จากหมูเด้งถึงเอวา เซเลบริตี้จากสวนสัตว์ที่สร้างกระแสนิยมมหาศาลจนเป็นปรากฏการณ์อันน่าทึ่ง

     หลังจากยุคโควิด-19 เป็นต้นมา ปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์มีกระแสทิศทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว บางคนถึงกับกล่าวว่าหลังปี 2020 เป็นต้นมาเหมือนนาฬิกาชีวิตเดินเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งในเชิงความรู้สึกของคนทั่วโลกก็อาจรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ซึ่งความรวดเร็วนำมาสู่การเกาะติดเรื่องราวความน่าสนใจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความน่ารักของเหล่าสรรพสัตว์ที่ช่วยจรรโลงจิตใจมากกว่าสิ่งอื่นใด หมูเด้ง เพสโต เหล่าฝูงคาปีบารา และล่าสุดกับเอวา เสือโคร่งสีทองที่น่ารักที่สุด

     ช่วงเวลาทศวรรษที่ผ่านมาหรืออาจย้อนกลับไปยาวนานหลายทศวรรษ สวนสัตว์เสื่อมความนิยมไปในหลายๆ ด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเด็นความละเอียดอ่อนเรื่องการดูแลสิ่งมีชีวิต กักขัง และนำมาเป็นวัตถุในการหาผลประโยชน์ ทว่าในอีกมุมหนึ่งสวนสัตว์ (ที่ได้มาตรฐาน) คือสถานที่ในการปกป้องดูแลและสืบสายพันธุ์ของสัตว์จำนวนไม่น้อย และช่วงหลังมีการทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนำเสนอความน่ารักของเหล่าสัตว์น้อยใหญ่จนเกิดเป็นกระแสฟีเวอร์แทบทุกมุมโลก จนเวลาทองของเจ้าหญิงฮิปโปแคระประจำประเทศไทยเฉิดฉาย “Moo Deng Time” จึงเกิดขึ้นและหยุดไม่อยู่แล้วตอนนี้

     สวนสัตว์เปิดเขาเขียวที่เคยเงียบเหงาซบเซากลายเป็นสถานที่แห่งความคึกคัก มีคนมาเยือนจากทั่วโลกนั่นก็เพราะหมูเด้ง ฮิปโปแคระที่เปี่ยมเสน่ห์ ไม่ว่าจะลีลาความคึกคัก แก้มอมชมพู เรื่อยไปจนถึงเสน่ห์โดยรอบที่ครอบครัวหมูทั้งหลายมอบความสุขให้กับผู้พบเห็น ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นคือนัยสำคัญทางสังคมที่สะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของมนุษย์ด้วยเช่นกัน เพราะหมูเด้งไม่ได้เป็นเพียงปรากฏการณ์อันน่าทึ่งที่กระโดดขึ้นมาจากเทรนด์บนโลกออนไลน์อย่างฉับพลันเท่านั้น ทว่ายังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของคนยุคใหม่ที่เสพความสุขผ่านตัวตนของสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์

     แท้จริงแล้วภาพของสรรพสัตว์แสนน่ารักถูกถ่ายทอดให้เห็นมาแล้วตลอดหน้าประวัติศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่นการ์ตูนหรือภาพยนตร์ แต่สำหรับโลกความจริงการ ‘Romanticize’ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ นั้นแสดงให้เห็นถึงวิธีสร้างความสุขโดยไม่มีข้อแม้ เหตุผลหลักสำคัญที่ทำให้แฟนคลับหมูเด้งหรือสัตว์น่ารักตัวใดก็แล้วแต่เหนียวแน่นและเป็นกลุ่มเป็นก้อนนั้นอธิบายอย่างตรงไปตรงมาในเชิงสังคมว่าหากเปรียบมนุษย์จะเห็นข้อดี-ข้อเสีย ความดี-ความร้ายในแต่ละมุมมองและประสบการณ์ แม้ภาพลักษณ์จะสวยหรู เหมือนจะมีแต่คนรัก สุดท้ายมนุษย์ด้วยกันสามารถสร้างอคติได้จนมิอาจขจัดแอนตี้ได้สำเร็จ

