ปัจจุบันเครื่องดื่มเกลือแร่เป็นสิ่งที่หลายคนคุ้นเคย เห็นได้ทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อ โฆษณาก็ชูประเด็นเรื่องความสดชื่น แก้กระหาย และช่วยคืนพลังงานให้ร่างกาย หลายคนจึงหันมาเลือกดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้แทนน้ำเปล่า แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ‘เครื่องดื่มเกลือแร่มีประโยชน์จริงหรือ?’ และ ‘ดื่มได้ทุกวันหรือไม่?’ โว้กบิวตี้พามาทำควาเข้าใจกันอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถดื่มได้อย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ
- เครื่องดื่มเกลือแร่คืออะไร?
เครื่องดื่มเกลือแร่ (Electrolyte Drink) คือเครื่องดื่มที่มีการเติม เกลือแร่หรือสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) ลงไป เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยควบคุมสมดุลน้ำในร่างกาย การทำงานของเซลล์ รวมถึงระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เครื่องดื่มเกลือแร่ส่วนใหญ่มักมีน้ำตาลผสม เพื่อช่วยเพิ่มพลังงานและรสชาติ ทำให้หลายคนรู้สึกสดชื่นทันทีหลังดื่ม

ภาพ: istock
-
ประโยชน์ของเครื่องดื่มเกลือแร่
1. ทดแทนน้ำและแร่ธาตุที่สูญเสียไป
เวลาที่ร่างกายเสียเหงื่อมากๆ จากการออกกำลังกาย ทำงานกลางแจ้ง หรืออยู่ในสภาพอากาศร้อน ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่ หากไม่ได้รับการทดแทน อาจเกิดอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือเป็นตะคริว เครื่องดื่มเกลือแร่จึงมีประโยชน์ในการคืนความสมดุลของร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
2. ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวไวขึ้น
น้ำตาลที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มเกลือแร่ช่วยเพิ่มพลังงานทันที เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งออกกำลังกายหนักหรือทำงานที่ใช้แรงกายมาก ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีแรงต่อเนื่อง
3. ลดความเสี่ยงการขาดน้ำ (Dehydration)
ในบางกรณี เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสียหรืออาเจียนบ่อยๆ ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่อย่างมาก การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการขาดน้ำและป้องกันอาการรุนแรงได้
4. ช่วยระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้ดี
สารอิเล็กโทรไลต์ เช่น โพแทสเซียม และแมกนีเซียม มีบทบาทสำคัญต่อการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งสัญญาณประสาท การดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ จึงช่วยลดอาการตะคริวหรืออาการเกร็งของกล้ามเนื้อในบางกรณี

ภาพ: istock
-
ข้อควรระวังในการดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่
แม้จะมีประโยชน์ แต่เครื่องดื่มเกลือแร่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคนหรือทุกสถานการณ์ เพราะเครื่องดื่มเกลือแร่หลายยี่ห้อมีน้ำตาลสูง หากดื่มมากเกินไปอาจทำให้ได้รับพลังงานส่วนเกิน ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นและเสี่ยงโรคเบาหวานได้ รวมถึงปริมาณโซเดียมในเครื่องดื่มเกลือแร่ ถึงแม้จะช่วยคืนความสมดุลให้กับร่างกาย แต่ถ้าดื่มบ่อยโดยไม่ได้เสียเหงื่อมากๆ อาจทำให้ได้รับโซเดียมสูงเกินไป ส่งผลต่อความดันโลหิตและสุขภาพหัวใจ จึงไม่เหมาะกับการดื่มแทนน้ำเปล่า เพราะร่างกายต้องการน้ำสะอาดมากที่สุดในการทำงานประจำวัน เครื่องดื่มเกลือแร่ควรดื่มเฉพาะในเวลาที่จำเป็น เช่น หลังออกกำลังกายหนัก อยู่ในที่ร้อนจัด หรือในกรณีป่วย ไม่ควรใช้แทนน้ำดื่มหลัก
-
แล้วควรดื่มอย่างไรถึงจะเหมาะสม?
เวลาที่ควรคือ ดื่มเมื่อเสียเหงื่อมาก เช่น หลังออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และไม่ควรดื่มในปริมาณมากๆ ทีเดียว ควรดื่มไม่เกิน 1 ขวดต่อครั้ง หรือถ้าสำหรับชีวิตประจำวันทั่วไป ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลักและใช้เครื่องดื่มเกลือแร่เสริมในบางโอกาสเท่านั้น นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคไต ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม





