ในยุคที่เราต่างใส่ใจสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เพียงร่างกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพจิตหรือที่เราคุ้นหูกันในคำว่า ‘Mental Health’ ที่สามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเราได้เช่นกัน ส่งผลให้มีการศึกษาวิจัยด้านนี้กันมากขึ้น ซึ่งในวงการความงามก็ได้รับอิทธิพลจากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

การเชื่อมต่อระหว่างผิวหนังและจิตใจ

จากการรายงานของดร.เฮเลน เทเลอร์ (Helen Taylor) บนเว็บไซต์ Practical Dermatology ได้กล่าวว่า ผิวเป็นอวัยวะชั้นนอกที่ทำหน้าที่เป็นเกราะปราการปกป้องร่างกายของเรา รวมถึงเป็นอวัยวะที่ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญยังเป็นตัววัดทางกายภาพของการทำงานภายในร่างกายได้อีกด้วย 

ซึ่งเคสตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผิวของเราเชื่อมต่อกับจิตใจได้ คืออาการเครียดหรือวิตกกังวล โดยจากรายงานเดิมได้มีการให้ข้อมูลว่า จำนวนผู้ป่วยด้านผิวหนังมากกว่า 13% มีอาการเครียดและวิตกกังวลเป็นอาการร่วมด้วย ส่งผลให้ผิวมีอาการแพ้ได้ง่ายขึ้นและอาจทำให้อาการผิดปกติของผิวหนังที่มีอยู่แย่ลงได้ นอกจากนี้อารมณ์ในแง่ลบที่รวมทั้งความโกรธ ความเครียด ความโศกเศร้ายังส่งผลกับอาการทางผิวหนังอย่างผื่นแพ้หรือการระคายเคืองได้เช่นกัน

จุดเริ่มต้นของสุขภาพจิตที่ดี

หากวันนี้เรารู้สึกไม่สดใส มีเรื่องราวคาใจให้คิดอยู่มากมาย ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเองแล้วมาเริ่มต้นไลฟ์สไตล์ใหม่เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพจิตที่ดีกัน ดังนี้

• นอนให้ไวขึ้น 

เรื่องง่ายๆ ที่สุดแสนจะยากลำบากสำหรับหลายคน การนอนหลับที่เพียงพออาจไม่ใช่เพียงนอนครบตามจำนวนชั่วโมง แต่ต้องลองเปลี่ยนเวลานอนให้เร็วขึ้น เพื่อให้เวลาชีวิตของร่างกายกลับมาทำงานเป็นปกติ ซึ่งการนอนหลับยังส่งผลสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอีกด้วย

• ดื่มน้ำอย่างต่ำ 2 ลิตร

เกือบทุกวันที่เราต้องเจอกับเรื่องราวมากมาย หากได้ดื่มน้ำเพียงพอ ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพแต่ยังเป็นประโยชน์ต่ออารมณ์ความรู้สึกได้อีกด้วย

• ออกกำลังกายเป็นประจำ

ฟังกันจนเบื่อหูกับวลี ‘ออกกำลังกายเป็นประจำ’ แต่วิธีนี้เป็นหนึ่งวิธีสำคัญของการเริ่มต้นมีสุขภาพจิตที่ดีเลยทีเดียว การออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นในฟิตเนส เดินเล่นในสวนสาธารณะ หรือเดินเท้าไปสถานที่ต่างๆ เป็นวิธีช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี และหากลองเปลี่ยนสถานที่การออกกำลังกายใหม่ๆ พร้อมการออกกำลังกายให้มีการขับเหงื่อออกมา จะยิ่งช่วยลดภาวะความเครียดสะสมได้ดีอีกด้วย

• ฝึกรู้เท่าทันอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง

เมื่อต้องเจอปัญหาจากเรื่องงานหรือปัญหาในการใช้ชีวิต บางครั้งเราอาจไม่ทันรู้ตัวว่าความรู้สึกทั้งความกดดัน ความเครียด ความเสียใจ ความน้อยใจต่างๆ ถูกสะสมอยู่ลึกๆ ภายในจิตใจ หากเรารู้ตัวและเรียนรู้ที่จะรับมือความรู้สึกเหล่านี้ ใช้ความหวังในแง่บวกเป็นตัวนำพาเราหรือติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง ก็จะช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพจิตได้

สุขภาพจิตดีส่งผลอย่างไรกับผิว

หากลองนึกตามทีละขั้น เมื่อเราเริ่มต้นการมีสุขภาพจิตที่ดีจากเรื่องพื้นฐานอย่างอาหารการกิน การพักผ่อน และการรู้ทันอารมณ์ความคิดของตัวเอง ย่อมทำให้ระบบการทำงานต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น และสุดท้ายจะส่งผลดีนั้นมาถึงผิวหนังเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากเรากินอาหารที่มีประโยชน์รวมถึงพักผ่อนเพียงพอ ส่งผลให้การทำงานของระบบภายในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ความสมดุลภายในอย่างฮอร์โมนก็จะเป็นปกติตามไปด้วย ทำให้เราไม่เกิดอารมณ์ที่อ่อนไหวง่ายทั้งความโกรธและความเศร้า และท้ายที่สุดคือปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นก็ลดลงตามไปด้วย 

นอกจากนี้หากเราสามารถควบคุมอารมณ์และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลกับสุขภาพจิตใจได้ อย่างการรู้จักรับมือความเครียดและเรียนรู้การปล่อยวางเรื่องราวที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งนี้ย่อมส่งผลต่อผิวหนังของเราเช่นกัน ดังนั้นสรุปได้ว่าหากมีสุขภาพจิตดีจะส่งผลกับผิวได้ดังนี้

• ลดการเกิดอาการระคายเคืองและผื่นแพ้
• ลดการเกิดสิว
• การทำงานของระบบผิวหนังกลับมาเป็นปกติ
• ผิวมีความเปล่งปลั่ง ไม่แห้งเหี่ยว (ผลจากการเริ่มต้นดูแลตั้งแต่สุขภาพร่างกายมาจนถึงสุขภาพจิตใจ)