ในที่สุด Hedi Slimane ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนใหม่แห่ง Celine และผู้ตัดสินใจลบอักซองบนตัว 'É' ทิ้งก็ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ย้ายแบรนด์ใหม่ ก่อนที่คอลเล็กชั่นประกาศจุดยืนของเขาจะโชว์ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ณ ปารีสแฟชั่นวีก และนี่คือ 4 ใจความหลักๆ ที่เอดี้เปิดอกให้ Le Figaro หนังสือพิมพ์ในฝรั่งเศสได้ฟัง

1

ความรู้สึกที่ได้ย้ายเข้ามาที่ Celine

“ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้กลับมาสู่ห้องเสื้อชาติฝรั่งเศส กลับมาสู่ขนบธรรมเนียม ฝีไม้ลายมือ และบรรยากาศการทำงาน เพราะที่ขึ้นชื่อที่สุดของปารีสก็ต้องยกให้ ‘งานฝีมือ’ ที่ชิกอย่างเหลือเชื่อ” นี่คือคำพูดจากปากดีไซเนอร์มาดขรึมที่ดูตื่นเต้นกับการย้ายบ้านครั้งใหม่จนถึงกับบอกว่าการทำงานที่เต็มไปด้วย “ความปราณีตแบบนี้เจอได้แค่ที่ปารีสเท่านั้นแหละ"

2

ประเด็นการเปลี่ยนโลโก้จนแฟนๆ คลั่ง!

“ไม่ใช่ว่าผมจะประกาศศักดาอะไรนะ ตรงกันข้ามเลยล่ะ” เพราะที่จริงแล้วเขาแค่อยากกลับไปทำตามขนบธรรมเนียมเดิมๆ ที่ Celine เคยเป็นมาก่อน อย่างที่บอกว่าเขาอยากย้อนตำนานกลับไปสมัยยุค 60s 

ส่วนความเห็นของเอดี้กับชื่อ Celine ที่ไร้อักซองน่ะเหรอ “มันเป็นการเปลี่ยนรูปแบบที่เราอยากสื่อสาร และหันกลับมาให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์และรากเหง้าของ Celine” “กระแสตอบรับที่เกี่ยวกับโลโก้แบรนด์ใดๆ ก็ตามมักจะมาแบบคมชัดลึก ยิ่งทุกวันนี้ที่มีโซเชียลมีเดีย การจะถูกพูดถึงจนเป็นไวรัลยิ่งเป็นเรื่องธรรมดา จริงอยู่ที่การทำอะไรแบบนี้มันเสี่ยง แต่เราก็ต้องลงมือทำให้สำเร็จ” และที่เด็ดสุดเหมือนจะส่งไปให้ถึงเหล่าคนแอนตี้ “คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ถ้ามัวแต่กลัวคำวิจารณ์ ถ้าไม่มีการโต้เถียงกันก็แสดงว่าไม่มีใครมีความเห็น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นสังคมที่หลับหูหลับตาเชื่อฟังน่ะนะ"

3

Phoebe Philo ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนก่อนที่หลายคนจับมาเปรียบเทียบกับเอดี้

ฟีบี้เป็นตำนาน! เธอสร้างชื่อ Céline ให้โรจน์รุ่งกว่าทศวรรษ จนกระทั่งการมาถึงก้าวแรกของเอดี้ที่เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงทำให้มีคนชูประเด็นเปรียบเทียบทั้งคู่ขึ้นมา “สไตล์ของเราทั้งสองมีความแตกต่างและเป็นตัวของตัวเองกันอย่างชัดเจนมาก ก็เป็นธรรมดาที่วิสัยทัศน์ในการทำงานจะไม่เหมือนกัน อีกอย่างคือคุณไม่ควรย้ายแบรนด์เพื่อไปลอกเลียนผลงาน ตัวตน สัญญะ หรือแม้แต่วิธีการสื่อสารของไดเร็กเตอร์คนเก่า ...แต่ก็อย่าถึงกับเป็นขั้วตรงข้ามไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิด” ไม่แปลกที่ Celine ภายใต้บังเหียนของเอดี้จะกลายเป็นยุคใหม่ที่แท้จริง

4

เปิดอกถึงขั้นพูดถึง ‘โรค’ ที่เขากำลังเผชิญ

ใครจะไปคิดว่าดีไซเนอร์มาดขรึมอย่างเอดี้จะพูดถึงเรื่องราวส่วนตัวให้สื่อได้ฟัง โดยเฉพาะความเจ็บป่วยที่เขาเผชิญอยู่อย่างอาการเครียดผิดปกติและประสาทหูเสื่อมจนกลายเป็นหูอื้อเรื้อรังในที่สุด “แค่คิดว่าจะไม่ได้รู้จักกับความเงียบอีกแล้ว...ผมก็แทบทนไม่ไหว มันกลายเป็นความเจ็บปวดที่สุดที่ผมต้องเผชิญตลอดเวลา” 

แต่ถึงจะเป็นช่วงชีวิตที่มืดมนเท่าไหร่ เอดี้กลับบอกว่าเขาได้ค้นพบกับความหมายที่แท้จริงของชีวิตก็ตอนนั้นเอง “ทุกครั้งที่ผมอยากลุคขึ้นมาสร้างสรรค์ อยากทำงานแฟชั่น อยากถ่ายภาพ ไอ้ความรู้สึก ‘อยาก’ ที่ว่ามันกลายเป็นความสุขของผมไปแล้ว ผมมองชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ได้รู้สึกว่าตัวเองได้เป็นอิสระผ่านการสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้” ประโยคนี้นี่ล่ะที่ทำให้เราตื่นเต้นขึ้นกว่าเดิมว่าคอลเล็กชั่นแรกของเขาที่ Celine นั้นจะบ่งบอกถึงช่วงเวลาเจ็บปวดที่เขากำลังเผชิญอยู่มากแค่ไหน...

Source: Le Figaro, WWD