ในโลกที่ดนตรีไร้ข้อจำกัดแบบปัจจุบันความนิยมชมชอบจึงไม่หยุดแค่แนวเพลงใดแนวเพลงหนึ่งอีกต่อไป มากไปกว่านั้นแต่ละแนวยังแตกแขนงสไตล์ย่อยๆ ออกมาเข้าถึงผู้เสพอย่างลึกซึ้งมากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่ปี 2018 จนถึงตอนนี้กระแสเพลงแรปฮอตฮิตทั้งในและต่างประเทศ ชื่อของ Drake, Travis Scott, Post Malone, YoungOhm, Twopee, และศิลปินสายฮิปฮอปอีกมากมายกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในวงการ ขึ้นสู่ระดับท็อปอย่างแท้จริง แต่ทว่าเมื่อช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีเพลงสุดปั่นของศิลปินไม่เปิดเผยชื่อจริงออกมาจนตอนนี้เป็นกระแสไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว

     TangBadVoice คือชื่อที่เราพูดถึงกันในวันนี้ แรปเปอร์ปริศนาได้ปล่อยเพลงมาทั้งหมดรวดเดียว 3 เพลงลงบนแพลตฟอร์มยูทูป แต่ละเพลงไม่มีมิวสิกวิดีโอ ไม่มีภาพเนื้อเพลงให้อ่าน เป็นเพียงรูปฝูงห่านสีหน้าวายป่วง แล้วอะไรที่พิเศษจนทำให้เราต้องหยิบยกมาพูดถึง คำตอบคือสไตล์ที่แปลกใหม่ สิ่งที่เราแทบหาคำนิยามไม่ได้ว่าจะเรียกสไตล์นี้ว่าอะไรมันไม่การแทรป ไม่ใช่ “Old School” และไม่ใช่การแรปที่ดุดันจัดจ้าน แต่มันคือการเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ด้วยเนื้อหาที่เหมือนจะมีสาระและไม่มีสาระปะปนกันไป เพลงที่เป็นปรากฏการณ์ที่สุดเห็นจะเป็นเพลง “เปรตป่ะ” ที่แรปเปอร์หนุ่มลึกลับคนนี้ได้ใช้วิธีการแรปเล่าเรื่องโดยใช้เส้นเรื่องการคุยตบมุกกันไปมาของบุคคล 2 คน แต่ที่น่าเหลือเชื่อคือเขารับบทเป็นตัวละครทั้ง 2 คนและ 2 คนนั้นก็แรปโต้ตอบกันราวกับเล่นมุกเป็นอาชีพ ความปั่นป่วนครั้งนี้จะกวนแค่ไหนลองคลิกฟังจากลิงก์ด้านบนแล้วจะรู้ว่าคำว่า “อ๋อ!” มันติดอยู่ในโสตประสาทแค่ไหน

     ยังไม่หมดแค่เพลงแรกเท่านั้น อีกหนึ่งเพลงที่สร้างปรากฏการณ์ให้เราๆ ได้หัวหมุนและอมยิ้มกันต่อคงเป็นเพลง “ล้านนึง” เนื้อหาเล่าถึงมือปืนรับงานต่อกันเป็นทอดๆ จ้างวานเป็นลูกโซ่จนกระทั่งคนสุดท้ายเห็นว่าค่าจ้างไม่คุ้มความเสี่ยงจึงใช้เงินส่วนหนึ่งเพื่อติดต่อเหยื่อเพื่อแกล้งตาย แต่เหตุการณ์ไม่เป็นดั่งที่คิด เหยื่อวางสายและแจ้งตำรวจ เรียกว่า “เกม” กันยกวง จากเงินล้าน ความงก และสู่เรือนจำ เหตุการณ์ชวนอลหม่านแบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนหยิบเนื้อหามาทำเพลง แต่ที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้นคือแรปเปอร์หนุ่มแต่งเพลงเล่าเรื่องโดยใช้แรงบันดาลใจจากข่าวจริงในประเทศจีนซึ่งใช้วิธีการจ้างวานฆ่าแบบลูกโซ่จนโดนจับกลายเป็นข่าวอาชญกรรมที่ขำขันที่สุดข่าวหนึ่งของโลก

     “ตั้งอะไร” ความโอหังในการเช็คเด็กใหม่ด้วยความโหดเหี้ยมแต่กลับเจอ “ตั้ง” ดีกรีนักเกรียนยอดมนุษย์ที่พร้อมอวดความเก่งกาจเสมอ ไม่ว่าจะตีรันฟันแทง ไปจนถึงพฤติกรรมดุจ “Bad Boy” แถมตั้งคำถามกับนักเรียนเจ้าถิ่นจนทำเอาพวกเขาเหวอไปเลย ทุกคำสัมผัสกันอย่างน่าเหลือเชื่อ และน่าเหลือเชื่อขึ้นไปอีกเมื่อคำเหล่านั้นสร้างภาพเสมือนให้คนฟังเห็นภาพตาม เพราะแต่ละคำที่ใช้ล้วนเป็นคำง่ายๆ ร้อยเรียงกัน และยิ่งคนเข้าใจง่ายเท่าไหร่ก็ยิ่งนึกภาพตามได้เท่านั้น แต่แล้วตอนจบก็หักมุมสุดฤทธิ์ทำเอาอดขำกันไม่ได้ ใครยังไม่เคยฟังต้องฟังด่วนขนาด เต๋อ-นวพล ผู้กำกับชื่อดังยังต้องแชร์ ใครพลาดระวังจะตกเทรนด์กันนะ...