กลิ่นเขม่า และควันไฟที่พวยพุ่งอยู่ท่ามกลางมหานครปารีส ยังคงคุกรุ่นอยู่ในความทรงจำ แม้แต่วินาทีที่ส่วนยอดของอาสนวิหารนอเทรอดามต้องสยบยอมต่อเปลวเพลิง ก็ยังคงเป็นฝันร้ายของชาวปารีสอยู่เสมอ เหตุไม่คาดฝันในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าหดหู่ใจกับอาสนวิหารที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังให้เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์โลกมากว่า 850 ปี และแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมตันแบบแห่งยุคกอธิกตอนต้นแห่งนี้ Rose Windows และรูปสักการะเทวศักดิ์สิทธิ์ พร้อมของมีค่ามากมายภายในตัวอาสนวิหาร จะได้รับความยืนยันว่าปลอดภัยแล้วก็ตาม หากหลังจากนี้ทั่วโลกก็คงจะได้บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ และหันกลับมาให้ค่ากับสถานที่ทางประวัติศาสตร์กันมากขึ้นกว่าเดินเป็นแน่

ภาพ : NBC News

 

     หลังจากเหตุการณ์สุดสลดในครั้งนี้ เรายังได้เห็นมิตรจิตมิตรใจจากชาวปารีสเอง และทั่วโลกที่พร้อมส่งกำลังใจกลับมาให้ชาวฝรั่งเศสนั้นได้กลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ทั้งการบูรณะนอเทรอดามแห่งนี้ และสภาพจิตใจของประชาชน ไม่เว้นแม้กระทั่งราชวงศ์อังกฤษ ที่นำโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ยังได้ทรงส่งข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัย และได้รับการแชร์ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ชื่อว่า The Royal Family ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ใจความว่า “เจ้าชายฟิลิป และข้าพเจ้า รู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นรูปถ่ายเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมวิหาร Notre-Dame และฉันขอแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจต่อการบริการฉุกเฉินของเหล่านักดับเพลิง ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อพยายามรักษาอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่สำคัญนี้เอาไว้ และขออธิษฐานไปพร้อมกับชาวฝรั่งเศสในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้” นับเป็นการเคลื่อนไหวแรกของราชวงศ์อังกฤษที่ยังให้เห็นน้ำใจที่มีต่อประเทศฝรั่งเศสไม่น้อย

     ไม่เพียงเท่านั้น เพราะในฝั่งของเจ้าชายชาลส์ ก็ยังได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นกัน โดยมีใจความส่วนหนึ่งว่า "ภรรยาของฉัน และตัวฉันเองก็รู้สึกใจสลายไม่ต่างจากคนฝรั่งเศสในเวลานี้ กับเรื่องของเปลวไฟอันน่าสยดสยองที่มหาวิหารนอเทรอดามในเย็นวันนี้ และต้องการแจ้งให้ทุกคนได้ทราบทันทีว่า เรากำลังคิดถึงคนฝรั่งเศสมากเพียงใดในเวลานี้" ซึ่งข้อความจากสาส์นแสดงความเสียใจในครั้งนี้ ยังได้ถูกแชร์ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ Clarence House สู่สายตาสาธารณชนอีกด้วยเช่นกัน...