
CELEBRITY
เปิดเส้นทาง ‘มาย-ภาคภูมิ’ การเติบโตสู่ความสำเร็จจนขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในศิลปินทรงอิทธิพลระดับสากลเจาะลึกเส้นทาง 'มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง' หนึ่งในศิลปินทรงอิทธิพลที่ครบเครื่องตั้งแต่เรื่องการแสดง ดนตรี ไปจนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ลักชัวรีระดับโลก |
อีกหนึ่งนักแสดงที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในวงการบันเทิงไทยที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความท้าทาย คงต้องเอ่ยถึงชื่อของ ‘มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง’ ที่กำลังได้รับความสนใจจากบทบาทอันโดดเด่นและมีเสน่ห์ใน KinnPorsche The Series ที่ประกบคู่ร่วมกับ ‘อาโป-ณัฐวิญญ์’ ด้วยความลงตัวทางเคมีและการแสดงส่งให้การจับคู่กันของทั้งสองไม่เพียงแค่สร้างกระแสฮือฮาในวงการบันเทิงไทยเท่านั้น แต่ยังสร้างความนิยมขยายไปทั่วโลกภายใต้เคมีที่น่าจับตามองผ่านปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ที่ส่งให้มายขึ้นแท่นเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลระดับสากล บทความนี้จะไปย้อนเส้นทางความสำเร็จของ ‘มาย-ภาคภูมิ‘ ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการจนถึงการขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในศิลปินไทยที่มีมูลค่าสื่อสูงที่สุด
ด้วยนิสัยที่ชอบพูดคุยกับผู้คนทำให้มายตัดสินใจเข้าศึกษาที่คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในเส้นทางบันเทิงของเขา โดยมาจากการเข้าร่วมเวที TU Sexy Boy เวทีที่เปิดโอกาสให้หนุ่มๆ ในรั้วธรรมศาสตร์ได้แสดงความสามารถและเผยเสน่ห์เฉพาะตัว การปรากฏตัวบนเวทีในครั้งนั้นทำให้เขาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาได้รับโอกาสในการทำงานเป็นดีเจคลื่นวิทยุทำให้ได้พูดคุยกับผู้คนมากขึ้นและช่วยเปิดมุมมองด้านดนตรีให้แก่เขา และก้าวแรกในเส้นทางการแสดงก็มาถึงเมื่อมีโอกาสได้แสดงละครเรื่องแรกอย่าง ขมิ้นรักกับปูน โดยเขารับบทเป็น ปูน บทบาทแรกที่ทำให้เห็นถึงศักยภาพในการแสดง และยังเป็นละครเรื่องแรกที่เป็นก้าวสำคัญให้มายได้พิสูจน์ตัวเองในวงการบันเทิงและสร้างชื่อเสียงในฐานะนักแสดง
จุดพลิกผันสำคัญที่ทำให้เส้นทางการเป็นนักแสดงของมายเปลี่ยนไปอย่างมากคือการได้รับบท คินน์ ลูกชายคนรองของตระกูลมาเฟียในซีรี่ส์ฟอร์มยักษ์ KinnPorsche The Series ซึ่งเป็นผลงานจาก Be On Cloud ค่ายศิลปินและโปรดักชั่นเฮาส์ที่มีชื่อเสียงในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพ จุดเริ่มต้นของการได้รับบทนี้มาจากการที่นักเขียนได้นำมายมาเป็นต้นแบบของตัวละครคินน์และเสนอให้เขาไปลองแคสต์ ซึ่งการได้รับบทนี้ส่งให้คาแร็กเตอร์ของเขาเข้ากับตัวละครเป็นอย่างมากผ่านการแสดงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลงตัวทางการแสดงร่วมกับอาโป จนทำให้ซีรี่ส์และทั้งสองกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งในประเทศและต่างประเทศ การแสดงบทบาทนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมายในฐานะนักแสดงและความสำเร็จครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ดูโพสต์นี้บน Instagram
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากการแสดงในซีรี่ส์ KinnPorsche The Series มายได้ขยายอิทธิพลของตัวเองไปยังวงการแฟชั่น โดยเขาได้รับโอกาสพิเศษในการร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Dior ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างชื่อเสียงในวงการแฟชั่นเท่านั้นแต่ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็น House Ambassador ประจำประเทศไทยร่วมกับอาโป ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงสถานะและอิทธิพลของมายในวงการแฟชั่นอย่างแท้จริง โดยการขึ้นแท่นตำแหน่งนี้เป็นอีกหนึ่งการยืนยันถึงความสำเร็จและการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของมายในฐานะศิลปินและบุคคลที่ทรงอิทธิพลในหลากหลายวงการ
นอกจากนี้ มายยังได้รับโอกาสพิเศษในการร่วมโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของวงการภาพยนตร์ในเรื่อง แมนสรวง ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง Be On Cloud และ Uni-icon Entertainment จากประเทศจีน ที่มีเป้าหมายในการผลักดันสู่ตลาดนานาชาติ ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เขาได้รับบทสำคัญในฐานะ ฉัตร มือตีตะโพนหนุ่มที่แฝงตัวเข้ามาสืบข้อมูลในแมนสรวง การแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นผลงานจอเงินครั้งแรกที่พิสูจน์ถึงความสามารถการแสดงของเขาในระดับสากล เนื่องจากไม่เพียงแต่ต้องถ่ายทอดอารมณ์และความลึกซึ้งของตัวละครเท่านั้นแต่ต้องแสดงทักษะด้านดนตรีของตัวละครอีกด้วย ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่เขาสามารถทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผลงานการแสดงในแมนสรวงได้รับการยอมรับและประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ สะท้อนศักยภาพและความสามารถที่หลากหลายส่งให้มายก้าวเข้าสู่ตลาดโลกอย่างเต็มตัว โดยในอนาคตมายยังมีอีกหนึ่งโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ระหว่าง Be On Cloud และกระทรวงพาณิชย์ในชื่อ Shine เรื่องราวในช่วงปลายยุค 60s ที่ประเทศไทยกำลังเกิดความอลหม่าน ยุคที่เสรีภาพและความหวังกำลังเบิกบานกับทางที่ต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์และความรัก โดยเป็นผลงานที่สามที่ได้ร่วมงานกับอาโป
ดูโพสต์นี้บน Instagram
อีกหนึ่งเครื่องการันตีอิทธิพลของมายได้แผ่ขยายมายังวงการความงามลักชัวรีกับตำแหน่ง Friend of Guerlain คนแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยแบรนด์น้ำหอมชื่อดังระดับโลกจากฝรั่งเศส ด้วยภาพลักษณ์อันสง่างามและบุคลิกอันทรงเสน่ห์ที่ผสานเข้ากับคาแร็กเตอร์ของแบรนด์ได้อย่างลงตัว ส่งให้การรับตำแหน่งนี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างมายและแบรนด์ระดับโลก ไม่เพียงแต่สะท้อนความนิยมของเขาเท่านั้นแต่ยังบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ อีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างสถานะและอิทธิพลในวงการความงาม
ดูโพสต์นี้บน Instagram
ความสำเร็จของมายไม่เพียงแค่ในวงการแฟชั่นหรือความงามลักชัวรีเท่านั้นแต่ยังขยายมายังวงการจิวเวลรีอีกด้วย กับการได้รับการแต่งตั้งเป็น Friend of the House of Bulgari ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้จากแบรนด์ระดับโลก สะท้อนถึงการยอมรับในระดับนานาชาติและอิทธิพลของเขาที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาพลักษณ์ของมายถือเป็นส่วนสำคัญที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ในตลาดเอเชีย การันตีถึงอิทธิพลและความสำเร็จในฐานะศิลปินที่มีความสามารถและมีบทบาทสำคัญในหลากหลายวงการตั้งแต่บันเทิง แฟชั่น ความงาม และจิวเวลรี
ดูโพสต์นี้บน Instagram
และปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งบทบาทที่นอกเหนือจากศิลปินและนักแสดงแล้ว มายยังขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารค่ายเพลง Be On Cloud Music ซึ่งเป็นค่ายเพลงใหม่ภายใต้สังกัด Be On Cloud อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสามารถและแพสชั่นของเขาในวงการดนตรี การรับบทบาทนี้ทำให้มายได้แสดงความสามารถในการบริหารและขับเคลื่อนวงการเพลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลงานเพลงแรกอย่างเพลง ขาด ก็ได้ศิลปินชื่อดัง แสตมป์-อภิวัชร์ มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังได้คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในชื่อ ‘AUTHENTIC MILE’ (มายของแทร่) โดยทั้งหมดนี้นับเป็นการพิสูจน์ความสามารถทั้งในฐานะศิลปิน นักแสดง และผู้บริหาร
เส้นทางของมายเป็นการพิสูจน์ถึงความพยายามและความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่หยุดยั้ง ไม่เพียงแค่การแสดงเท่านั้นแต่ยังรอบด้านไปถึงวงการดนตรี โดยเขายังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั้งในวงการบันเทิงและนอกวงการ ด้วยความสำเร็จที่ครอบคลุมในหลากหลายวงการและตำแหน่งในแบรนด์ต่างๆ อันเป็นข้อพิสูจน์ถึงความทรงอิทธิพลและความสำเร็จของมายอย่างแท้จริง
WATCH