เมื่อความยอดเยี่ยมของฝีมือผูกสัมพันธ์กับตัวตนอันน่าชื่นชม บุคคลนั้นย่อมประสบความสำเร็จและได้รับคำยกย่อง Oscar de la Renta ดีไซเนอร์ผู้ฝ่าฟันหลายอุปสรรคพิสูจน์ฝีมือการออกแบบให้ทั้งโลกได้เห็นเป็นเวลาหลายสิบปี ในขณะเดียวกันบทบาทสำคัญต่อโลกแฟชั่นและประเทศชาติกลับมาอยู่ควบคู่กันได้แบบน่าประหลาดใจ ชีวิตของชายผู้ได้รับการนับถือในหลากหลายแวดวง ประวัติศาสตร์จารึกเขาไว้ในหน้าวิชาเรียนหลายแขนง วันนี้เราจะพาทำความรู้จักว่าความสุดยอดของดีไซเนอร์ผู้ไม่ได้เป็นแค่ดีไซเนอร์นั้นพิเศษขนาดไหนเราถึงต้องรู้จักเขาไว้...

Oscar de la Renta ในช่วงวัยหนุ่ม / ภาพ: Farah Novias

     เด็กหนุ่มเกิดในเมืองซานโต โดมิงโกในวันที่ 22 กรกฎาคม ปี 1932 เขาคือเด็กผู้ชายคนเดียวจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน การหล่อหลอมด้วยพฤติกรรมของผู้หญิงทำให้เขาได้คลุกคลีกับกลิ่นอายความเฟมินีนมาตั้งแต่เด็ก จากความคาดหวังในการเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ออสการ์ต้องเผชิญการเลือกชะตาชีวิตระหว่างเส้นทางการเรียนธุรกิจของพ่อ กับความตั้งใจในการศิลปะ และเขาก็ได้อ้อนวอนแม่จนสามารถดันตัวเองเข้าสู่แวดวงศิลปศาสตร์ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปนได้สำเร็จตั้งแต่อายุ 19 ปี โอกาสที่เขาได้พบเจอคนในช่วงชีวิตกลางคืนคือแสงสว่าง การมีคอนเนกชั่นคือเรื่องประเสริฐในแวดวงนี้และเด็กหนุ่มก็ไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวว่ามีความสำเร็จรอเขาอยู่ภายภาคหน้า เขาแค่ต้องการทำในสิ่งที่เขาชอบแค่นั้นเอง

Francesca Braggiotti และทูตอเมริกาประจำประเทศสเปน John Davis Lodge ในสมัยเริ่มก้าวเดินของ Oscar de la Renta / ภาพ: WIKI

     เชื่อไหมว่าวัยรุ่นผู้ขวนขวายศิลปะในทุกช่วงเวลาของชีวิตใช้ความชอบสร้างเงินพิเศษจากการวาดภาพสเกตช์เพื่อขาย และวันหนึ่งมันก็ไปเข้าตา Francesca Braggiotti Lodge ภรรยาของ John Davis Lodge ทูตอเมริกันในสเปน เธอประทับใจจนถึงขั้นต้องการให้ออสการ์ตัดชุดให้เลยด้วยซ้ำ ย่างก้าวสำคัญของเด็กโดมินิกันผู้โชคดีก้าวกระโดดข้ามขั้น ในไม่ช้าเขาก็มีโอกาสได้ฝึกงานกับกูตูริเยร์คนสำคัญของโลกอย่าง Cristóbal Balenciaga เด็กหนุ่มนักล่าฝันชาวโดมินิกันรับหน้าที่เขียนแบบและสเกตช์ให้กับลูกค้าของห้องเสื้อ วันหนึ่งออสการ์ร้องขอให้คริสโตบัลย้ายเข้าไปสตูดิโอหลักเพื่อดูแลไลน์เสื้อผ้าของแบรนด์อย่างเต็มตัว แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือความผิดหวัง เจ้าของแบรนด์สุดโด่งดังบอกให้เขารอไปอีกสักปีเพราะเขามองว่าความสามารถของออสการ์ยังไม่ถึงขั้น

