ชั่วโมงนี้คงไม่มีอะไรที่คนไทยทั้งประเทศจะใจจดใจจ่ออย่างพร้อมเพรียงกันได้มากไปกว่าการส่งแรงใจไปเชียร์นางงามตัวแทนประเทศไทย “มารีญา พูลเลิศลาภ” บนเวทีมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากความสง่าและคุณสมบัติ รวมถึงกิริยามารยาทที่เป็นต่อของสาวไทยอย่างมารีญาแล้ว ชุดราตรีที่คุณกำลังจะได้เห็นมารีญาสวมผ่านการถ่ายทอดสดในเช้าวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ตามเวลาประเทศไทย ยังเป็นชุดราตรีฝีมือดีไซเนอร์เลือดไทยอย่างแบรนด์ Asava ด้วย

มารีญา พูลเลิศลาภในชุดราตรีในใช้สวมบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดยแบรนด์ Asava ในวันฟิตติ้ง / ภาพ: The Courtesy of Asava

มารีญา พูลเลิศลาภในชุดราตรีในใช้สวมบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดยแบรนด์ Asava ในวันฟิตติ้ง / ภาพ: The Courtesy of Asava

“อาซาว่าทำชุดราตรีให้กับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์รอบ 15 คนสุดท้ายมา 3 ปีแล้วครับ ตั้งแต่ปีของแนต-อนิพรณ์ น้ำตาล-ชลิตา แล้วก็มาปีนี้ ซึ่งปี 2017 เรามีส่วนร่วมมากขึ้นเพราะผมเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมการการคัดเลือกนางงามตั้งแต่ต้น โดยทำงานร่วมกันกับคุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ต้องบอกก่อนว่าอาซาว่ากับมารีญาคุ้นเคยกันมานานมาก เพราะน้องเดินแบบฟินาเล่ให้กับอาซาว่ามาตั้งแต่คอลเล็กชั่นที่ 2  ตอนนั้นน้องอายุแค่ 13 ปีเอง เราเองเห็นเขาตั้งแต่เด็กก็รู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน พอได้มาทำชุดเพื่องานนี้เราก็คิดว่าจะทำอย่างไรให้มารีญาสวยโดดเด่นที่สุด” หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา หรือหมู-อาซาว่า ดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์อาซาว่าเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำงานระหว่างอาซาว่ากับกองประกวดนางงามจักรวาล

 ชุดสไบสองชาย แรงบันดาลใจของชุดราตรีที่ Asava ออกแบบให้กับมารีญาใช้ใส่ประกวดบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2017 / ภาพ: The Courtesy of Asava

ชุดราตรีสีน้ำเงินรอยัลบลูผ้ากำมะหยี่ปักประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ เพื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดย Asava / ภาพ: The Courtesy of Asava

ชุดราตรีสีน้ำเงินรอยัลบลูที่คุณเห็นอยู่นี้คือชุดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ “สำหรับอาซาว่าเราไม่ได้มองว่าการส่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ไปเวทีมิสยูนิเวิร์สคือการประกวดนางงาม แต่เรามองว่าเป็นการส่งทูตทางวัฒนธรรมของเราให้ทั้งโลกได้เห็น สิ่งหนึ่งที่เราจะปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถเป็นอีกหนึ่งสมาชิกราชวงศ์ที่ทำให้ทั่วโลกมองเห็นว่าความงามแบบชาวตะวันออกเป็นอย่างไร ดังนั้นในปีที่แล้วและปีนี้เราจึงหยิบแรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์ของพระองค์ท่านมาใช้ในการออกแบบ อย่างชุดของปีนี้เราดัดแปลงมาจากชุดสไบสองชายที่ทรงฉลองพระองค์ในช่วงยุค ’70 โดยดัดแปลงลายปักให้ดูมินิมัลขึ้น” หมู-อาซาว่าเล่าถึงแรงบันดาลใจสำคัญด้วยหวังจะแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นว่าคนไทยมีความคิดสร้างสรรค์และกล้าจะทำสิ่งที่แตกต่างจากชุดประกวดนางงามแบบเดิมๆ ที่เน้นทรวดทรงองเอว “เราอยากให้มารีญายืนอยู่ท่ามกลางสาวงามจากกว่า 90 ประเทศทั่วโลกแล้วชาวต่างชาติสามารถบอกได้เลยว่าเธอคนนี้มาจาก “ประเทศไทย” ”

รายละเอียดของชุดราตรีสีน้ำเงินรอยัลบลูผ้ากำมะหยี่ปักประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ เพื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดย Asava / ภาพ: The Courtesy of Asava

รายละเอียดของชุดราตรีสีน้ำเงินรอยัลบลูผ้ากำมะหยี่ปักประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ เพื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดย Asava / ภาพ: The Courtesy of Asava

