“วงการแฟชั่นกำลังจะรีเซ็ต” ประโยคนี้คงจะไม่ใช่เรื่องเหนือจริงอีกต่อไปเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวขึ้นทุกที CFDA และ BFC 2 องค์กรยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่นจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษจับมือกันเตรียมรีเซ็ตวงการแฟชั่นในด้านต่างๆ โดยเริ่มจากการย้อนตั้งคำถามเพื่อเริ่มหาคำตอบอย่างลึกซึ้งจนถึงต้นตอ เพื่อจะได้นำข้อมูลมาปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความตั้งใจที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เดินหน้าไปได้อย่างถูกต้อง

Gucci คืออีกหนึ่งแบรนด์ที่ตอบสนองเทรนด์แห่งวิถีแฟชั่้นยุคใหม่ด้วยคอลเล็กชั่นจำนวนมากต่อไป / ภาพ: Courtesy of Gucci

     ประเด็นแรกสุดคือ “วิถีแฟชั่น” ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าแบรนด์แต่ละแบรนด์มีการจัดโชว์ เปิดคอลเล็กชั่น ปล่อยไอเท็มชิ้นพิเศษกันมากมาย บางแบรนด์ทำคอลเล็กชั่นออกมามากกว่า 6-8 คอลเล็กชั่นต่อปี ซึ่งนับเป็นจำนวนมหาศาลอย่างมาก ด้วยเหตุผลนี้จึงเกิดการตั้งคำถามว่า “มันเยอะเกินไปหรือเปล่า” จุดนี้ทำให้ 2 องค์กรมีจุดประสงค์ร่วมกันชัดเจนและได้กล่าวว่า “เรารวมกันด้วยความเชื่อว่าระบบแฟชั่นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนแปลงในทุกระดับชั้น”

Silvia Venturini Fendi ดีไซเนอร์อีกหนึ่งคนที่ทำคอลเล็กชั่นให้กับแบรนด์ Fendi ทั้งคอลเล็กชั่นของผู้หญิงและผู้ชาย / ภาพ: WWD

     มีการระบุอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมนี้เป็นอุตสาหกรรมแห่งความสร้างสรรค์ และมีการพูดถึงการโฟกัสไปที่การนำเสนอคอลเล็กชั่นแค่ 2 ครั้งต่อปี เพื่อลดจำนวนของที่เริ่มล้นในทุกๆ ปี มันเข้าข่ายความสิ้นเปลือง ไม่ใช่สิ่งแต่หมายถึงการรีดความคิดสร้างสรรค์ด้วย เพราะดีไซเนอร์และทีมจะต้องคิดแบบไม่หยุด ทุกอย่างจึงจะออกมาทัน 6-8 คอลเล็กชั่นดั่งที่กล่าวไป คำถามสำคัญคือ “ความสร้างสรรค์จะหลงเหลือให้ใช้อยู่เหรอ”

เหล่าคนแฟชั่นในงาน CFDA ปี 2019 ซึ่งงานประจำปี 2020 ถูกเลื่อนออกไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 / ภาพ: CFDA

     อีกประเด็นที่ส่งพัวผันเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมมาตลอดในยุคหลังคือเรื่องความยั่งยืน ประเด็นนี้สามารถลากโยงเข้ากับจำนวนผลิตที่ล้นเหลือได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะความคิดสร้างสรรค์ถูกใช้ออกแบบงานเต็มที่ ชิ้นงานไม่ถูกโละเร็วจนเกินไป ความยั่งยืนก็จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องฝืนไม่ต้องพยายาม เพียงแค่เปลี่ยนแปลงระบบแฟชั่นให้ลงตัวมากขึ้น ทุกๆ อย่างดูต้องถูกตั้งคำถาม ไม่ใช่เพื่อวิจารณ์จับผิด แต่เพื่อหาข้อดีข้อเสีย วิเคราะห์ความเป็นไปได้ วางแผนรับกับอนาคตที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงระหว่างและหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่าความปกติรูปแบบใหม่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าปรับตัววางแผนจัดการระบบได้อย่างมีคุณภาพไว้ล่วงหน้า อุตสาหกรรมจะเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