“Karl Lagerfeld” หากพูดชื่อนี้เชื่อว่าไม่เพียงแต่สาวกแฟชั่นพันธุ์แท้เท่านั้นที่จะรู้จักคุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี แต่คนทั่วไปก็อาจจะเคยได้ยินชื่อผ่านหูหรือเห็นเขาผ่านตาตามสื่อต่างๆ มากมาย เรื่องราวชีวิตของดีไซเนอร์ระดับตำนานคนนี้มักถูกนำมาเล่าขานหลากหลายประเด็น ตั้งแต่ชีวิตส่วนตัวเรื่อยไปจนถึงผลงานการออกแบบชั้นครูกับแบรนด์ Chanel, Fendi และ Karl Lagerfeld รวมถึงผลงานเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเริ่มโด่งดังกับ Chloé นั่นทำให้สารคดีเจาะลึกความลึกลับของคาร์ลเรื่อง “The Mysterious Mr. Lagerfeld” ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม วันนี้โว้กจะมาเผย 10 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับคาร์ลอ้างอิงจากเนื้อหาสารคดีแบบเจาะลึกเรื่องนี้

Karl Lagerfeld ออกแบบผลงานคอลเล็กชั่นโอตกูตูร์ในปี 1983 / ภาพ: WWD Store

• 1.ชาเนลไร้หัวเรือหลังจาก Coco Chanel เสียชีวิตไปนานถึง 11 ปี และการเข้ามาของคาร์ลก็สั่นสะเทือนเมซงจนเป็นเหมือนสงครามขนาดย่อม

หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าแบรนด์เพชรยอดมงกุฎสัญชาติฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษจะเคยทิ้งตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างสรรค์ให้เว้นว่างนานเกิน 10 ปี โดย ณ ขณะนั้นแบรนด์ใช้ทีมออกแบบดั้งเดิมเพื่อสานต่อแนวทางของมาดามโคโค่ต่อไป ทว่าชาเนลกลับเป็นแบรนด์ที่ค่อยๆ เสื่อมความนิยมลง ไม่ได้โดดเด่นเท่ากับตอนผู้ก่อตั้งริเริ่มไอเดียขบถเกี่ยวกับแฟชั่นและการแสดงออกด้วยกลิ่นอายแบบแมสคิวลีน การเข้ามาของคาร์ลจึงเป็นเหมือนการชุบชีวิต เพราะเขามองถึงไอเดียการพัฒนาให้คนจดจำชาเนลในรูปแบบใหม่ ทั้งทำให้เด็กลงและเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ด้านแฟชั่น นั่นทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างคาร์ลผู้นำไอเดียและทีมงานเด็กไฟแรงเข้ามากับเหล่าช่างฝีมือดั้งเดิมผู้สานต่อแนวทางแบบเก่าจนชาเนลยุคนี้ถูกนิยามว่าเป็น “ยุคแห่งสงครามเย็น” สามารถอ่านบทความเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ที่ vogue.co.th/fashion/article/karlfirstdayatchanel

Villa La Vigie คฤหาสน์หลังหรูริมทะเลที่ Karl Lagerfeld เข้าใจผิดว่าอยู่ฝั่งโมนาโก / ภาพ: Edge Retreats

• 2.ความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงของคาร์ลกับคฤหาสน์ริมทะเลที่เกิดจากความเข้าใจผิด

Villa La Vigie คือคฤหาสน์ริมทะเลที่หรูหราเหนือระดับ และเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคาร์ลครอบครองและลงทุนรีโนเวตเองด้วยงบประมาณคาดการณ์ที่ 12.7 – 14 ล้านยูโร นอกจากจะรีโนเวตแล้วยังจัดหาของตกแต่งเพิ่มเติมอีกด้วย เรื่องราวเบื้องหลังการครอบครองคฤหาสน์หลังนี้คือเขาต้องการหลีกหนีจากระบบการเมืองฝรั่งเศสที่ไม่ลงรอยกันสักเท่าไหร่จึงอยากย้ายถิ่นฐานสู่โมนาโก ดินแดนปลอดภาษี ทว่าเขาก็เข้าใจผิดเพราะวิลล่าแห่งนี้มิได้ตั้งอยู่ในโมนาโก แต่กลับตั้งอยู่ในพื้นที่ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส เท่ากับว่าการขนย้ายของและลงทุนมหาศาลเพื่อหลีกหนีปัญหาเกี่ยวกับการเมืองและภาษีของฝรั่งเศสนั้นผิดพลาดใหญ่หลวง ในสารคดีเพื่อนรักของเขายังเผยหลักฐานว่าเพราะความผิดพลาดนั้นเตียงหรูในที่พักของเขาจึงถูกย้ายมาจากวิลล่าอันโด่งดัง

