ประกาศออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับผู้เข้าแข่งขัน 11 คนสุดท้ายในโครงการ LE GRAND PRIX DU CARRÉ HERMÈS International scarf design competition ครั้งแรกของโลกที่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำอย่าง HERMÈS จัดการประกวดออกแบบลายผ้าพันคอ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญที่ถูกพูดถึงมาเป็นอันดับต้นทั่วโลก ที่ครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้แสดงฝีมือการออกแบบผ้าพันคอให้กับแบรนด์ เพื่อคัดเลือกผลงานให้เหลือเพียงหนึ่งเดียว ก่อนนำมาต่อยอดผลิตเป็นคอลเล็กชั่นเพื่อวางจำหน่ายจริงทั่วโลก การแข่งขันคราวนี้ทาง HERMÈS จับมือกับสื่อดีไซน์ยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง designboom จัดการแข่งขันนี้ขึ้นมา

โฉมหน้าของผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 11 คน / ภาพ : designboom

 

     ย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา Pierre-alexis dumas ผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะของ HERMÈS ได้ทำการคัดเลือกผู้เข้ารอบ 11 คนจากผู้สมัครทั่วโลกกว่า 5,500 คน ทั้ง ฮ่องกง, ไทย, เกาหลี, ญี่ปุ่น, อุรุกวัย, อังกฤษ, เบลเยี่ยม และฝรั่งเศส ก่อนที่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2562 พวกเขาทั้ง 11 คนจะได้รับเทียบเชิญให้เข้าศึกษางานในกรุงปารีส และเมืองลิยง ประเทศฝรั่งเศส เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแบรนด์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นประประโยชน์ในการออกแบบเพื่อการแข่งขันต่อไป

     โดยผู้เข้าแข่งขัน 1 ใน 11 คนที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปนั้น ยังรวมไปถึงศิลปินชาวไทยมากความสามารถอย่าง โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบมือหนึ่งของเมืองไทย ที่เคยฝากผลงานสำคัญไว้ให้กับวงการแฟชั่น และดีไซน์ของประเทศไทย หรือที่หลายคนในวงการแฟชั่นคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอุตสากรรมแฟชั่นของไทย ที่ศิลปินชาวไทยมีโอกาสได้แสดงฝีมือให้กับวงการแฟชั่นระดับสากลให้ได้เห็น

     โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ยังเป็นอีกหนึ่งศิลปินฝีมือดีที่เคยร่วมงานกับโว้กประเทศไทย ในการวาดภาพประกอบพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ถูกตีพิมพ์ในโว้กประเทศไทยฉบับพิเศษ ประจำเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 และในครั้งนี้โว้กประเทศไทย ไม่พลาดรวบรวมผลงานของศิลปินคนนี้มาให้ได้ชมกันแล้วที่นี่...

     

หนังสือรวมผลงานตลอดชีวิตการทำงานของ โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ในชื่อ capital O 

 

     โดยการตัดสินรายชื่อผู้ชนะเลิศในรอบสุดท้ายนี้ จะถูกประกาศผลในวันที่ 1 มีนาคม 2563 ที่จะถึงนี้ และผลงานของผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว จะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นของ Hermès ที่จะวางขายทั่วโลกต่อไป