เมื่อกวาดสายตาไปที่ชุดราตรียาวสีน้ำเงินผ้ากำมะหยี่ปักประดับคริสตัลสวารอฟสกี้ชุดนี้แล้ว นอกจากความสง่างามเมื่ออยู่บนเรือนร่างของมารีญา แต่ละองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ก็มีที่มาที่ไปและมีบทบาทที่สำคัญทั้งสิ้น “เมื่อเรากวาดตาไปในกองประกวดเราจะเห็นนางงามใส่ชุดอยู่ 4 สีคือสีนู้ด สีขาว สีแดง และสีเงิน ซึ่งคนชอบพูดว่าสีน้ำเงินใส่แล้วไม่เด่น แต่เรากลับคิดว่าสีที่แตกต่างจากคนอื่นจะทำให้มารีญาโดดเด่นแน่นอน ลองนึกภาพว่ามารีญาไปยืนอยู่ในกองทัพของนางงามในชุดสีนู้ดอีก 30 ประเทศ ชุดสีน้ำเงินจะไม่เด่นได้อย่างไร อย่างที่บอกว่าเราอยากทำอะไรที่แตกต่าง ปกติชุดประกวดนางงามจะต้องเป็นผ้าพลิ้วๆ เบาๆ แต่ครั้งนี้เราเลือกใช้ผ้ากำมะหยี่ซึ่งเป็นผ้าที่มีน้ำหนัก ในขณะเดียวกันก็ดูโก้และสง่าในแบบที่แตกต่างจากคนอื่นๆ พอคิดได้ว่าอยากใช้สีรอยัลบลูก็เลยเกิดเป็นไอเดียต่อมาว่าในการประกวดเราต้องการความวิบวับ ชุดต้องเล่นกับแสงไฟบนเวทีได้ดี จึงเป็นที่มาของการนำเอาคริสตัลสวารอฟสกี้ซึ่งเป็นลูกปัดเพชรซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดในโลกมาปักประดับลงบนชุดนี้ด้วย”

คริสตัลสวารอฟสกี้ ประกอบไปด้วยสี Capri Blue, Sapphire, Montana, Denim Blue, Light Sapphire และสี Silver shade ปักให้เกิดการไล่สี ทำให้ชุดดูมีมิติมากยิ่งขึ้น / ภาพ: The Courtesy of Asava

ส่วนจุดที่ยากและท้าทายที่สุดในการทำชุดนี้ หมู-อาซาว่าเล่าว่าเป็นเรื่องของการปักด้วยมือ “ด้วยความที่เราไม่ใช่แบรนด์ที่ถนัดด้านการปัก แต่ชุดนี้ต้องปักด้วยมือทั้งตัว ดังนั้นนี่คือจุดที่ยากและท้าทาย เราจะปักอย่างไรให้ดูร่วมสมัยแต่ยังมีกลิ่นอายของความเป็นไทยแฝงอยู่ ส่วนอีกหนึ่งความท้าทายคือทำอย่างไรให้แตกต่างจากปีก่อนๆ ซึ่งต้องบอกว่าปีนี้เราแตกต่างอย่างสิ้นเชิงโดยเฉพาะด้านหลังที่มีการนำผ้าทูลล์ซึ่งเป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบามาสอดแทรกในชุดให้ขัดแย้งกับผ้ากำมะหยี่ซึ่งมีน้ำหนัก ซึ่งเราไม่เคยทำมาก่อนเลยในปีก่อนๆ อีกเรื่องคือจะทำอย่างไรให้คนเขาเข้าใจเรา เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมาก็จะมีคนไม่เข้าใจเราเยอะ แล้วก็เป็น 3 ปีที่เป็นการพลิกภาพลักษณ์ของชุดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ให้แตกต่างจากปีก่อนๆ ในประวัติศาสตร์การประกวดเลยก็ว่าได้”

ภาพสเก็ตช์ชุดราตรี เพื่อการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดย Asava / ภาพ: The Courtesy of Asava

หมู-อาซาว่า ขณะขึ้นแบบชุดราตรีที่ใช้ในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 โดย Asava / ภาพ: The Courtesy of Asava

และเมื่อลองถามความเห็นในฐานะคณะกรรมการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ดีไซเนอร์เบอร์ต้นของเมืองไทย และผู้ใหญ่คนหนึ่งที่เห็นมารีญามาตั้งแต่เด็กว่า “พี่หมูคิดว่ามงจะลงที่มารีญาไหม?” หมู-อาซาว่าถึงกับตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นขึ้นสามระดับว่า “ขนลุกเลยคำถามนี้ ถ้าถามพี่ตรงๆ พี่ให้ร้อยเปอร์เซนต์ แต่พี่ก็ไม่อยากจะกดดันน้องมาก เพราะทุกวันนี้ทุกคนกดดันน้องหมดเลย พี่ก็บอกน้องไปคำเดียวเลยว่าไม่ว่าจะเกิดะไรขึ้น “จงเป็นตัวของตัวเอง” เราเห็นพัฒนาการของเขามาตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบตั้งแต่ยังใส่คอซอง จนวันนี้มารีญาเติบโตมาเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวย ทั้งเก่ง และฉลาด มีคุณสมบัติครบถ้วน ถ้าคนได้สัมผัสจะรู้เลยว่าน้องเป็นตัวแทนของผู้หญิงทั้งโลกได้ ดังนั้นอยากให้น้องเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ไม่ต้องคิดว่าต้องเป็นนางงาม ต้องบิดสะโพก ต้องดันหน้าอก พี่คิดว่ามันไม่จำเป็น ถ้าน้องเป็นธรรมชาติพี่ว่าน้องมีโอกาสชนะแน่นอนครับ”

เรื่องและสัมภาษณ์: ปภัสรา นัฏสถาพร

ภาพ: The Courtesy of Asava