Martha Christiane Lagerfeld พี่สาวของ Karl Lagerfeld / ภาพ: John Henninger - Daily Mail

• 3.พี่สาวตัวจริงของคาร์ลย้ายถิ่นฐานไปอยู่สหรัฐอเมริกาและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย

Martha Christiane Lagerfeld เชื่อว่าสาวกแฟชั่นหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อเธอมาก่อนแม้แต่น้อย เธอคือพี่สาวแท้ๆ ของคาร์ล ถึงเขาจะเคยพูดว่าเขาไม่มีครอบครัวแต่แท้จริงแล้วพี่สาวของเขาย้ายถิ่นฐานไปอยู่ ณ รัฐคอนเนกติกัต ประเทศสหรัฐอเมริกา และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามแบบฉบับอเมริกันชนทั่วไป เรื่องราวจากสารคดีเล่าถึงหลักฐานและความเกี่ยวข้องของพี่น้องคู่นี้ และสำนักข่าวบางสำนักยังเคยสัมภาษณ์มาร์ธามาแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเมื่อคาร์ลกล่าวถึงครอบครัวอันหมายถึงเหล่ามิวส์คนสำคัญ แต่ไม่ใช่ตัวเธอและลูกหลานฝั่งอเมริกา

Caroline Wilcox (ขวา) ลูกของพี่สาว Karl Lagerfeld กับชุดแต่งงานที่เขาตัดให้พิเศษ / ภาพ: Johnathon Henninger

• 4.ชุดแต่งงานสุดพิเศษของหลานสาวที่เป็นของขวัญชิ้นสำคัญจากคาร์ลสู่ครอบครัวในอเมริกา

อย่างที่กล่าวไปว่าคาร์ลไม่ได้ให้ความสำคัญหรือเอ่ยถึงครอบครัวที่อาศัยอยู่เมืองเล็กๆ ในสหรัฐอเมริกาสักเท่าไหร่ แต่เมื่อปี 1992 Caroline Wilcox หลานสาวของคาร์ลกำลังจะแต่งงาน โดยเธอและแม่โทรไปหาคาร์ลเพื่อแจ้งว่ากำลังจะแต่งงาน และเขาก็มีความตั้งใจจะตัดชุดแต่งงานพิเศษให้ โดยแม่ของเธอวัดสัดส่วนและส่งให้คาร์ล ซึ่งเขาก็สัญญาว่าจะสรรสร้างชุดแต่งงานอันสง่างามที่ทำให้เธอผอมและสูง และชุดแต่งงานชุดนี้ก็มาส่งด้วยเครื่องบินคอนคอร์ดในช่วงก่อนแต่งงานไม่กี่วัน นับเป็นชุดลึกลับแห่งประวัติศาสตร์แฟชั่นที่คาร์ลออกแบบด้วยตัวเองโดยไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแต่อย่างใด

Karl Lagerfeld กับคอลเล็กชั่นหนังสือจำนวนมหาศาลในสตูดิโอส่วนตัว / ภาพ: Karl Lagerfeld

• 5.คอลเล็กชั่นหนังสือของคาร์ลมีจำนวนมากกว่าร้านหนังสือที่เขาซื้อประจำถึง 10 เท่า!

งานอดิเรกของคาร์ลคือการอ่านหนังสือ เขามักมาร้านหนังสือชื่อ Galignani เพื่อซื้อหนังสือเป็นประจำ ในแต่ละเดือนเขาใช้จ่ายเงินเกินหลักหมื่นยูโรสำหรับซื้อหนังสือใหม่เข้าคอลเล็กชั่น และมีการเล่าขานกันว่าเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่คืนในการอ่านหนังสือให้จบแต่ละเล่ม เขาศึกษาทุกอย่างตั้งแต่จิตวิทยา มานุษยวิทยา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และอื่นๆ อีกมากมาย สิริรวมหนังสือในคอลเล็กชั่นยักษ์ใหญ่ของเขามีจำนวนมากกว่า 300,000 เล่ม ซึ่งมากกว่าร้านประจำที่เขามักไปซื้อหนังสือมาอ่านที่มีจำนวนหนังสือสต็อกไว้ 30,000 เล่ม ถึง 10 เท่า!

