กระแสอัลบั้มเดบิวต์เดี่ยวครั้งแรกของ ลิซ่า Blackpink ดันให้หุ้นของ YG ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์!

     ถือเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ชาวไทย และชาวบลิงค์ทั่วโลก ต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด สำหรับการเปิดตัวอัลบั้มเดบิวต์เดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” หนึ่งในสมาชิกจากวง Blackpink หลังจากที่ปล่อยภาพโปรโมตแรกออกมาเรียกเสียงฮือฮาไปไม่นาน ล่าสุดตอนนี้ทาง YG Entertainment ก็ได้ปล่อยภาพโปรโมตใหม่ออกมาให้wfhชมกันแล้วเรียบร้อย พร้อมประกาศวันปล่อยอัลบั้มเดบิวต์เดี่ยว ในวันที่ 10 กันยายน 2021 เวลา 11 โมงตรงตามเวลาประเทศไทย ที่นอกจากกระแสการคาดการณ์ว่าเราจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ จากศิลปินสาวคนนี้ และเรื่องของคอสตูมชุดกระโปรงสีแดง ลายพิมพ์ Bandanas ชุดนั้น ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่บนโลกออนไลน์ในเวลานี้ ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญที่ถูกพูดถึงทันที หลังจากที่ภาพโปรโมตดังกล่าวของลิซ่าถูกปล่อยออกไป...

     หลังจากที่ภาพโปรโมตระลอกที่สองถูกโพสต์ลงบนอินสตาแกรม ปรากฏการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ หุ้นของบริษัท YG Entertainment ซึ่งเป็นต้นสังกัดของวง Blackpink พุ่งทะยานขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ โดยจากรายงานระบุว่า “สถานการณ์หุ้นดังกล่าวพุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบ 8 ปี โดยมีราคาซื้อสูงสุดอยู่ที่ 63,300 วอน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางค่ายเคยมีราคาหุ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ในปี 2012 ที่ผ่านมา” และปรากฏการณ์นี้ยังสอดคล้องกับเทรนด์ของทวิตเตอร์ #LISA ที่ติดอันดับหนึ่งทันทีหลังจากที่ภาพโปสเตอร์ดังกล่าวถูกปล่อยออกมาอีกด้วย

     อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พอร์ตหุ้นของ YG Entertainment พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะศิลปินสาวคนนี้ หากย้อนกลับไปในช่วงปี 2019 และ 2020 ที่ผ่านมา กระแสแฮชแท็ก #RespectLisa ที่ถูกทวีตอย่างดุเดือดบนทวิตเตอร์เพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ก็เคยส่งผลให้พอร์ตหุ้นของต้นสังกัดนั้นสะเทือนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ท่ามกลางกระแสข่าวดราม่าร้อนระอุในครั้งนั้น หุ้นของบริษัท YG Entertainment กลับพุ่งขึ้นสวนทางกัน จาก 49,250 วอน ดีดตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 50,800 วอน ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนได้ออกมาให้เหตุผลต่อปรากฏการณ์ย้อนแย้งในครั้งนั้นว่า เป็นเพราะความแข็งแกร่งของเหล่าแฟนคลับศิลปินสาวลิซ่า และชาวบลิงค์จากทั่วโลก ที่ได้สร้างแฮชแท็ก #RespectLisa ขึ้นมาเป็นการโต้พวกนักเลงคีย์บอร์ด สะท้อนให้เห็นถึงการปกป้อง และความต้องการสนับสนุนต่อไป นั่นจึงสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมาได้อย่างมากทีเดียว

     กระนั้นการดีดตัว หรือลดฮวบของพอร์ตหุ้นก็เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นตามกระแสสังคมในเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่อาจใช้เป็นมาตรวัดในการการันตีถึงผลงาน หรือเนื้อแท้ของศิลปินคนนั้นๆ ได้ทั้งหมด เป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งประกอบการคาดการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องมาลุ้นกันต่ออยู่ดีว่า ในวันที่อัลบั้มเดบิวต์เดี่ยวครั้งแรกของลิซ่าถูกปล่อยออกมานั้น จะสร้างปรากฏการณ์อะไรให้กับวงการ K-pop ได้อีกหรือไม่...