หากพูดถึงชื่อ Sonia Rykiel สาวกแฟชั่นหลายคนจะต้องจดจำผลงานสุดสร้างสรรค์ที่ผลักดันแฟชั่นสายเฟมินีนมานานหลายทศวรรษอย่างแน่นอน Nathalie Rykiel ลูกสาววัย 66 ปีก็นับเป็นผู้สานต่อเจตนารมณ์ในการผลิตผลงานคุณภาพระดับสูงมาเสิร์ฟให้กับแฟนคลับของแบรนด์เสมอมา แต่ด้วยสถานการณ์ในช่วงปี 2012 เป็นต้นมาที่ซอนย่าเริ่มมีอาการป่วย จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2016 ดูเหมือนว่าทิศทางของแบรนด์จะไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะมีรายงานว่าหลังจากซอนย่าจากโลกนี้ไป แบรนด์ก็ไม่สามารถคงสถานะอยู่ในระดับเดิมได้ และนั่นทำให้ยอดขายเริ่มตกลงและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบอันน่าเสียดาย

Nathalie และ Sonia Rykiel ในโชว์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2008 / ภาพ: Jacques Brinon/AP

     ในช่วงสุดท้ายของแบรนด์เกิดโปรเจกต์ตกแต่งร้านสำคัญคือการใช้หนังสือนับหมื่นเล่มมาประดับตกแต่งภายในร้านสาขาต่างๆ ทั่วโลก โดยสาขาในปารีสมีหนังสือมากกว่า 40,000 เล่ม นาตาลีมองว่าหลังจากร้านปิดตัวหนังสือเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เธอจึงริเริ่มโปรเจกต์การกุศลที่ใช้หนังสือเป็นตัวกลางในการถ่ายทอดทรัพยากรให้ถึงมือคนวงกว้างให้มากที่สุด เธอเปิดโอกาสให้ทุกคนนำหนังสือมาแลกเปลี่ยนกัน นอกจากนี้ยังเชิญชวนเหล่าแขกของแบรนด์มาบริจาคเพื่อรับหนังสือจากร้านไปด้วย โดยเงินบริจาคจะถูกนำไปมอบให้ Libraries Without Borders องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มุ่งเน้นเรื่องการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางความรู้และช่วยเหลือชุมชนผู้ด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น

ร้าน Sonia Rykiel สาขาปารีสที่ใช้หนังสือตกแต่งร้านกว่า 40,000 เล่ม / ภาพ: Wallpaper

     โปรเจกต์นี้ไม่ใช่เพียงการนำของตกแต่งร้านมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อบริจาคเท่านั้น เพราะนาตาลีเองก็เป็นนักเขียนเองด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเธอเขียนหนังสือไปแล้วกว่า 6 เล่ม มากไปกว่านั้นซอนย่า แม่ของเธอยังมีความสนิทสนมกับนักเขียนชื่อดังหลายต่อหลายคน สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าที่แบรนด์เลือกนำเสนอแฟชั่นในร้านที่เต็มไปด้วยหนังสือนั้นกำลังสื่อถึงความชื่นชอบและบุคลิกคนรักหนังสือของแม่ลูกคู่นี้ได้เป็นอย่างดี เหตุผลสุดท้ายในการจัดการหนังสือจำนวนมหาศาลนี้ นาตาลีกล่าวว่าต้องการรีเซ็ตเพื่อเริ่มต้นใหม่ เพราะหนังสือจำนวน 40,000 เล่มนี้เป็นสัญลักษณ์ที่ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบมากเพียงใดก็ยังชวนให้เรานึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ของร้านแห่งเดิมเสมอ ฉะนั้นการจะเริ่มต้นใหม่ก็ต้องละทิ้งสิ่งเก่าบางอย่างไปด้วยเช่นกัน

ข้อมูล:

wwd.com

news.yahoo.com