FASHION

ถอดรหัสคำตอบของนางงาม 5 คนสุดท้าย พวกเธอพยายามจะบอกอะไรกับโลกใบนี้

     คำถามรอบ 5 คนสุดท้ายบนเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สมีความหลากหลายแตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือคำถามจะอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันและเปิดโอกาสให้เหล่าตัวแทนสาวงามได้แสดงความคิดเห็นผ่านกรอบความคิดของตัวเอง เพื่อพาตัวเองก้าวเข้าสู่ 3 คนสุดท้าย เพราะเช่นนี้ประเด็นคำถามแต่ละปีจะมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แสดงให้เห็นทิศทางโลกว่าทุกวันนี้เกิดอะไรขึ้น และมุมมองความคิดของนางงาม รวมถึงการต่อยอดความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นเพื่อนำมาไปปรับใช้และพัฒนา

 

 

Kiara Ortega มิสยูนิเวิร์สเปอร์โตริโกในชุดราตรีก่อนตอบคำถามรอบ 5 คน

1.คำถามสำหรับนางงามจากประเทศเปอร์โตริโก "ทำไมเสรีภาพของสื่อถึงมีความสำคัญ?"

คำตอบของมิสเปอร์โตริโกคือ "สื่อมีหน้าที่รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับในปัจจุบัน ฉะนั้นแล้วพวกเขาควรจะมีเสรีภาพในการรายงานเรื่องจริงแบบไม่ปรุงแต่ง แต่เราก็ต้องไม่ลืมเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย เพราะทั่วโลกผู้คนล้วนเจอปัญหาที่มากมายแตกต่างกันไป"

ทิศทางของโลกในข้อนี้หมายถึงรูปแบบสิทธิ์เสรีภาพของสื่อที่โดนริดรอนไปในหลาย ๆ พื้นที่ เพียงเพราะพวกเขาจะบอกเล่าความจริงและแสดงความคิดเห็นเพื่อให้ผู้ถูกวิจารณ์นำไปปรัับใช้แต่ในปัจจุบันสื่อหลายชีวิตถูกลงโทษทั้งทางตรงและทางอ้อม ในหลายส่วนของโลกเองบางครั้งมีเสรีภาพเป็นแค่ภาพที่นำเสนอขึ้นมา เพราะแท้จริงแล้ว ณ เวลานี้เสรีภาพของสื่อยังถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดบางอย่างไม่ว่าจะเป็นอคติ ความชอบส่วนตัว ผู้มีอำนาจ และอื่น ๆ อีกมากมาย คำถามนี้แสดงให้เห็นว่าเวทีระดับโลกเล็งเห็นความสำคัญของเสรีภาพที่ทุกคนมีสิทธิ์จะแสดงความคิดเห็นและรับรู้ความจริงไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ต่อไปเมื่อผู้คนตระหนักถึงจุดนี้ ประตูเสรีภาพในการแสดงออกของทุกคนไม่เฉพาะแค่สื่อจะถูกเปิดกว้างและสร้างการพัฒนาสังคมผ่านความคิดเห็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

H'Hen Nie มิสยูนิเวิร์สเวียดนามสง่าผ่าเผยในชุดราตรีก่อนตอบคำถามรอบ 5 คน

2.คำถามสำหรับนางงามจากประเทศเวียดนาม "คุณคิดว่าแคมเปญ #MeToo มาไกลเกินไปหรือไม่?"

คำตอบของมิสเวียดนามคือ "ฉันไม่คิดว่ามันจะไปไกลเกินไปนะ การปกป้องกับเรื่องสิทธิ์ของผู้หญิงเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำ ผู้หญิงต้องได้รับการปกป้องและมีสิทธิเสรีภาพ"