Elizabeth Arden ผู้ให้แสงสว่างกับ Oscar de la Renta เมื่อครั้งต้องตะลุยชีวิตในสหรัฐอเมริกา / ภาพ: eTail East

     คำพูดนี้ทำให้ออสการ์ดีดตัวออกจากประเทศสเปนมุ่งสู่ปารีส Dior กำลังรอเขาอยู่ แต่เขาปัดข้อเสนอเมื่อเจอดีไซเนอร์ชาวสเปนอย่าง Antonio del Castillo ดีไซเนอร์ประจำแบรนด์ Lanvin เขาพูดสเปนเหมือนกับออสการ์และนั่นทำให้ทั้งคู่ถูกคอและพร้อมร่วมงานกันในเร็ววัน ทว่าความมุ่งมั่นเขาสุดขีดเกินกว่าจะหยุดที่จุดใดจุดหนึ่งนานๆ ออสการ์เลือกเผชิญก้าวสำคัญก้าวใหม่ ณ ดินแดนสหรัฐฯ กับ Elizabeth Arden ต่อด้วยบริษัท Seventh Avenue นอกจากนี้ช่วงปี 1993 เขายังถือเป็นคนโดมินิกันคนแรกที่ทำงานเป็นหัวเรืออกแบบให้ห้องเสื้อฝรั่งเศสอย่าง Pierre Balmain ในคอลเล็กชั่นโอต์ กูตูร์ปีนั้น ก่อนจะตั้งแบรนด์ตัวเองอย่างจริงจัง ขายทั่วโลกในปี 2003 ความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องการขาย แต่คือการออกแบบชุดให้กับเหล่าเซเลบริตี้จำนวนมากในงานพรมแดงต่างๆ อีกทั้งยังเคยออกแบบชุดให้กับบุคคลสำคัญหลายต่อหลายคน ตัวอย่างเช่นสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ทั้ง Nancy Reagan และ Hilary Clinton แต่บทบาทการเป็นที่ดีไซเนอร์ที่เราคุ้นเคยไม่ใช่ความสุดยอดอันน่าจดจำเดียวของออสการ์

Oscar de la Renta และเหล่านางแบบในลุคที่เขาออกแบบในปี 1967 / ภาพ: Arthur (Pinterest)

     ออสการ์ออกแบบชุดเชื่อมความสัมพันธ์อย่างชุดเจ้าสาว ตัวเขาเองก็เป็นคนเชื่อมสัมพันธ์งเก่งเช่นเดียวกัน อ้างอิงถึงตำราการติวข้อสอบการทูตของประเทศไทย มีการอ้างอิงถึงชื่อบุคคลอย่างออสการ์เข้ามาด้วย แง่มุมนี้สำคัญอย่างไร สำคัญตรงสะท้อนให้เห็นว่าชายหนุ่มสัญชาติโดมินิกัน-อเมริกันคนนี้ มีมากกว่าแค่ฝีมือ แต่เขามีสมองในการจัดการอะไรหลายอย่าง และเขานี่เองนี่สามารถกระโดดขึ้นไปบนยอดสถานะบุคคลต้นแบบของคนโดมินิกันได้สำเร็จ การันตีด้วยรางวัลทางด้านแฟชั่นคือ “Coty Award” ซึ่งถือเป็นออสการ์ของแวดวงนี้ ในปี 1967 และ 1968 อีกทั้งยังได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศในปี 1973 อีกด้วย

Sam Brownback ทูตเกี่ยวกับเรื่องศาสนาของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของการนิยามคำว่า ambassador-at-large / ภาพ: World Watch Monitor

