นอกจากดีไซน์เสื้อผ้า และสินค้าแฟชั่นที่กลายเป็นที่พูดถึง และนับเป็นอีกแบรนด์แฟชั่นแนวหน้าของโลกอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้วนั้น ล่าสุด Coach ยังได้ประกาศเปิดตัวภาพยนตร์สั้น โดยใช้ชื่อว่า “Words Matter” ผลงานการกำกับของ Spike Lee  นำแสดงโดย Michael B. Jordan นักแสดงมากความสามารถ ผู้เป็นเฟซอีกคนของเครื่องแต่งกายสำหรับผู้ชายให้กับแบรนด์ โดยภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ถูกถ่ายทำขึ้นที่ทะเลทรายนอกตัวเมืองลอสแอนเจลิส เมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา โดยมีการเล่าเรื่องราวในเชิงบทกวี ซึ่งพูดถึงค่านิยมของ Coach ในแง่ของการรวมกันเป็นหนึ่ง, การมองโลกในแง่ดี และความกล้าหาญ เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของคุณค่าเหล่านี้ในปัจจุบัน อีกทั้งยังเพื่อตอกย้ำในความเชื่อของแบรนด์อีกด้วย

     นั่นคือภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้เปิดตัวด้วยฉากที่ ไมเคิล บี จอร์แดน ขับมอเตอร์ไซค์สำรวจ ลัดเลาะไปตามภูมิประเทศที่ร้อนระอุ และปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันเพียงลำพัง ก่อนที่เขาได้ลงจากมอเตอร์ไซค์ และพบเข้ากับก้อนหินที่ถูกขีดเขียนด้วยคำที่มีความหมายด้านลบกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นทะเลทราย เช่นคำว่า Hatred (ความเกลียดชัง), Evil (สิ่งชั่วร้าย), Bigotry (ความดื้อรั้นดันทุรังอย่างไม่มีเหตุผล) และ Lies (คำโกหก) ไมเคิลจึงได้โยนก้อนหินที่เต็มไปด้วยคำที่มีความหมายด้านลบเหล่านั้นทิ้งไป และเปลี่ยนให้เป็นก้อนหินที่มีแต่คำที่มีความหมายด้านบวกอย่าง Courage (ความกล้าหาญ),Truth (ความจริง), Love (ความรัก) และ Dream (ความฝัน) แทน

     นอกเหนือจากสไปค์ ลี ที่ได้กำกับ และร่วมเขียนบทภาพยนตร์สั้นนี้ร่วมกับลูกของเขาอย่าง Satchel และ Jackson Lee แล้ว  Coach ยังได้ร่วมงานกับสไตล์ลิสต์ชื่อดังอย่าง Jane How, พร้อมด้วยแฮร์สไตลิสต์ Jove Edmond และเมกอัพอาร์ทิสต์อย่าง Carola Gonzalez อีกด้วย

     และเพื่อให้เกิดเป็นกระแส และเกิดการพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง เกี่ยวกับภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Words Matter” ที่ต้องการจะสื่อสาร ทางแบรนด์ Coach จึงได้มีการเชิญชวนเฟรนด์ของแบรนด์ อย่างศิลปิน Whisbe, นักบาสเก็ตบอลทีม Brooklyn Nets อย่าง Spencer Dinwiddie พร้อมด้วย Satchel และ Jackson Lee  มาร่วมถ่ายแคมเปญวิดีโอส่วนตัวขนาดสั้น ที่จะแสดงให้เห็นเกี่ยวกับความคิดเห็นของพวกเขาถึงประเด็นที่ว่า ทำไมคำต่างๆ ที่มีความหมายในด้านบวกถึงมีความสำคัญที่จะถูกสื่อสารออกไป  โดยวิดีโอเหล่านี้จะถูกเผยแพร่ต่อจากภาพยนตร์สั้น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคม และเพื่อให้คนในสังคมได้โพสต์ข้อความเชิงบวกของตนเอง ที่จะสอดคล้องไปกับใจความหลักของภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ด้วยนั่นเอง