ทิศทางในคำถามเรื่องแคมเปญ #MeToo คือโครงการเกี่ยวกับต่อต้านการข่มเหงทางเพศสำหรับผู้หญิงทั่วโลก แต่คำว่าถูกต้องของแต่ละคนอาจจะไม่ได้ตรงกันจึงเกิดคำถามนี้ขึ้นมา คำถามสะท้อนให้เห็นว่าบางโครงการมีความดีและเป้าหมายสำคัญจนบางครั้งอาจ "มากเกินไป" ในแวดวงเชิงสังคมศาสตร์เรียกว่า 'Political Correctness หรือความถูกต้องทางการเมือง' คือการปรับเพื่อให้ทุกแง่มุมในสังคมเกิดความถูกต้องและเท่าเทียม แต่บางครั้งก็มีกระแสว่าจริงจังกับทุกเรื่องเกินไปหรือไม่? การที่เวทีหยิบเอาคำถามนี้มาถามหมายถึงทางกองเล็งเห็นความสำคัญไม่ใช่แค่ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่หมายถึงคนทุกกลุ่มในสังคม ทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนความพอดีและถูกต้องเหมาะสม ฉะนั้นพวกเขาอยากได้ยินจากตัวแทนของผู้หญิงในการสร้างพลังปีนี้ว่าคิดเห็นอย่างไรถ้าโครงการที่ตนเองสนับสนุนถูกตั้งคำถามว่าเลยเถิดเกินไปหรือเปล่า และต่อไปทิศทางของโลกสามารถเดินต่อไปได้ในเส้นทางที่เหมาะสมและเท่าเทียมมากกว่าเดิมผ่านกรอบคิด 'ความถูกต้องทางการเมืองที่เหมาะสม'



WATCH




Catriona Gray มิสยูนิเวิร์สฟิลิปปินส์โพสต์ท่าในรอบชุดราตรีก่อนตอบคำถาม 

3.คำถามสำหรับนางงามประเทศฟิลิปปินส์ "คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องกัญชาถูกกฎหมาย"

คำถามของมิสฟิลิปปินส์คือ "ฉันรู้ว่ามันดีนะถ้าหากใช้ในเรื่องการแพทย์ และฉันมองว่าไม่ว่าจะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ (รวมถึงกัญชา) มันก็มีข้อดีถ้าหากใช้มันในปริมาณที่พอเหมาะ"

ทิศทางสำหรับคำนี้แสดงให้เห็นว่าในขณะนี้มีการถกเถียงเรื่องการสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในรูปแบบสีเทา กัญชาก็เป็นหนึ่งในนั้น การที่กองประกวดหยิบคำถามนี้ขึ้นมาสะท้อนให้เห็นว่าควรเริ่มมีการถกเถียงกับมายาคติเก่าของสังคมในความไม่ดีของอะไรบางอย่างได้แล้ว การที่เราเปิดใจและควบคุมให้ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะจะเกิดประโยชน์สูงสุดกว่าการปิดกั้น ไม่ใช่แค่เรื่องกัญชาแต่หมายถึงกิจกรรม รูปแบบความชอบหรือรสนิยม ทุกอย่างต้องถูกเปิดกว้างให้ได้รู้จักสิ่ง ๆ นั้นอย่างแท้จริงก่อนจึงค่อย ๆ กรอบให้แคบเพื่อควบคุมและให้ประโยชน์แก่ทุกคนทั่วโลกอย่างเหมาะสม คำตอบของแคทรีโอนาสะท้อนสิ่งที่คำถามต้องการจะสื่อได้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องบอกว่ามันดีหรือแย่ เพราะทุกอย่างมี 2 ด้าน เพราะเช่นนี้เราก็ควรดึงด้านดีของมันมาใช้ไม่ใช่เหรอ?

Tamaryn Green มิสยูนิเวิร์สเซาต์แอฟริกากับแววตาอันมั่นใจก่อนรอบตอบคำถาม 

4.คำถามสำหรับนางงามจากประเทศแอฟริกาใต้ "คุณคิดว่าควรจำกัดจำนวนผู้ลี้ภัยในการข้ามดินแดนหรือไม่"

คำตอบของมิสเซาต์แอฟริกา "ฉันคิดว่าทุกประเทศควรมีกฎและข้อปฏิบัติที่ชัดเจน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเราทุกคนคือมนุษย์เหมือนกัน ฉะนั้นเราควรจะเปิดกว้างมอบความรักและการยอมรับให้กับผู้อื่นโดยไม่สำคัญเลยว่าจะเป็นใครมาจากไหน"

