เมื่อนับมาถึงเดือนนี้ เราทุกคนก็เดินทางกลับมาสู่เดือนแห่ง Pride Month อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง พร้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ และเสรีภาพของกลุ่มเพศทางเลือก LGBT ทั่วโลก และแน่นอนว่าโดยธรรมเนียมแล้วเราก็มักจะได้เห็นโลกใบนี้ได้ร่วมแสดงออก และตระหนักถึงเรื่องนี้กันอยู่เสมอในช่วงเดือนมิถุนายนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เฉกเช่นเดียวกับแบรนด์ IKEA ผู้จัดจำหน่ายของตกแต่งบ้าน โดยล่าสุดทางบริษัทอีเกียยังได้ประกาศเปิดโปรเจกต์ผลิตไอเท็มสุดพิเศษ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองกับเทศกาล Pride Month ครั้งนี้อีกด้วย...

1 / 2

2 / 2

     โดยในวันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป ทาง IKEA US ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเอาไว้ว่าจะมีการวางขาย (ที่ร้านเท่านั้น) กระเป๋าสำหรับช็อปปิ้งภายใต้ชื่อว่า Kvanting ที่มีความพิเศษอยู่ที่เฉดสีรุ้งของกระเป๋าใบนี้ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สีเดียวกันกับกลุ่มเพศทางเลือกนั่นเอง ซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้จะถูกผลิตออกมาในจำนวนจำกัด และกระเป๋าสายรุ้งรุ่นนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือกันกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ HRCF เพื่อช่วยในการระดมทุน และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ HRCF ให้กับคนโดยทั่วไปด้วยอีกทางหนึ่ง โดยผลกำไรทั้งหมดจากการจำหน่ายกระเป๋าสายรุ้งนี้ จะถูกส่งต่อให้กับโครงการของมูลนิธิที่สนับสนุนเด็กในกลุ่ม LGBT ทั้งในภาคส่วนของเยาวชน ชุมชน และครอบครัวต่อไป โดยกระเป๋าสายรุ้งสำหรับช็อปปิ้ง Kvanting ที่ว่านี้ สนนราคาขายปลีกอยู่ที่ $ 3.99 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 130 บาทเท่านั้น

     “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงาน และเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิที่รณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนในเดือน Pride Month นี้” Rafael Fantauzzi ผู้จัดการฝ่ายความหลากหลายในโครงการครั้งนี้ได้กล่าวไว้ ก่อนที่เขาจะกล่าวเสริมต่อไปอีกว่า “ที่องค์กรอีเกียของเรานี้ เราทุกคนมักจะคำนึงถึงคุณค่าของการอยู่ร่วมกันเสมอ เราเชื่อว่าความเท่าเทียมกันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และบ้านทุกหลัง ครอบครัวทุกครอบครัวถูกสร้างขึ้นอย่างเท่าเทียมกัน และทุกคนควรที่จะได้รับความรักจากบ้าน และครอบครัวอย่างเท่าเทียม และเสรี เพราะบ้านนับเป็นสถานที่ที่คุณสามารถจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราต่อความเสมอภาคของมนุษย์ และความเท่าเทียมของกลุ่มเพศทางเลือก ในวันที่ 1 มิถุนายน เพื่อนร่วมงานของเราทุกคนจะยกธงสายรุ้งเพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจที่มีอยู่อย่างเปี่ยมล้นในความเท่าเทียมกันของคน ในทุกสาขาของอีเกียด้วยเช่นกัน”