5 เหตุผลที่ทำให้อานม้าของ Hermès เป็นสุดยอดงานฝีมือที่แบรนด์ภาคภูมิใจนำเสนอ

โว้กชวนหาเหตุผลว่าทำไมอานม้าของ Hermès จึงพิเศษและขึ้นแท่นเป็นไอเทมที่แบรนด์ภูมิใจนำเสนอมาตลอดเกือบสองศตวรรษผ่าน 5 ข้อสั้นๆ กระชับได้ใจความ

1. เพราะม้าคือจุดกำเนิดของแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์นี้

ดังคำกล่าวของ CEO แบรนด์ที่ว่า“ม้าเป็นมากกว่าลูกค้ารายแรกของแอร์เมส มันยังเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันในงานดีไซน์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นอานม้าหรืออุปกรณ์ขี่ม้าอื่นๆ” เห็นไหมละก่อนกระเป๋า Kelly กับ Birkin และผ้าผันคอผืนสวยก็ต้องอุปกรณ์ขี่ม้าเท่านั้น

2. ประสบการณ์ยาวนานและเทคนิคที่มีมากว่า 181 ปีนั้นย่อมทำให้อานม้าของแบรนด์กลายเป็นสุดยอดงานฝีมือโดยไม่ต้องสงสัย

“ครอบครัวของเราทำธุรกิจนี้มานานย้อนกลับไป 6 รุ่น เราถือว่าเราเป็นผู้สืบความรู้ เราไม่ได้เป็นผู้คิดค้นอะไรขึ้นมาใหม่ แต่นำมาผสมให้เหมาะกับความต้องการของยุคสมัย แน่นอนเราปรารถนาความเป็นเลิศ และยังโหยหารายละเอียดของความสมบูรณ์แบบในเวลาเดียวกัน” Pierre-Alexis Dumas ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแอร์เมส

3.เพราะพวกเขาใส่ใจในความสบายของม้าเป็นอันดับแรก

“กีฬาขี่ม้าและนักขี่ม้าที่ดีจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าหากม้าของพวกเขาขาดความสุข” คือแนวคิดที่แผนก Equestrian คือปรัชญาที่ช่างในแผนกขี่ม้าทุกคนยึดมั่น

4.อานม้าหนึ่งชิ้นจะใช้ช่างฝีมือเพียงคนเดียว และแน่นอนว่าหากมีการซ่อมแซมอานม้าชิ้นนั้นก็จะกลับมาให้ช่างคนเดิมเป็นผู้ซ่อม

ในการทำอานม้าฉบับแอร์เมสนั้นจะใช้ช่างเพียงคนเดียวทำตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ซึ่งมันมีความยากและมีหลายขั้นตอน เขาคนนั้นต้องรู้ขั้นตอนทุกอย่างและมีทักษะเป็นเลิศ ตั้งแต่การขึ้นรูป การตัดหนัง การเย็บ อานม้าหนึ่งธรรมดาที่สุดใช้เวลา 30 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ปีหนึ่งๆ นั้นทำออกมาสู่ท้องตลาดได้ประมาณ 500 ชิ้น

5. ขั้นตอนการทำอานม้าทั้งหมดทั้งผู้ขี่และม้าจะถูกวัดตัวมาเพื่ออานม้าโดยเฉพาะ!

ในการสั่งทำนั้นลูกค้าจะเลือกแบบอาน สี และวัสดุก่อน จากนั้นทีมงานวัดหลังม้าก็จะไปวัดหลังของม้าด้วยอุปกรณ์ที่สามารถตรวจสอบโครงสร้างกระดูกสันหลังทั้งหมด ก่อนจะส่งมาให้เวิร์กช็อปที่แซ็งตอนอเร อานม้าที่ดีต้องเกาะอยู่ที่อวัยวะสองส่วนคือตะโหงก (ส่วนนูนที่สุดของหลังที่เชื่อมระหว่างสันคอกับกระดูกสันหลัง) กับสะโพก โดยไม่สัมผัสกับกระดูกสันหลังเพราะเวลาขี่จะเกิดแรงกดทับทำให้ม้ารู้สึกไม่สบายตัว นอกจากอานม้าแล้วยังมี แผ่นรองขาของผู้ขี่ที่สัมผัสกับต้นขาคู่หน้าของม้า ซึ่งจะต้องไม่แคบหรือรัดเกินไปเพราะจะทำให้ม้าเคลื่อนไหวไม่สะดวกเวลาวิ่ง

ขั้นตอนต่อไปก็คือช่างฝีมือจะลงมือตัดหนังตามโครงสร้างที่วัดได้ เหลาไม้ให้เป็นทรงสำหรับเป็นแกนกลางของอาน แล้วจึงค่อยๆ เย็บนวมและหุ้มด้วยหนังทีละส่วน จากนั้นจึงเอาทั้งสามส่วนได้แก่แกนกลาง อานส่วนที่ผู้ขี่นั่ง และอานส่วนที่สัมผัสกับตัวม้ามาเย็บติดกันด้วยเส้นด้ายคู่เพื่อความคงทนแล้วจึงถึงขั้นตอนการทำความสะอาดแล้วบบรจุหีบห่อส่งถึงมือลูกค้า

เรื่อง: ตะวัน ก้อนแก้ว

ภาพ: The Courtesy of The Brand