ย้อนดูความเป็นมาของกระเป๋าในตำนาน “Hermès Birkin” ที่ปัจจุบันกลายเป็นกระเป๋าในฝันของใครหลายคน

     นอกจากกระเป๋ารุ่น Kelly ของแบรนด์ Hermès ที่กลายเป็นกระแสนิยมอย่างกว้างขวางด้วยเหตุบังเอิญ เพียงแค่มีการจับภาพของ Grace Kelly เจ้าหญิงแห่งโมนาโกที่เรียกได้ว่าเป็นไอดอลของสาวๆ ยุคนั้น เธอนำกระเป๋าใบนั้นมาพรางการตั้งครรภ์ของเธอ จนภาพนี้ได้หลุดออกไปและทำให้กระเป๋ารุ่นเคลลี่กลายเป็นที่ต้องการของผู้หญิงในสมัยนั้นอย่างมาก หลังจากนั้นไม่นาน กระเป๋าอีกรุ่นของแบรนด์แอร์เมส อย่าง “Birkin” เอง ก็กลายมาเป็น It Bag ของสาวๆ อีกใบ ซึ่งก็เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นกัน...

Jane Birkin สุภาพสตรีสุดไอคอนิก ผู้เป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์กระเป๋ารุ่น Birkin ของแบรนด์ Hermès

 

     ใครจะไปนึกว่ากระเป๋าที่เป็นที่ต้องการในปัจจุบันอย่าง เบอร์กิ้น จะถูกคิดค้นขึ้นจากเหตุการณ์บนเครื่องบิน ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1984 บนไฟล์ตที่บินจากปารีสไปลอนดอน Jane Birkin นักแสดงสาวชาวอังกฤษ บังเอิญได้นั่งถัดกับ Jean-Louis Dumas ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารของแอร์เมสในขณะนั้น ซึ่งฌองได้มีโอกาสพูดคุยกับเจนในขณะเดินทาง กระทั่งเจนได้บ่นกับฌองเรื่องที่เธอหากระเป๋าที่เหมาะสมกับเธอไม่ได้เลย และฌองเองก็มองว่ากระเป๋าที่เธอใช้นั้นไม่เหมาะกับการใช้งานสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนอย่างเธอจริงๆ ด้วยสายตาอันเฉียบคม บวกกับความคิดสร้างสรรค์ของฌอน ทำให้เขานึกภาพกระเป๋าที่เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องแบกสัมภาระของลูกอ่อนในขณะเดินทางขึ้นมา โดยฌองได้สเกตช์ภาพกระเป๋าใบนั้นออกมาในทันที จนออกมาเป็นกระเป๋าหูหิ้วที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมกว้างๆ ที่มีความอ่อนนุ่ม คาดด้วยโลหะเงา พร้อมกับมีช่องว่างให้ใส่ขวดนมเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่าชื่อรุ่น “Birkin” นี้ มาจากนามสกุลของนักแสดงสาวคนนี้นั่นเอง

     หลังจากนั้นมา ฌองได้ประชุมกับทีมแอร์เมส จนกระทั่งกระเป๋าเบอร์กิ้นก็ถือกำเนิดขึ้นในที่สุด และมันก็กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะในยุคนั้นยังไม่มีกระเป๋าที่สามารถใช้งานได้จริงและดูทันสมัยในเวลาเดียวกัน ในตอนแรก กระเป๋าเบอร์กิ้นเป็นที่รู้จักในชื่อ “Travel Birkin” ในขนาด 40 เซนติเมตร และแน่นอนว่า เจน เบอร์กิ้นก็ต้องเป็นผู้ครอบครองกระเป๋าไอคอนิกในตำนานใบนี้เป็นคนแรก โดยกระเป๋าเบอร์กิ้นของเจนนั้นผลิตด้วยหนังที่มีสีดำล้วน พร้อมสลักตัวอักษรย่อ JB ไว้ที่กระเป๋า ซึ่งในปัจจุบัน กระเป๋าเบอร์กิ้นของเจนได้ถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Victoria & Albert ในลอนดอน จนถึงกลางเดือนมกราคมของปี 2022 

     เบอร์กิ้น เป็นกระเป๋าลักชัวรีที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่เต็มเปี่ยม ด้วยขนาดของกระเป๋าที่ใหญ่พอสำหรับจุของเยอะแบบสาวๆ ยุคใหม่ รวมไปถึงวัสดุต่างๆ ทั้งหนังไปจนถึงดีไซน์ ทำให้เบอร์กิ้นยังคงความเป็นลักชัวรีไว้ได้อย่างไม่มีที่ติ ในปัจจุบัน กระเป๋าเบอร์กิ้นมีให้เลือกหลายขนาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไซซ์ 25 เซนติเมตร 30 เซนติเมตร หรือ 35 เซนติเมตร ถึงแม้มันจะถูกปรับให้มีขนาดเล็กลงเล็กน้อย แต่แน่นอนว่ามันยังสามารถใส่ของได้เยอะเช่นเดิม

     นอกจากนี้ เบอร์กิ้นก็ถูกพัฒนาทั้งเรื่องของดีไซน์และฟังก์ชั่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Birkin Fray Fray ซึ่งเป็นกระเป๋าเบอร์กิ้นที่มีการผสมผสานวัสดุระหว่างหนังและผ้าแคนวาสที่มีขนาดเกือบเต็มใบ แต่งขอบกระเป๋าด้วยผ้าแคนวาสที่ดูรุ่ยๆ เล็กน้อยเพื่อให้เบอร์กิ้นใบนี้เป็นเบอร์กิ้นในแบบที่ดูสบายๆ ยิ่งขึ้น หรือ Birkin Cargo กระเป๋าเบอร์กิ้นที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจากเครื่องแต่งกายของทหาร มีการเย็บกระเป๋าเล็กๆ ด้านนอกถึง 5 ช่องเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย โดยมีการผสมผสานวัสดุทั้งหนังและผ้าแคนวาสได้อย่างลงตัว ทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบาและทนทาน อีกทั้งยังมีช่องสำหรับใส่ขวดน้ำที่ข้างกระเป๋า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถือไปทริปต่างๆ 

     ในปัจจุบัน จำนวนการผลิตกระเป๋าเบอร์กิ้นนั้นจำกัดอยู่ที่ประมาณ 12,000 ใบต่อปี ซึ่งทำให้ความต้องการในท้องตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกครั้งที่เดินเข้าไปในช็อปแอร์แมสแล้วจะได้กระเป๋าออกมา เพราะลูกค้าหลายๆ คนยังต้องจองคิวกันข้ามปี จนซีรีส์ชื่อดังอย่าง Sex and The City ก็เคยนำเรื่องการรอคิวกระเป๋าเบอร์กิ้นมาเป็นหนึ่งในฉากเลยทีเดียว

     ตามหลักแล้ว กระเป๋าทั่วไปที่ถูกเก็บไว้นานหรือตกรุ่นไปแล้วก็มักจะถูกลดมูลค่าลงหรือขายไม่ได้ราคา แต่น่าแปลกที่กระเป๋าของแอร์เมสแทบจะทุกรุ่นนั้นยิ่งเก่ายิ่งสวย อีกทั้งยังยิ่งเพิ่มมูลค่าเสมือนว่าเป็นช่องทางการลงทุนอย่างหนึ่ง โดยมีการวิจัยจากการเปรียบเทียบมูลค่าของเบอร์กิ้นและทองเป็นเวลา 35 ปี พบว่าการซื้อกระเป๋าเบอร์กิ้นนั้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการซื้อทองหรือการซื้อหุ้น อาจเป็นเพราะกระเป๋าของแบรนด์แอร์เมสมีดีไซน์ที่อมตะเหนือกาลเวลา รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพโดยผ่านการผลิตจากช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ ทำให้กระเป๋าของแอร์เมสแทบจะทุกใบนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงถุงกับกล่องสีส้มเปล่าๆ ก็มีมูลค่าจนมีการนำไปขายต่อบน eBay เช่นกัน