Toey Jarinporn

CELEBRITY

เปิดบทสัมภาษณ์ ‘เต้ย-จรินทร์พร’ กับ 20 ปีในวงการบันเทิงที่เติบโตมาเป็นนักแสดงแถวหน้า

วันนี้ความฝันของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้ว นั่นคือการได้ขึ้นปกโว้กประเทศไทย

โดย Vogue Thailand
14 พฤศจิกายน 2568

ช่างภาพ: วสันต์ ผึ่งประเสริฐ

สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล

นางแบบ: จรินทร์พร จุนเกียรติ

แต่งหน้า: อลงกรณ์ สุนทรพจน์

ทำผม: สันติพงศ์ ขวัญเซ่ง

ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฉัตรวัฒน์ เพียรชอบ

ออกแบบฉาก: ไชโย โล่ห์อมรปักษิณ

 

‘เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ‘ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้หญิงไทยคนแรกของ Prada กับ 20 ปีในวงการบันเทิงที่เติบโตมาเป็นนักแสดงแถวหน้าที่มีคุณภาพ มีละครที่มีคนติดตามเยอะที่สุดเรื่องหนึ่ง รวมถึงมีกิจการของตัวเองที่ว่าด้วยเรื่องกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม วันนี้ความฝันของเธอได้ถูกเติมเต็มแล้ว นั่นคือการได้ขึ้นปกโว้กประเทศไทย

 

VOGUE: ครั้งนี้ถือเป็นการขึ้นปกโว้กประเทศไทยครั้งแรก อยากให้พูดถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับโว้กในครั้งนี้

Toey: ตื่นเต้นและดีใจมากๆ ที่ได้ขึ้นปกโว้ก ตัวเต้ยเองก็ชอบเรื่องแฟชั่นด้วยเลยรู้สึกว่า “วันหนึ่งอยากขึ้นปกโว้กบ้างจัง” แต่อยากจะบอกกับทุกคนว่าทุกคนมีเวลาของตัวเอง ซึ่งเต้ยรอมา 20 ปี (ยิ้ม)

 

V: อัปเดตผลงานช่วงนี้หน่อย

T: ล่าสุดคือภาพยนตร์เรื่อง ซ้ำวันกับ Someone ค่ะ เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งชื่อเมษาที่มีชีวิตเพียบพร้อมมาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่เมษามีเทียดเป็นคนยุคโบราณที่มีสมบัติเก่ามากมายและบ้านที่เป็นวังเก่า เมษาจึงอยากนำมาเป็นพิพิธภัณฑ์เพราะเธออยากเป็นภัณฑารักษ์ เธอกำลังจะได้แต่งงานกับผู้ชายในฝัน ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์หมด ในวันที่ 8 เดือน 8 เป็นวันที่เมษาจะได้เป็นภัณฑารักษ์ แต่งานในวันนั้นกลับพังพินาศหมด สรุปว่าวันที่ 8 เดือน 8 เป็นวันที่ซวยมากๆ ของเมษา เมื่อเธอตื่นมามันก็เป็นวันที่ 8 เดือน 8 เหมือนเดิม เหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นเหมือนเดิม เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรต่อและเธอจะหาทางออกจากลูปนั้นได้อย่างไร เต้ยอยากให้ทุกคนไปลองดูในเน็ตฟลิกซ์นะคะ

 

V: ตลอดเวลา 20 ปีในวงการบันเทิง เต้ยมองเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ทั้งที่เปลี่ยนแปลงกับตัวเราและเปลี่ยนแปลงกับวงการ

T: ถ้าสำหรับตัวเต้ยว่าเรื่องประสบการณ์ก็เรื่องหนึ่ง เพราะเราทำงานมานานเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาตลอด เต้ยเป็นคนชอบเรียนรู้จากสิ่งที่เจอหรือคนรอบข้าง เต้ยว่าตัวเต้ยเองน่าจะโตจากข้างในและพอจะเข้าใจวิธีการรับมือกับเรื่องต่างๆ ของตัวเอง เต้ยเป็นคนมีสองบุคลิก เต้ยชอบอยู่คนเดียวในพื้นที่ส่วนตัว แต่ในทางกลับกันเรายังต้องการทำงานตรงนี้ด้วยจึงต้องพยายามบาลานซ์การทำงานในฐานะนักแสดง สิ่งที่ยากสำหรับเต้ยคือเวลาที่เราได้รับบทมาแล้ว เราอินกับบทมากๆ ทำให้บางครั้งก็ส่งผลกระทบกับสุขภาพ อีกเรื่องคือเต้ยเป็นคนจริงจังมากและอยากดูแลครอบครัวด้วย จึงทำให้มีความคาดหวังกับตัวเองสูงมากๆ จนบางครั้งก็กดดันตัวเอง ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เต้ยทำคือเต้ยต้องดึงพลังงานทุกอย่างกลับมาที่ตัวเอง รักตัวเองมากขึ้น เลือกในสิ่งที่ใช่สำหรับเรามากขึ้น ณ วันนี้เต้ยแค่มองว่าอบากเป็นตัวของตัวเองในแบบที่มีความสุข ส่วนเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่มองเห็นในวงการบันเทิง เต้ยมองว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากๆ ด้วยเทคโนโลยีและช่องทางการสื่อสารที่มากขึ้น โดยเฉพาะช่วง 5 ปีหลังมานี้เปลี่ยนไวมาก ยิ่งหลังโควิดจบเห็นได้ชัดเจนเลยว่าทั่วโลกเปลี่ยนแปลงแต่เต้ยก็ชอบเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้เพราะเราอยู่มาตั้งแต่ยุคที่เพิ่งเริ่มมีอินเทอร์เน็ต จนตอนนี้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต รู้สึกว่าโชคดีจังเลยที่ได้เห็นการพัฒนานี้ เต้ยมองว่าหลังจากนี้โลกจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งมนุษย์ก็ต้องมีการพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนเหมือนกันแต่อยู่ที่ว่าเราจะพัฒนาหรือปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ไม่ทิ้งความเป็นเรา

 

V: ในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเป็นคนดังได้ เต้ยอยากบอกอะไรกับคนที่จะเข้ามาอยู่ในสปอตไลต์บ้าง

T: อยากบอกทุกคนว่าทำไปเถอะค่ะ ถ้าสิ่งที่คุณกำลังทำทำให้มีความสุขและสนุกที่ได้ทำ หาเงินได้ มีรายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้ ทำไปเถอะค่ะ

 

V: รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับปราด้าในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์

T: เต้ยรู้สึกดีใจมากที่ทางปราด้าเห็นว่าเต้ยสามารถเป็นคนที่นำเสนอแบรนด์ของเขาได้ เต้ยชอบแบรนด์ปราด้าอยู่แล้วเพราะรู้สึกว่าสไตล์ของปราด้ามีความ Timeless อีกอย่างคือสินค้าที่เขาผลิตออกมาตอกย้ำเรื่องความมยั่งยืน เต้ยมีกระเป๋าใบหนึ่งของปราด้าตั้งแต่เกือบ 20 ปีที่แล้ว วันนี้เต้ยก็ยังใช้อยู่ เต้ยมองว่านี่คือเรื่อง Sustainability ของวงการแฟชั่น

 

V: ชอบหรือประทับใจโชว์ไหนบ้าง

T: ปราด้ามีมุมของความอาร์ต การเลือกใช้เพลง การเลือกดีไซน์ เต้ยประทับใจมากตอนที่ได้ไปดูโชว์ครั้งแรก เพราะความฝันของเต้ยคือการได้มีโอกาสเข้าร่วมชมแฟชั่นวีก พอได้เข้าไปดูจริงๆ ก็เหมือนเราได้เสพงานศิลปะเหมือนเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ที่มีแสง สี เสียง ชุด และนางแบบ

 

V: คนที่เต้ยไม่คิดว่าจะได้เจอ

T: เต้ยนั่งข้าง Anna Wintour นั่งข้างๆ แบบติดกันเลย แต่ไม่กล้าคุยด้วยเพราะเขิน นอกจากนี้เต้ยยังได้เจอ Hunter Schafer ซึ่งเขาเป็นนางแบบ LGBTQ ที่สวยมากและเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของปราด้าเหมือนกัน

 

V: ทุกวันนี้คนทั่วโลกเริ่มหันกลับมาสนใจประเทศไทย อยากส่งข้อความอะไรออกไปบ้าง

T: เวลาเต้ยไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเขารู้ว่าเรามาจากเมืองไทยเขาจะยินดีมากๆ เพราะฉะนั้นเต้ยคิดว่าเราไม่มีอะไรต้องอธิบาย เพราะเรามีของดีอยู่แล้ว อยากให้เขามาแล้วเกิดการบอกต่อกันมากกว่าว่าเขามาแล้วเขาได้เห็นอะไรที่บ้านเรา

 

V: อยากบอกอะไรแฟนคลับรวมถึงโลกใบนี้

T: อยากบอกแฟนคลับของเต้ยว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน หรือประเทศอะไรก็ตาม ขอให้มีความสุขมากๆ ไม่ว่าจะเผชิญอะไรอยู่ เต้ยเป็นกำลังใจให้เสมอ สิ่งที่อยากบอกโลกใบนี้คือเต้ยรู้สึกว่าโลกเราเป็นอะไรที่เท่มาก โลกมีทุกอย่าง น้ำ อากาศ ธรรมชาติ เขาเท่มากโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องการการใส่ใจ ไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่เรานั่นแหละที่ไปทำให้เชาปั่นป่วน เพราะฉะนั้นเต้ยก็อยากจะขอโทษโลกใบนี้ และขอบคุณมากๆ ที่ทำให้พวกเรามีความสุขอยู่บนโลกนี้

(สามารถตามไปอ่านบทความ ‘WHAT'S IN MY BAG - เปิดกระเป๋า 'เต้ย-จรินทร์พร’ ได้ที่นี่)