คำถามที่มุ่งเน้นไหวพริบในการชั่งน้ำหนักระหว่างความเป็นจริงกับความเห็นอกเห็นใจ สะท้อนให้เห็นปัญหาในปัจจุบันที่หลายพื้นที่เกิดเหตุการณ์ไม่สงบหรือเรื่องประชากรชายขอบ บีบบังคับจนเกิดผู้ลี้ภัยเข้าประเทศต่าง ๆ เกิดขึ้น และมีทีท่าที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามนี้จากโพยกระดาษของสตีฟ ฮาร์วีย์ผู้ดำเนินรายการ กำลังบอกเราว่าเรากำลังจะต้องเผชิญกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้นในอนาคต มุมมองของทามาริน เป็นเหมือนกระจกให้ทบทวนดูว่ากฎระเบียบที่มีต่อผู้ลี้ภัยเหมาะสมแล้วหรือยัง ในขณะเดียวกันการยอมรับผู้อื่นโดยไม่มีอคติเราสามารถทำมันได้แล้วจริงหรือไม่? ต่อไปการรับผู้ลี้ภัยต้องตั้งอยู่บนบรรทัดฐานการยอมรับต่อผู้อื่นเสียก่อนแล้วจึงค่อยนำกฎระเบียบมาบังคับใช้ หากเรายังมีอคติกฎระเบียบการควบคุมจะกลายเป็นเพียงเครื่องมือในการกีดกันความเป็นมนุษย์เท่านั้นเอง

Sthefany Gutiérrez มิสยูนิเวิร์สเวเนซุเอลามาพร้อมรอยยิ้มรอบชุดราตรีก่อนตอบคำถาม

5.คำถามสำหรับนางงามจากประเทศเวเนซุเอลา "คุณจะพูดอะไรกับคนที่มองว่าการประกวดนางงามมันโบราณและขัดต่อการเคลื่อนไหวของเฟมินิสต์"

คำตอบของมิสเวเนซุเอลา "ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคสมัยใหม่แล้ว การประกวดนางงามไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่หมายถึงการมีหัวใจและไหวพริบที่ดี และการประกวดแบบนี้สามารถแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอย่างฉันสามารถทำตามฝันอะไรก็ตามบนโลกนี้"

สิ่งที่สะท้อนออกจากความเป็นผู้หญิงบนเวทีประกวดคือความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่มักจะโดนตั้งคำถามว่าเรากำลังมองนางงามเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องมือหรือสิ่งของหรือไม่? ความคิดเหล่านี้ต้องถูกเปลี่ยนไปในกระแสโลกยุคใหม่ เพราะอย่างที่สเตฟานีตอบการประกวดมันไม่ใช่เรื่องความสวยเรื่องเดียว มันเป็นเวทีแห่งโอกาสที่จะให้ผู้หญิงแสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งในการเปลี่ยนโลก การที่เอาคำว่า "โบราณ" มานิยามการประกวดเหล่านี้คงไม่ได้ เพราะเวทีมีการพัฒนารูปแบบ เรื่องราว และทุกองค์ประกอบให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ ในปี 2019 ทิศทางของเฟมินิสต์ก็จะเข้ามาสู่เรื่องใกล้ตัวอย่างการให้คุณค่าในตัวเองมากขึ้น มากกว่าการเรียกร้องสิทธิ์ที่ไกลตัวหรือคอยตั้งคำถามกับเรื่องอย่างนางงามล้าสมัย ถ้าหากเริ่มต้นจากคุณค่าในตัวเองแล้วพลังที่ผู้หญิงสร้างออกมาก็เข้าคอนเซปต์ 'Empowering Woman' ซึ่งทุกคนเชื่อว่าพลังอันน่ามหัศจรรย์นี้สามารถเปลี่ยนโลกได้จริง ๆ

 

     โลกกำลังวิ่งไปอย่างไม่มีหยุด ทุกวันจะมีประเด็นเรื่องราวเกิดขึ้นอยู่เสมอ คำถามเหล่านี้เป็นเพียงกระบอกเสียงอีกด้านหนึ่งให้ผู้คนได้ตระหนักและรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนของคนที่มีพลังพอที่จะพูดให้โลกรับฟัง คอนเซปต์ 'Empowering Woman' ประสบความสำเร็จถ้าวัดด้วยความสามารถแห่งการคิดวิเคราะห์กลั่นออกมาเป็นคำตอบ เมื่อนำทั้งคำถามและคำตอบมาประกอบกันแล้วแสดงให้เห็นว่าเพียงแค่ไม่กี่ประโยคสามารถชี้ให้เห็นถึงทิศทางของโลกในอนาคตได้ไม่มากก็น้อย หรือมากไปกว่านั้นอาจจะเปลี่ยนโลกได้ในชั่วข้ามคืน!

WATCH

คีย์เวิร์ด: #MissUniverse #MU18