     ในอีกมุมหนึ่งสัตว์ตัวน้อยน่ารักคือสิ่งที่ไม่มีการนิยามความนามธรรมดีชั่ว แน่นอนว่าก็จะมีคนรู้สึกเฉยๆ กับมัน แต่เมื่อคนหลงรักก็สามารถเกาะกลุ่มรวมตัวกันได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเสิร์ฟคอนเทนต์และสนับสนุนสิ่งเหล่านี้กันต่อไปเป็นทอดๆ ประกอบกับยุคสมัยใหม่ที่คนเข้าใจบทบาทของสวนสัตว์ว่าไม่ใช่สถานที่กักขังสัตว์อย่างทรมานเสมอไป การมาถึงของสัตว์ที่สะท้อนภาพความสุขอันเปี่ยมล้นย่อมสามารถลบล้างชุดความคิดเหล่านั้นได้อย่างทรงประสิทธิภาพ หมูเด้งกับลีลาพลิ้วไหว พลังงานเหลือล้น และความน่ารักแบบต้านไม่อยู่ จึงเป็นสัญญะที่บ่งบอกถึงรูปแบบของเสน่ห์ยุคใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสมอไปอีกแล้ว

     เหตุการณ์นี้เป็นปรากฏการณ์ทั่วโลก คอนเทนต์สัตว์จากสวนสัตว์ทั่วโลกต่างมีคนเข้ามาเอ็นดูความน่ารักของสัตว์ประเภทตต่างๆ มากมาย ยกตัวอย่างที่เห็นชัดอีกที่คือสวนสัตว์เมลเบิร์นกับเพนกวินยักษ์ชื่อเพสโต เจ้าหนูยักษ์ใหญ่ขนฟูฟ่องที่เสิร์ฟความน่ารักด้วยขนาดตัวมหึมาและขนฟูของเพนกวินวัยเด็ก ต่อมาเมื่อผลัดขนก็โดนแซวว่า “สวมโค้ตเฟอร์” เพสโตดังไกลระดับโลกสูสีมากับหมูเด้ง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครในปรากฏการณ์ความนิยมยุคใหม่ที่สามารถครองใจผู้คนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

     ข้อได้เปรียบสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้คือหมูเด้งสามารถถูกผลิตซ้ำในแง่ของการ ‘Parody’ ได้อย่างน่ารัก เพราะอย่างที่กล่าวไปว่าเมื่อไม่ใช่มนุษย์การอ้างอิงถึงมุมมองของคนส่วนใหญ่จะเป็นเชิงบวกเสมอ การแซว หยอกล้อ หรือล้อเลียนถูกนิยามเป็นความสนุกสนาน แต่เมื่อเป็นมนุษย์เมื่อไหร่อาจต้องเผชิญกับคำวิจารณ์ถึงความถูกต้อง การล้อเลียนที่อาจเป็นผลลบ และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นการเสพเสน่ห์ของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจึงหมายถึงเสพความบริสุทธิ์และเปิดกว้างอิสระต่อการผลิตคอนเทนต์หลากหลายประเภท หากไม่ย่ำแย่จนเกิดไปก็ไม่น่าพลาดถึงขั้นโดนตำหนิติเตียนอย่างหนักหน่วง

     จากกระแสความนิยมเฉพาะตัวของหมูเด้งและเพสโต ยังมีเหล่าคอนเทนต์สัตว์นานาชนิดที่เข้ามาครองใจคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแรคคูนกับไวรัลเนื้อเพลง “Pedro, Pedro, Pedro” เหล่าคาปิบาราแสนน่ารัก เรื่อยไปจนถึงกลุ่มสัตว์เลี้ยง เชื่อมโยงไปถึงแอคเคาต์สัตว์เลี้ยงจำนวนมากที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลายปีหลัง จากเดิมมีเพียงไม่กี่แอคเคาต์ที่เป็นดาวดัง ตอนนี้มีเซเลบริตี้สัตว์เลี้ยงเต็มฟีดโซเชียล จึงไม่น่าแปลกใจนักถ้าจะมีสัตว์ตัวใหม่มาครองใจแฟนๆ ที่รอติดตาม

