นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษของอุตสาหกรรมแฟชั่นก็ว่าได้ สำหรับปรากฏการณ์เก้าอี้ดนตรีในโลกแฟชั่นที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่ปี 2024 ที่ผ่านมาจนถึงปี 2025 ที่ดูเหมือนว่าการลงจากตำแหน่งของดีไซเนอร์แบรนด์ดังจะยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจกล่าวได้ว่านี่คือการโละกระดานแฟชั่นครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษก็ว่าได้ ซึ่งแน่นอนว่าปรากฏการณ์ดังหล่าวได้สร้างผลกระทบต่อเหล่าคนแฟชั่นและเหล่าสาวกแบรนด์อย่างกว้างขวาง ทว่ามากไปกว่านั้นผู้เขียนคิดว่าหลายคนต้องจับตามองต่อมาก็เห็นจะหนีไม่พ้น เหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ต่างๆ โดยเฉพาะเหล่า Thai Talents ที่ประจำการอยู่ที่แบรนด์ต่างๆ ที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป...
(สามารถตามไปอ่านการคาดการณ์ปรากฏการณ์เก้าอี้ดนตรีโลกแฟชั่นเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vogue.co.th/fashion/news/article/fashion-industry-rumor-musical-chairs-2025)

หลังจากการประกาศลงจากตำแหน่งของ Sabato de Sarno แห่งแบรนด์ GUCCI นั้น กำลังจะสร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนผ่านครั้งใหม่ให้กับทั้ง บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และ กลัฟ-คณาวุฒิ สองหนุ่มที่ได้รับการแต่งตั้งในยุคของซาบาโต และยังนับเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งที่สองสู่ยุคที่สามของ ใหม่-ดาวิกา ที่เคยได้ร่วมงานกับทั้ง Alessandro Michele มาแล้วก่อนหน้านี้ จนมาถึงยุคของ Sabato de Sarno และดีไซเนอร์คนใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย

ตามมาด้วยแบรนด์ Dior ที่เพิ่งแยกทางกับดีไซเนอร์มือฉมังอย่าง Kim Jones ที่กุมบังเหียนฝั่งเสื้อผ้าผู้ชายมานานถึง 7 ปี ที่ต้องตับตาเความสัมพันธ์กับทั้ง มาย-ภาคภูมิ, อาโป-ณัฐวิญญ์ และ เจมส์-จิรายุ สามหนุ่มไทยที่ทำงานกับแบรนด์มาร่วมหลายปีโดยตรง ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงข่าวลือสะพัดที่ว่า Maria Grazia Chiuri ดีไซเนอร์หัวเรือใหญ่ฝั่งเสื้อผ้าผู้หญิง อาจจะเป็นรายต่อไป ซึ่งนั่นจะทำให้ Dior ว่างเว้นทั้งดีไซเนอร์ฝั่งเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง และอาจส่งผลกระทบต่อเหล่าแบรนด์แอมบาสเดอร์ ซึ่งในนั้นยังมี คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส และ ตู-ต้นตะวัน ที่ต้องจับตาดูความสัมพันธ์ต่อไป

อีกหนึ่งแบรนด์ดังที่เกิดการเปลี่ยนแปลงก็คือ CHANEL กับการมาถึงของ Matthieu Blazy ที่อาจเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ให้กับแบรนด์เพชรยอดมงกุฎอีกครั้ง ซึ่งเราคงต้องจับตามอง ออกแบบ-ชุติมณฑน์ และหมาก-ปริญ สองแบรนด์แอมบาสเดอร์เมืองไทย และแน่นอนว่าการจากมาของ Matthieu Blazy จากแบรนด์ Bottega Veneta ก็ทำให้หลายคนหันไปจับตาดูความสัมพันธ์ของ ต้าเหนิง-กัญญาวีร์ และดิว-จิรวรรตน์ กับดีไซเนอร์ใหม่อย่าง Louise Trotter อีกครั้งว่าจะไปในทิศทางใดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจของของการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยหรือการเล่นเก้าอี้ดนตรีสุดเข้มข้นอยู่ในตอนนี้ของโลกแฟชั่น เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าเป็นการวางกลยุทธ์และแก้ปัญหาที่ตรงจุดหรือไม่ และการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะสร้างผลกระทบอย่างไรต่อแบรนด์ต่างๆ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิดอย่างมากต่อจากนี้ เพราะไม่แน่ว่าแบรนด์ที่เราเคยรู้จักดีอาจเปลี่ยนรูปไปราวกับแบรนด์แปลกหน้าที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อนก็เป็นได้...

ช็อควงการแฟชั่น! Sabato de Sarno ประกาศลาออกจากแบรนด์ GUCCI แล้วอย่างเป็นทางการ

แบรนด์ CHANEL ประกาศแต่งตั้ง Matthieu Blazy เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนใหม่ล่าสุด!



