การตัดสินใจทุ่มงบประมาณมหาศาลของแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Dior, Louis Vuitton และ Gucci เพื่อจัดการแสดงคอลเล็กชั่นครูสในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ลึกซึ้ง มากกว่าแค่การนำเสนอเสื้อผ้าตามฤดูกาล เพราะสหรัฐอเมริกาถือเป็นหนึ่งในตลาดสินค้าหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจ แม้ในช่วงที่ตลาดอื่นชะลอตัว ฐานลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในอเมริกายังคงแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่กลุ่ม Gen Z ที่ไม่ได้ให้ความสนใจเหล่าแบรนด์หรู เพียงเพราะชื่อเสียงในอดีตที่สั่งสมมานับทศวรรษเท่านั้น แต่พวกเขาให้ความสำคัญต่อคุณค่าของแบรนด์ และความถูกต้องทางสังคม เหมาะแก่การลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าทางสื่อ ผ่านการตลาดที่มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับ ที่ต่อให้ 'มีเงินก็ซื้อไม่ได้' เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้บริโภคชาวอเมริกันโดยตรง และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ในระยะยาว
หากนึกย้อนกลับไปในอดีต ช่วงเวลาที่เหล่าแบรนด์หรูจากยุโรปเริ่มขยายอาณาจักรออกนอกทวีป ตลาดสหรัฐอเมริกามักเป็นทางเลือกแรกสุดเสมอ เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง และครองโอกาสทางธุรกิจที่แตกต่างจากตลาดดั้งเดิมของยุโรป การที่แบรนด์เหล่านี้กลับมาจัดแสดงคอลเล็กชั่นในสหรัฐฯ จึงเปรียบเสมือนการสร้างรากฐานใหม่ให้แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของวงการแฟชั่นโลกในยุคดิจิทัล เพื่อตอกย้ำความสำคัญของตลาดอเมริกา ในฐานะเสาหลักของธุรกิจหรูระดับโลก เฉกเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
อย่างไรก็ตาม... หัวใจสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จในตลาดอเมริกายุคใหม่ คือความจำเป็นที่แบรนด์ต้องก้าวข้ามแนวคิดการยึดศูนย์กลางที่ยุโรป สู่การให้ความสำคัญกับสหรัฐอเมริกา ในฐานะสังคมพหุวัฒนธรรม ที่มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ภูมิหลัง และวัฒนธรรม การจัดโชว์ในพื้นที่นี้จึงเป็นโอกาสอันล้ำค่าที่แบรนด์จะสะท้อน และยกย่องมรดกทางวัฒนธรรม ประเด็นทางสังคม และความหลากหลายในการออกแบบผลงาน ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งเดียว กับผู้บริโภคเชื้อชาติต่างๆ ที่ให้การยอมรับความหลากหลายของแฟชั่น ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการรักษา และขยายรากฐานเชิงธุรกิจ ในตลาดที่มีความหลากหลายสูงเช่นสหรัฐอเมริกา
ตามไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แฟชั่น ได้ที่ (VOGUE SCOOP | สรุปรวบยอดเดือนแห่งความคึกคักที่เริ่มตั้งแต่แฟชั่นวีกระดับโลกจนถึงประเทศไทย)

รวบโมเมนต์แฟชั่นโชว์ CHANEL Cruise 2025/26 พร้อมแขกคนสำคัญ 'เบคกี้-ออกแบบ-เจมีไนน์-ใบปอ'

เจาะลึก Dior โดย Jonathan Anderson การปฏิวัติจากรากประวัติศาสตร์สู่มิติแฟชั่นสำหรับคนกลุ่มใหม่

.webp&w=2048&q=100)