     ล่าสุดเสือโคร่งจากสวนสัตว์เชียงใหม่ไนต์ซาฟารีก็เปิดตัวจนเป็นไวรัลกับความน่ารักบ้องแบ๊ว สายตาหวานฉ่ำประกอบกับใบหน้าน่ารักกุ๊กกิ๊ก แตกต่างจากเสือโคร่งผู้น่าเกรงขามไปโดยสิ้นเชิง ตาแป๋วแหววของเอวาดึงดูดความสนใจของทุกคนได้อย่างรวดเร็ว โดยเอวาเป็นเสือโคร่งสีหายาก มีจำนวนรวมบนโลกประมาณ 50-100 ตัวเท่านั้น เท่ากับว่าเอวาคือเพชรเม็ดงามที่ต่อให้เฟ้นหากันสุดขอบโลกก็แทบไม่เจอ ดังนั้นความหายากผสมผสานกับความน่ารักทำให้เอวาเป็นจุดสนใจอย่างฉับพลัน และกำลังคืบคลานเข้ามาครองฟีดโซเชียลรับไม้ต่อจากเพสโต หมูเด้ง และสรรพสัตว์ทั้งหลาย

     “แมวส้มตัวใหญ่” นอกจากลักษณะทางกายภาพแล้ว อุปนิสัยของเอวายังชวนให้นึกถึงแมวส้มแสนซนที่สอดแทรกความน่าไว้ทุกอณู คาแร็กเตอร์อันโดดเด่นเฉพาะตัวประกอบกับความน่ารักที่คลุกเคล้ากันอย่างลงตัว นำมาสู่การเอ่ยถึงเอวาในฐานะเซเลบริตี้แห่งวงการสัตว์ตัวใหม่ เป็นอีกครั้งที่ความน่ารักของสัตว์ตัวหนึ่งถูกทวีความเข้มข้นและนำเสนอถ่ายทอดผ่านช่องทางออนไลน์ เพียงระยะเวลาอันสั้นเอวากลายเป็นดาวดัง และตอนนี้ก็มีแฟนคลับรอติดตามความน่ารักแบบต่อเนื่อง

     ปรากฏการณ์เซเลบริตี้สัตว์ฟีเวอร์ไม่รู้จะดำเนินต่อเนื่องไปนานแค่ไหนยังไม่สามารถสรุปได้ตอนนี้ แต่การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์อธิบายว่ามนุษย์จะเห็นความน่ารักของสัตว์ราวกับกำลังเอ็นดูความน่ารักของเด็กน้อย ทั้งลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมต่างๆ ความน่ารักของเหล่าเซเลบริตี้(สัตว์)ยุคใหม่จึงกระตุ้นต่อมความสนใจเฉกเช่นที่มนุษย์ส่วนใหญ่เอ็นดู วันนี้น้องเสื้อตาแป๋วอย่างเอวาก็ถ่ายทอดสิ่งที่มนุษย์เอ็นดูและชื่นชอบ พร้อมเพิ่มการโรแมนติกกับการเปรียบเปรยราวกับเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะคำชมว่าเป็นคุณหนู และลักษณะท่าทางความหวานแบบหรูหรากับนิยามว่า “วอนยองมาก” อ้างอิงจากวอนยอง สมาชิกวง IVE จนถึงตอนนี้คนทั่วโลกก็เฝ้ารอติดตามความน่ารักของสรรพสัตว์กันผ่านหน้าจอ ตราบใดที่เซเลบริตี้เหล่านี้สามารถเสิร์ฟความน่ารักได้อย่างต่อเนื่องก็เชื่อว่ามนุษย์จะไม่ได้สามารถฝืนธรรมชาติตัวเองได้และเตรียมโอบรับความน่ารักน่าเอ็นดูต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถถูกเปรียบเปรยถึงความน่ารักอันมีชีวิตชีวาของมนุษย์ในอุดมคติได้ดีกว่ามนุษย์ด้วยกันเองเสียอีก