Water Fasting คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่

ดูเหมือนว่าเทรนด์การลดน้ำหนักอย่าง Water Fasting กำลังกลับมาได้รับความนิยมกันในหมู่คนสมัยใหม่ด้วยหลักการที่ว่า 'ร่างกายขาดอาหารได้ แต่ขาดน้ำไม่ได้' ฉะนั้นการดื่มแต่น้ำเปล่าสัก 2-3 วันอย่างเดียวจะเป็นอะไรไป วันนี้โว้กบิวตี้จะพามาไขข้อสงสัยว่าการทำ Water Fasting ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่ และมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ?

 

Water Fasting คืออะไร 

Water Fasting คือหนึ่งในวิธีการลดน้ำหนักที่ใช้หลักการการอดอาหาร โดยจะใช้การดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลาประมาณ 24-72 ชั่วโมง หรือ ประมาณ 1-3 วัน โดยการดื่มเพียงน้ำเปล่าติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันนี้จะทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะหยุดเผาผลาญกลูโคสหรือเรียกว่า คีโตซิส (Nutritional Ketosis) โดยร่างกายจะเปลี่ยนไปกระตุ้นการเผาผลาญไขมันแทนนั่นเอง

ได้อะไรจากการทำ Water Fasting

1. ช่วยลดน้ำหนัก
2. ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและช่วยสลายไขมัน
3. ช่วยระบบการทำงานของหัวใจ ลดภาวะความดันโลหิต
4. ช่วยลดการอักเสบของร่างกาย

ข้อควรระวังของการทำ Water Fasting

1. อาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลต่ำ ทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานและอาจมีอาการอ่อนเพลียได้ง่าย
2. อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอย่างเช่น เกลือแร่ วิตามินหรือแร่ธาตุ
3. อาจทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ

Water Fasting ไม่เหมาะกับใคร

1. คนที่มีร่างกายอ่อนแอ สุขภาพไม่แข็งแรง
2. คนที่ต้องรับประทานยาหลายชนิด
3. คนที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคตับ โรคหัวใจหรือโรคมะเร็ง

 

เตรียมตัวอย่างไรก่อนเริ่ม Water Fasting

1. ก่อนทำ Water Fasting ควรงดทานอาหารที่ย่อยยากและปรับปริมาณอาหารให้น้อยลง
2. ควรเริ่มทำแบบค่อยเป็นค่อยไป สำหรับมือใหม่ควรเริ่มจากเวลาน้อยๆ ให้ร่างการปรับตัว เเล้วจึงค่อยขยับเพิ่มเวลาการทำ Water Fasting ให้นานขึ้น
3. นอกจากการดื่มน้ำสะอาด ต้องดื่มน้ำที่ช่วยเสริมแร่ธาตุให้กับร่างกายด้วย
4. ควรเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงหรือใช้พลังงานเยอะในช่วงที่ทำ Water Fasting

แม้ว่าการทำ Water Fasting จะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ดูเหมือนง่ายและไม่ต้องใช้แรงเยอะเหมือนการออกกำลังกายแบบอื่นๆ แต่ก็ถือว่าเป็นรูปแบบการลดน้ำหนักที่มีผลข้างเคียงหรือผลกระทบต่อสุขภาพค่อนข้างเยอะเช่นกัน ดังนั้นหากใครที่อยากลองเทรนด์การลดน้ำหนักแบบการดื่มแต่น้ำเปล่าอย่างเดียวนี้ ก็ควรรู้จักร่างกายของตัวเองให้เป็นอย่างดี และอย่าลืมที่จะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีในระยะยาว