหมือนกันล่ะจะทำอย่างไร... ลองมองหามุมเงียบๆ อาจจะเป็นบาร์ หรือมุมของอาหารเครื่องดื่ม ที่ไกลจากสายตาของผู้คนดู ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเช็คความเรียบร้อยหยน้าผมคร่าวๆ ก็นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สาวปาร์ตี้หลายคนเลือกใช้ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้สาวๆ ที่เดินเข้างานปาร์ตี้ทุกคน ก่อนที่จะมองหาหนุ่มๆ จงมองหามุมที่คิดว่าตัวเองจะสามารถไปซ่อนตัวได้เป็นอันดับแรก เพราะนั่นคือกลยุทธ์สำคัญของสาวปาร์ตี้ตัวแม่

 

เลือกเครื่องดื่ม และอาหารในงาน (ด้วยสติ) อย่างมีสไตล์



WATCH




     การอดอาหารก่อนงานปาร์ตี้จะเริ่มเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ จงหยุดความคิดนั้นเสีย และนี่คือสิ่งที่เราต้องเตือนทุกคนเอาไว้เป็นอย่างแรก เพราะความหิวโซจะทำให้อาหารในงานดูอร่อยไปหมด และนั่นคือเรื่องอันตรายสุดสำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากจะมีพุงโลล้ำชุดออกมาระหว่างงานปาร์ตี้สุดเหวี่ยง อีกทั้งการอดอาหารยังจะส่งผลให้มีความอดทนต่ำกว่าปกติ จนอาจจะต้องขอกลับก่อนปาร์ตี้แสนวุ่นวายจะจบ และกลายเป็นผู้แพ้ในปีนั้นไปโดยปริยาย ส่วนเรื่องของเครื่องดื่ม สิ่งที่ต้องทำก็คือ “ค่อยๆ จิบ” ไปเรื่อยๆ อย่าโชว์เหนือด้วยการดื่มเข้าไปพรวดเดียวราวกับเป็นน้ำเปล่า อีกทั้งการถือแก้วชมเปญ หรือไวน์ไว้ในมือตลอดก็เก๋ดีไม่น้อย ปาร์ตี้ยังมีอีกหลายชั่วโมง ไม่ต้องรีบ แต่ที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นตัวแม่ หรือมือสมัครเล่นก็คือ “ต้องถามทุกครั้ง” ก่อนที่จะหยิบเครื่องดื่ม หรืออาหารอะไรก็ตามในงานปาร์ตี้ ว่าสิ่งนั้นที่กำลังจะเอาเข้าปากนั้นคือเมนูอะไร หรือทำมาจากอะไร ถ้าไม่อยากจะแพ้บายถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะมัวแต่สนุกกับบทสนทนามากเกินไป จนลืมว่าตัวเองแพ้อาหาร หรือไม่กินอาหารอะไรบ้าง

 

คุณต้องทำเหมือนกับว่ารู้จักทุกคน

     อาจจะฟังดู FAKE และเป็นเรื่องยาก แต่เชื่อเถอะการชวนคุยในงานปาร์ตี้ ทั้งกับคนที่เคยรู้จักมาก่อน หรือเพิ่งรู้จักในงานนั้นๆ จะเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยฆ่าเวลาแสนยาวนานได้ดีที่สุด (และมันคือศิลปะการเข้าสังคมอย่างหนึ่งที่จำเป็นสุดๆ) มากกว่าการเลื่อนฟีดบนมือถือด้วยซ้ำ บางทีอาจจะยังได้เพื่อนใหม่หลังจากงานปาร์ตี้จบอีกด้วย จะได้ง่ายสำหรับปาร์ตี้ครั้งต่อๆ ไป แต่สำหรับสาวปาร์ตี้มือสมัครเล่นที่ไม่รู้จะเริ่มบทสนทนาอย่างไร เราขอแนะนำประโยคสุดคลาสสิกที่ว่า “เป็นอย่างไรบ้างช่วงนี้” (เอาไปดัดแปลงได้ตามสไตล์ของแต่ละคน) แค่นั้นก็สามารถเริ่มบทสนทนาได้แล้วง่ายๆ หรือแม้แต่การเข้าไปแนะนำตัวกับคนที่คุณอาจจะเคยรู้จักผ่านโซเชียลมีเดียมาก่อน ก็เป็นเรื่องที่น่าทำไม่น้อย เพราะหลังจากนั้นคุณทั้งคู่จะได้รู้จักกันในชีวิตจริงด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องระลึกอยู่เสมอก็คือ เมื่อถามไปแล้ว ก็ต้องตั้งใจฟังคำตอบของคู่สนทนาด้วยเพื่อสานต่อบทสนทนาต่อไป หัวข้อการสนทนาสากลที่คนสังคมพูดเขาพูดกันเป็นนิจก็เห็นจะหนีไม่พ้น ข่าวดังที่เป็นกระแสในตอนนั้น เรื่องภายในงานปาร์ตี้นั้นๆ เรื่องสัพเพเหระ ไปจนถึงนินทาคนนั้นคนนี้ให้พอออกรส (แต่ไม่ใช่การให้ร้ายใดๆ) และหากจะทิ้งท้ายอะไรไว้ให้สาวปาร์ตี้ได้อ่านในข้อนี้ได้หนึ่งข้อ ก็คงจะต้องบอกว่า "จงทำให้บทสนทนาในครั้งนั้นเป็นธรรมชาติมากที่สุด" ผสมผสานความเป็นตัวเองลงไป และจงอย่าลืมว่านี่คืองานปาร์ตี้สังสรรค์ ไม่ใช่การสัมภาษณ์งาน ไม่ต้องเครียด หรือเกร็งขนาดนั้น

 

เตรียมแผนการหนีสำรองเอาไว้ให้พร้อม

     สถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะถ้าคุณเลือกทำทุกวิถีทางไม้ตายแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะรับมือกับสถานการณ์ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงได้จนจบ ก็จงหนีไปซะ! แต่จะให้กุลีกุจอออกมาจากงานปาร์ตี้เหมือนหนีสงคราม หมดคราบความเป็นสาวปาร์ตี้ตัวแม่ก็ใช่เรื่อง เพราะฉะนั้นจงตระเตรียมแผนการเอาไว้ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมปักหมุด Grab Car ที่พักอาศัยปลายทางไว้ให้พร้อม, จงเดินไปทักทายเจ้าของงานตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ปรากฏตัวในงานปาร์ตี้ เวลาที่หายตัวไปจะได้ไม่เสียมารยาทมาก, เดินหาเพื่อนคนรู้จักทุกคนให้ได้มากที่สุด เวลาพวกเขาเมาท์ลับหลังว่าใครไม่มางานจะได้ไม่มีชื่อคุณในนั้น และแน่นอนว่าเมื่อตั้งใจแล้วว่าจะหนี จงทำตัวให้หายไปจากสายตาของคนทั่วไปอย่างเงียบๆ เทคนิคที่ทำกันบ่อยก็คือ การเฟดตัวมายืนปักหลักอยู่ที่ทางออก ก่อนจะหายตัวไปอย่างเงียบเชียบ เลือกจังหวะเหมาะๆ ที่ทุกคนยังคงสนุกกับงานอยู่ เพื่อให้ไม่เป็นที่จับจ้อง ก่อนจะหายไปอย่างสวยงาม และไร้ร่องรอย เพราะเราต้องถือคติว่า “เมื่อมาอย่างราชินี ก็ต้องกลับอย่างราชินี...”

WATCH