จับเข่าคุย 'ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก' นักแสดงฝีมือระดับแนวหน้า ที่เป็นมาแล้วทุกบทบาท

     Tiffany & Co. เพิ่งประกาศชื่อของใบเฟิร์นเป็น House Ambassador นับเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ และเธอก็เพิ่งเดินทางไปร่วมงานของแบรนด์ที่ประเทศญี่ปุ่นในฐานะตัวแทนประเทศไทยเป็นครั้งแรก ใบเฟิร์นบอกว่าพื้นที่ใหม่ในโลกแฟชั่นและเครื่องประดับสำหรับเธอนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทาย “รู้สึกว่าเฟิร์นยังใหม่มากๆ กับแฟชั่น” ใบเฟิร์นคุยพลางเปลี่ยนชุดไปพลาง ปลดชุดราตรีกับอัญมณีชิ้นเขื่องที่ใช้ถ่ายแฟชั่นมาเป็นลุคสบายๆ ในแบบของเธอ “เฟิร์นอยู่ในวงการมานาน เราได้แต่มองแฟชั่นจากสายตาคนนอก แต่พอเราได้มาเป็นส่วนหนึ่ง มันเป็นก้าวใหม่ เฟิร์นรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่าที่เฟิร์นเคยเห็นเยอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นการแสดงอย่างเดียวที่บันดาลใจ บางทีการหยิบเสื้อผ้ามาใส่ก็บันดาลใจได้เหมือนกัน หรือการไม่ได้ใส่แต่ได้ไปเห็นของสวยงามอยู่ตรงหน้า ทำให้เราได้โฟกัสอยู่กับตอนนั้น มีตาไว้มองสิ่งนั้น โดยไม่ต้องกังวลถึงงานอื่นๆ พอได้เห็นแบบนั้น เฟิร์นรู้สึกว่าทำไมมีไอเดียอื่นๆ อีกมากมายที่เข้ามา มันเปิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในอีกมุมที่เฟิร์นไม่เคยเห็น” ด้วยความที่เป็นคนตั้งใจกับทุกเรื่องที่ทำ การก้าวเข้าไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ทำให้เธอรู้สึกว่ายังต้องพัฒนาตัวเองต่อไป “เฟิร์นยังไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น เวลาทำงานในเมืองไทย เราทำอย่างคุ้นเคย เพราะเราเข้าใจแล้ว แต่พอไปอยู่ตรงนั้น ด้วยความที่เรามีความตั้งใจในการทำงานทุกงาน เราก็จะเริ่มคิดว่าจะนำเสนอสิ่งนี้อย่างไร หรือพี่ๆ คาดหวังให้เฟิร์นทำอะไรบ้างเนื่องจากปกติเราทำงานจะมีผู้กำกับคอยบอกว่า ‘ผ่าน’ ‘ถูก’ หรือได้รับการกำกับ แต่อันนี้เราต้องดูเอง เฟิร์นก็จะเช็กตัวเองกับพี่ๆ ว่าอยากให้ทำอะไรบอกนะคะ สำหรับเฟิร์นอาจจะยังไม่ใช่พื้นที่ที่สบายมากนัก แต่ความสนุกกับความสุขในการได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ ถือว่าเป็นอะไรที่เปิดโลกให้เฟิร์นมาก”

     งานถนัดของใบเฟิร์นที่ไม่มีใครกังขาคือการแสดง ที่เธอบอกว่าเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็ก “เฟิร์นเข้ามาอยู่ในวงการเพราะชอบการแสดงมากๆ เฟิร์นเป็นแค่เด็กที่เล่นเป็นกระต่าย เป็นเต่า เป็นกบ อะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วระหว่างแสดงเฟิร์นมีความสุขมากๆ ก็เลยมาคิดว่าทำอย่างไรเฟิร์นถึงจะมีพื้นที่แสดงไปเรื่อยๆ” เธอเริ่มแคสต์งานและหาพื้นที่ที่จะทำให้ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักจนกระทั่งได้มาเป็นนักแสดงมืออาชีพในที่สุด “เฟิร์นรู้สึกว่าการแสดงเป็นความสุขของเฟิร์นจริงๆ เป็นความฝัน ไม่ได้งานก็แคสต์ใหม่ ที่บ้านก็ซัปพอร์ต พาไปเรียน พอมันเป็นฝัน เราทำมา เราก็เลยไม่ท้อสักที รู้สึกว่าเจ็บก็ไม่เป็นไร ลุกใหม่ เจ็บก็ลุกใหม่ จนถึงวันนี้ แต่ก็ยังพัฒนาต่อ วันนี้ดังขึ้นมาก็โชคดีจังเลย ได้ทำงานที่เรารักต่อไป ช่วงไหนที่เงียบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็มีโอกาสเข้ามาให้ได้ทำ”

     แม้ว่าส่วนตัวจะเป็นคนเรียบง่าย สบายๆ (“เฟิร์นเป็นคนติงต๊อง” เธอนิยามตัวเอง) แต่เมื่อเป็นเรื่องงาน ใบเฟิร์นบอกว่าค่อนข้างจริงจังและกดดันให้ตัวเองทำดีขึ้นเรื่อยๆ เสมอ เธอจึงมักจะได้รับบทบาทที่ค่อนข้างท้าทาย เราตั้งข้อสังเกตว่าบทบาทของเธอส่วนใหญ่เป็นบทหนักๆ ใบเฟิร์นบอกว่า “ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกบทหนักนะคะ จริงๆ พื้นฐานเฟิร์นเป็นคนโรแมนติกคอเมดี แต่โอกาสที่ได้มักจะเป็นตัวละครที่ดาร์ก ท้าทายกว่าปกติ” ละคร 2 เรื่องล่าสุดที่กำลังจะออนแอร์คือ ทองประกายแสด และ ทิชา ที่เธอต้องรับบทหนักๆ อีกครั้ง “เฟิร์นเป็นคนที่รักตัวละครตัวเองทุกตัวแม้บางตัวจะดูไม่มีอะไรเลย ในเวลาที่เฟิร์นเป็นตัวละครตัวนั้นๆ เฟิร์นจะภูมิใจในวิธีการคิดแบบเขา พูดแบบเขา แม้ว่าบางครั้งจะมีความคิดที่สุดโต่งแล้วเฟิร์นไม่เห็นด้วยกับเขาเลย แต่เฟิร์นก็จะรู้สึกสนุกที่ได้เป็นเขา” เป้าหมายการทำงานหนึ่งเดียวของเธอคืออยากทำทุกงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ “อยากพัฒนาตัวเองตลอดเวลา อยากให้ตัวเองชิลขึ้นแต่ยังตั้งใจอยู่ เฟิร์นชอบคิดว่าเรื่องหน้าอยากดีกว่าเดิม อยากพลาดน้อยลงอีก ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

     สามารถตามไปชมแฟชั่นเซ็ตเต็มและอ่านบทสัมภาษณ์เจาะลึก 'ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก' ได้ในนิตยสารโว้กประเทศไทย ฉบับเดือนมิถุนายน 2024 วางแผงแล้ววันนี้