     แล้วสถานะอีกสถานะหนึ่งในหนังสือติวทางรัฐศาสตร์คืออะไร...คำตอบคือทูต ใช่! อ่านกันไม่ผิดแน่อนน ยอดฝีมือทางการออกแบบของประเทศและอยู่ในระดับโลกคือผู้รับตำแหน่ง ambassador-at-large หรือถ้าแปลเป็นภาษาราชการไทยคือเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง โดยจะแตกต่างจากเอกอัครราชทูตทั่วไปตรงวิธีการได้มาซึ่งตำแหน่งและหน้าที่จำเพาะ ตำแหน่งของออสการ์นั้นถูกแต่งตั้งขึ้นจากความน่าเลื่อมใสและเป็นตัวอย่างที่ดีคล้ายการเป็นไอดอลของประเทศ ชายผู้นี้โดดเด่นในการขวนขวายหาความสำเร็จ ความสุดยอดทางการออกแบบ คอนเนกชั่นที่เขาสั่งสมมาตั้งแต่วัยเยาว์เปรียบเสมือนมีทักษะของการเป็นทูตอยู่ในตัวจนสาดส่องเข้าสู่ตาคณะกรรมการและได้รับการแต่งตั้งรับตำแหน่งนี้และถูกเรียกสั้นๆ ว่า “ทูต” อย่างไม่เป็นทางการ

บ้านของ Oscar de la Renta ในประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน / ภาพ: theartoftheroom

     ถึงแม้ว่าออสการ์จะถือทั้งสัญชาติโดมินิกันและอเมริกัน แต่เขามีความผูกพันกับประเทศบ้านเกิดอย่างมาก บ้าน 2 หลัง ณ คาซา เด คัมโป และปุนตา คานา ในประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน และอีกหลังในเมืองเคนต์ รัฐคอนเนกติกัตเป็นสัญญะแสดงถึงความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์อันดีเกี่ยวกับทั้ง 2 สัญชาติของออสการ์ เครดิตความมั่นคง ความโดดเด่น ความเฉลียวฉลาด และอีกหลายปัจจัยผลักดันเขาให้ขึ้นมารับตำแหน่งทูตนี้ได้อย่างสมเกียรติ ถึงแม้จะไม่ใช่เอกอัครราชทูตตามเส้นทางรัฐศาสตร์อย่างเป็นทางการก็ตาม หน้าที่ของเขาจะอธิบายให้ลึกซึ้งเข้าไปอีกคือเป็นเหมือนภาพลักษณ์ของประเทศ อีกทั้งยังสามารถเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับเรื่องที่ตนเองเชี่ยวชาญโดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟชั่น รวมถึงการนั่งเก้าอี้การประชุมสหภาพฯ ต่างๆ อีกด้วย

ชายคนนี้จะอยู่ในหน้าจารึกวงการแฟชั่นและศาสตร์การทูตตลอดไป Oscar de la Renta / ภาพ: NPR

     สุดท้ายนี้ถ้าจะให้เรานิยามชีวิตของยอดฝีมือการออกแบบชุดราตรีคนสำคัญของโลก ผู้ละเมียดละไมกับชุดแต่งงาน เขาอาจจะไม่ใช่ทูตตามวิถีการสอบคัดเลือกแบบที่เราคุ้นชินตามหลักรัฐศาสตร์ แต่ถ้าแบรนด์มีคำว่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ ประเทศสักประเทศก็ต้องมีตัวแทนเป็นภาพลักษณ์อยู่เสมอ และเด็กหนุ่มผู้ดิ้นรนเพื่อสิ่งที่ตนเองฝันกลายเป็นสัญลักษณ์ประเทศโดมินิกัน เขาคือตัวอย่างว่าความสำเร็จเกิดได้จากความพยายามทำในสิ่งที่ตัวเองรัก สถานะสร้างได้จากความสำเร็จที่แลกด้วยน้ำพักน้ำแรง ประสบการณ์สอนให้เราเดินหน้าและพัฒนาอยู่เสมอ อุปสรรคของชีวิตสอนให้เราก้าวข้ามและยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรักและอาลัยเนื่องในโอกาสการจากไปแบบไม่มีวันกลับครบ 5 ปีของดีไซเนอร์และผู้พ่วงตำแหน่ง “ทูต” ประจำประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน “ออสการ์ เด ลา เรนตา”