FASHION
คุยกับ 'มี่-เนตรดาว' เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีแบรนด์ LANDMEÉ กับการโตขึ้นและมีเรื่องให้สนุกไม่รู้จบกว่า 20 ปีแล้วที่เจ้าของแบรนด์คนนี้ฝ่าอุปสรรค เติบโตขึ้นตามวัย พร้อมมองหาความท้าทายและเปิดกว้างเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาแบรนด์ให้เป็นที่สนใจอยู่เสมอ |
ย้อนกลับไปวันแรกจากร้านเล็กๆ ในสยามสแควร์จนวันนี้กว่า 20 ปีแล้วที่ 'มี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร' ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และเจ้าของแบรนด์ LANDMEÉ (แลนด์มี่) พาแบรนด์ฝ่าอุปสรรค เติบโตขึ้นตามวัย พร้อมมองหาความท้าทายและเปิดกว้างเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งยังคงซิลูเอตอันคุ้นตาของเสื้อผ้ายุควินเทจ เทคนิคงานปักมือ ตลอดจนผ้าลูกไม้ที่ล้วนแล้วแต่ถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์และได้กลายมาเป็นซิกเนเจอร์ซึ่งถูกสอดแทรกอยู่ไว้ในทุกคอลเล็กชั่น
Vogue: LANDMEÉ เกิดขึ้นได้อย่างไร
Mee: จริงๆ ชื่อของ LANDMEÉ มาจากชื่อตัวเองที่อยากให้คนรับรู้ว่าแบรนด์นี้เป็นดินแดนของเรา เป็นสิ่งที่เราชอบและอยากส่งต่อสไตล์ที่เป็นเราให้คนที่ชื่นชอบแฟชั่น จึงเริ่มทำเสื้อผ้าครั้งแรกตั้งแต่สมัยที่เรียนศิลปะ เพราะช่วงนั้นมี่อยากใส่อะไรที่ไม่เหมือนใคร และสไตล์ที่เราอยากใส่ยังไม่มีใครทำขาย เลยค่อยๆ ลองผิดลองถูกมาตั้งแต่ปี 2002
V : ในสมัยนั้นของ LANDMEÉ เป็นอย่างไรบ้าง
Mee: แรกๆ ที่ร้านทำเสื้อสายเดี่ยวขาย นอกนั้นก็จะเป็นเสื้อยืด ซึ่งเป็นช่วงยุคโบว์-จอยซ์ Triumphs Kingdom เราเลย ถือเป็นแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยยุคแรกๆ ที่ทำให้ย่านสยามสแควร์กลายเป็นแหล่งแฟชั่นของวัยรุ่นนะมี่ว่า และต่อยอดมาเรื่อยๆ นั่นคือเราต้องรู้จักตัวเอง รู้สไตล์ที่ถนัด ทำแล้วต้องสนุก เพื่อทุ่มเทให้เต็มที่ อีกทั้งยังต้องหาเอกลักษณ์ที่แตกต่างชัดเจน เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้แลนด์มี่ยืนหยัดมาได้กว่า 20 ปี ถ้าเทียบกับผู้หญิงก็คงจะเป็นวัยที่โตเต็มวัย มองเห็นโลกเป็นเรื่องสนุก มีเรื่องใหม่ๆ ท้าทายให้ลองทำอยู่ตลอดเวลา
WATCH
V : เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ LANDMEÉ
Mee: งานดีไซน์ของ LANDMEÉ มีการพัฒนามาเรื่อยๆค่ะ และทุกวันนี้ในทุกคอลเล็กชั่น เรายังมีการนำจุดกำเนิดตั้งแต่ยุคเริ่มก่อตั้งแบรนด์มาใช้เช่น ผ้าลูกไม้ กางเกงยีนส์เอวต่ำ จั๊มป์สูทผ้าขนหนู รวมไปถึงงานฝีมือที่แบรนด์มาสอดแทรกใช้อยู่ตลอด เช่น เทคนิคการรีดเพชร งานปักมือ อีกทั้งรูปทรงหัวใจกับโบว์ยังคงเป็นรายละเอียดและดีเทลหลักที่สื่อถึงคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนของสาวแลนด์มี่ที่มีความซุกซนซ่อนไปด้วยความเซ็กซี่ ผ่านเทคนิคการตัดเย็บอันประณีตโดยช่างฝีมือของแบรนด์ โดยปัจจุบันลูกค้าก็ให้การตอบรับและชอบในงานดีเทลผ่านชุดต่างๆ ที่แลนด์มี่ทำอยู่เสมอค่ะ
V : ช่วยเล่าถึงคอลเล็กชั่น “LANDMEÉ 20 Years of Love” สักหน่อย
Mee: ในช่วงฉลองการอยู่ในวงการมายาวนานถึง 2 ทศวรรษ ทางแบรนด์ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น “LANDMEÉ 20 Years of Love” ที่ไม่เพียงคงไว้ซึ่งรายละเอียดดั้งเดิมของแบรนด์ แต่ในคอลเล็กชั่นพิเศษนี้ยังมีการนำเอาเทรนด์และกลิ่นอาย Y2K มาประยุกต์ใช้ เช่นเทคนิค Airbrush, งานกราฟิตี้ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมดนตรีและเสื้อวินเทจยุคมิลเลนเนียลส์ ซึ่งตรงกับช่วงก่อตั้งแบรนด์, งานปักตัวอักษรบทกวีบนผ้าลูกไม้อันเป็นปรัชญาของแบรนด์จนกลายเป็นลายลูกไม้ชิ้นงานใหม่ในแบบฉบับของ LANDMEÉ อีกทั้งพวกยีนส์ในคอลเล็กชั่นนี้ได้มีการใช้เทคนิคเลเซอร์ Wording “LANDMEÉ 20” เพื่อเพิ่มความพิเศษและย้ำเตือนความทรงจำของแลนด์มี่ใน 20 ปีที่ผ่านมา และไม่เพียงเท่านี้แบรนด์ยังมีโปรเจกต์พิเศษที่จะเซอร์ไพรส์แฟนๆ ของแลนด์มี่ในโอกาสฉลองครบรอบ 20 ปี ในช่วงปลายปี 2022 นี้อีกด้วยค่ะ (ยิ้ม)
มี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร' ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และเจ้าของแบรนด์ LANDMEÉ (แลนด์มี่)
V : 20 ปีที่ผ่านมาได้ให้อะไรเราบ้าง
Mee: ตลอดระยะเวลา 20 ปีในวงการแฟชั่นเมืองไทย แบรนด์ได้เรียนรู้และเติบโตมาโดยตลอด ตั้งแต่แรกเริ่มมี่ลงมือทำเองในทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้น ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ พัฒนา แน่นอนว่าแบรนด์พบเจอกับปัญหาไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ แต่ด้วยพื้นฐานการทำสิ่งที่ชอบเลยทำให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ มีการปรับตัวในด้านการทำงาน มีการพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ ในการทำเสื้อผ้า หรือแบบใหม่ๆ ที่จะทำให้ลูกค้าตื่นเต้นกับคอลเล็กชั่นของแบรนด์อยู่ตลอด เพราะฉะนั้น 20 ปีที่ผ่านมา มันให้อะไรเรามาก ทั้งความอดทน ความเป็นทีม และที่สำคัญมันทำให้เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เรารักจริงๆ
มี่-เนตรดาว วัฒนะสิมากร' ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์และเจ้าของแบรนด์ LANDMEÉ (แลนด์มี่)
V : เคล็ดลับความสำเร็จของ LANDMEÉ
Mee: เคล็ดลับความสำเร็จเหรอ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมามี่ไม่เคยมองตัวเองว่าเป็นดีไซเนอร์เลย เราคิดแค่ว่าเราเป็นคนทำเสื้อผ้าแล้วมีคนชอบในสิ่งที่เราทำ มี่ไม่ได้ไปเรียนแฟชั่นโดยตรง เลยต้องแข่งกับตัวเอง พัฒนาตัวเอง พัฒนาในคุณภาพของเสื้อผ้า เพราะฉะนั้นต้องถามตัวเองก่อนว่าเรารักหรือชอบในสิ่งนั้นหรือเปล่า อย่ามองเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ให้ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นก่อนอันดับแรก และพัฒนาให้คนอื่นยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าจะปัญหาอะไร จะเป็นเรื่องสินค้าโดนก๊อปปี้ เจอโควิด-19 หรือน้ำท่วม หรือวิกฤติอะไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องสู้มากที่สุดก็คือตัวเองจริงๆ อะไรก็ทำได้ถ้าใจเราสู้และมีไฟในตัวเอง นั่นคือแนวคิดที่มี่เชื่อมาตลอดค่ะ
จะเห็นได้ว่าแนวทางในการทำงานของแบรนด์คือทำในสิ่งที่ชอบ เพื่อส่งต่อสิ่งที่เรารักไปยังกลุ่มลูกค้า อีกทั้งยังต้องหาเอกลักษณ์ที่แตกต่างชัดเจน การสร้างสไตล์ที่เป็นแบบเฉพาะตัว และนี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ LANDMEÉ ยืนหยัดมาได้กว่า 20 ปี สามารถติดตามและอัปเดตคอลเล็กชั่นใหม่ได้ที่แลนด์มี่ แฟล็กชิปสโตร์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line Official @landmee และอินสตาแกรม @landmee_official
WATCH