Jacques de Bascher (ซ้าย) และ Karl Lagerfeld (ขวา) / ภาพ: Guy Marineau

• 6.ชีวิตรักสามเศร้ากับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างแต่เชื่อมสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง แม้จะไม่มีเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง

หากใครค้นหาข้อมูลประวัติส่วนตัวคาร์ลจะพบว่า Jacques de Bascher คือคนรักของเขาตลอดกาล เขาหลงใหลในตัวผู้ชายคนนี้อย่างมาก ดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกสนับสนุนอดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนนี้จนเขาลาออกและใช้ชีวิตดั่งคู่รักกับคาร์ลเสมอมา ถึงกระนั้นก็เกิดรักสามเศร้าเมื่อ Yves Saint Laurent ก็หลงเสน่ห์ของหนุ่มคนนี้เช่นกัน ซึ่งคาร์ลก็ทำเป็นหลับหูหลับตาไม่สนใจกับความสัมพันธ์ดังกล่าว ไลฟ์สไตล์ของคาร์ลกับฌักดูจะสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง คาร์ลมีลักษณะเป็นคนเก็บตัวเงียบ ทำงานหนัก และไม่ใช้เวลากับการปาร์ตี้รวมถึงเซ็กซ์ ส่วนหนุ่มไฟแรงหลงใหลกับการปาร์ตี้และมีเซ็กซ์เป็นดั่งส่วนสำคัญของชีวิต ซึ่งเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของอีฟ แซงต์ โลรองต์มากกว่า โดยคาร์ลเปิดเผยว่าชีวิตรักของเขากับฌักไม่มีเรื่องเซ็กซ์มาเกี่ยวข้อง สุดท้ายบั้นปลายชีวิตของฌักก็ต้องต่อสู้กับเชื้อเอดส์โดยมีคาร์ลคอยสนับสนุนจนถึงห้วงลมหายใจสุดท้าย

Karl Lagerfeld จูงมือ Hudson Kroenig เพื่อเดินปิดท้ายโชว์ Chanel คอลเล็กชั่นครูส 2018 / ภาพ: Antonio de Moraes Barros Filho

• 7.The Godfather

มิวส์คนสำคัญของคาร์ลคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Brad Kroenig หนุ่มอเมริกันจากเมืองเซนต์หลุยส์ เขาได้รับความสนใจและผลักดันอย่างหนักจากคาร์ล เขากลายเป็นนายแบบคนโปรดที่มีบทบาทสำคัญกับโชว์ชาเนลเสมอมา เรื่องราวความสัมพันธ์ครั้งนี้กลายเป็นความรักของครอบครัวอันอบอุ่น เมื่อแบรดแต่งงานกับ Nicole Kroenig และมีลูกชายด้วยกัน คาร์ลเปรียบดั่งพ่อทูลหัวของ Jameson และ Hudson โดยลูกชายของแบรดกลายเป็นเด็กที่คาร์ลเอ็นดูราวกับเป็นสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเขาก็พาลูกชายตัวน้อยของแบรดขึ้นเดินบนรันเวย์ชาเนลตามรอยพ่อเช่นเดียวกัน

ปกหนังสือ The Karl Lagerfeld Diet / ภาพ: Amazon

• 8.สูตรลดน้ำหนักหฤโหดและการนำเสนอหนังสือเล่มใหม่ที่ได้รับความนิยมสุดขีด

หลังจากคู่รักเขาเสียชีวิตในปี 1989 ดูเหมือนว่าคาร์ลจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวและไม่มีความสุขเท่าไหร่นัก จนกระทั่งจุดเปลี่ยนชีวิตทำให้เขาตัดสินใจคุมน้ำหนักตัวเองอย่างจริงจัง ซึ่งเขาก็ปลาบปลื้ม Diet Coke เป็นอย่างมาก สูตรลดน้ำหนักเขากลายเป็นสิ่งที่คนสนใจและจำนวนการดื่ม 10 กระป๋องต่อวันก็เป็นส่วนหนึ่งของการหลีกเลี่ยงน้ำตาลจริง โดยเขาลดน้ำหนักไปราวๆ 42 กิโลกรัมภายใน 13 เดือน หลังจากนั้นก็ออกหนังสือเกี่ยวกับการคุมน้ำหนักในชื่อ “The Karl Lagerfeld Diet” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงเวลานั้น ทำให้คนเห็นว่าไม่เพียงแต่คาร์ลจะเก่งเรื่องแฟชั่น แต่เขาโดดเด่นเรื่องการตลาด แม้เขาจะยืนยันว่าไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเป็นพิเศษก็ตาม หนังสือเล่มนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาสร้างภาพลักษณ์ทางการตลาดอันทรงอิทธิพลได้มากเพียงใด เพราะหนังสือเล่มนี้ขึ้นแท่นหนังสือขายดีในช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว

Sébastien Jondeau (ซ้าย) ขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้ Karl Lagerfeld (ขวา) / ภาพ: Vogue US

• 9.บอดี้การ์ดประจำตัวคือคนที่ใช้เวลาร่วมกับคาร์ลมากที่สุด

Sébastien Jondeau คือบอดี้การ์ดประจำตัวของคาร์ลที่ใช้เวลาร่วมกับเขาหลายทศวรรษ เซบาสเตียนคือบุคคลใกล้ชิดของคาร์ลที่ทำหน้าที่แทบตลอดเวลาตั้งแต่ชีวิตส่วนตัวไปจนถึงช่วงทำงาน เขาเปิดเผยว่าความสัมพันธ์ของคาร์ลกับเขาเปรียบดั่งพ่อลูก ซึ่งเขาพูดคุยกับคาร์ลทุกวัน เขามีส่วนร่วมในช่วงชีวิตของคาร์ลหลังจากรับหน้าที่สำคัญนี้ เขาปฏิบัติหน้าที่เป็นทั้งบอดี้การ์ด คนสำคัญ เป็นนายแบบบางเวลา และที่สำคัญที่สุดคือเป็นแรงสนับสนุนทางใจที่ยอดเยี่ยมที่สุดของคาร์ล

ช่วงสุดท้ายของโชว์ Chanel คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2019 ผลงานการรังสรรค์ครั้งสุดท้ายของ Karl Lagerfeld / ภาพ: Fashionista

• 10.ช่วงสุดท้ายของชีวิตกับการต่อสู้ที่ไม่มีใครรู้

ช่วงสุดท้ายของชีวิตคาร์ลเหล่าสาวกแฟชั่นจะสังเกตเห็นว่าเขามีอาการอ่อนเพลียและร่วงโรยไปตามวัย ไม่แข็งแรงและเปี่ยมไปด้วยพลังเหมือนเช่นเคย แม้จะสังเกตจุดนี้ได้แต่ก็ไม่มีใครสงสัยมากนักเพราะด้วยอายุที่ค่อนข้างมากก็อาจเป็นเหตุผลสำคัญให้เขาร่วงโรยเป็นธรรมดา ทว่าสำหรับคาร์ลการต่อสู้ในช่วงสุดท้ายของชีวิตนั้นอาจมีหนทางออกที่ดีกว่า หมอแนะนำให้เข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง แต่คาร์ลกลับปฏิเสธและดำเนินชีวิตต่อสู้กับมะเร็งร้ายด้วยตัวเอง เรื่องนี้แทบไม่มีใครรู้ แม้แต่แบรดซึ่งเป็นมิวส์คนสนิทก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน หรือ Baptiste Giabiconi นายแบบหนุ่มไฟแรงผู้ขึ้นแท่นเป็นมิวส์คนสำคัญของคาร์ลก็ไม่รู้เช่นกัน รวมถึงคนรอบตัวคาร์ลเกือบทั้งหมดไม่มีใครเคยรู้เรื่องนี้มาก่อน หลายคนรวมถึงแบรดและแบปติสต์เองก็รับรู้เรื่องนี้ในวันที่คาร์ลจากไป ก่อนเสียชีวิตคาร์ลระบุว่าเขาไม่ต้องการให้จัดงานศพอย่างเป็นทางการ ขอให้เผาร่างและโปรยอัฐิในโลเคชั่นลับเคียงข้างแม่และคู่รักตลอดกาลอย่างฌัก อันเป็นการปิดฉากหน้าประวัติศาสตร์อันยาวนานของตำนานดีไซเนอร์ “คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์”

 

ข้อมูล:

The Mysterious Mr. Lagerfeld

people.com

nypost.com

ghgossip.com

fashionreverie.com

monacolife.net

theguardian.com

i-d.vice.com

wwd.com

popsugar.com