ประโยชน์ของเมล็ดเจีย ร่างกายเผาผลาญง่าย มีไฟเบอร์สูง

ภาพ: Freepik

กินอย่างไรให้เกิดประโยชน์

• เมื่อรับประทานอาหารที่มีเมล็ดเจีย ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะเมล็ดเจียจะดูดซับน้ำเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
• หากคุณมีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวานหรือความดันโลหิต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานเมล็ดเจีย เพราะสารประกอบบางชนิดในเมล็ดเจียสามารถส่งผลต่อวิธีการใช้ยาบางชนิดหรือการดูดซึมของร่างกายได้
• ใครที่ท้องเสียบ่อยหรือมีความบอบบางในเรื่องของระบบขับถ่าย ควรรับประทานแต่ในปริมาณที่พอดี เพราะในเมล็ดเจียมีปริมาณไฟเบอร์สูง การรับประทานในจำนวนมากอาจทำให้ได้รับไฟเบอร์มากเกินไป จนทำให้เกิดอาการปวดท้องได้
• เมล็ดเจีย อาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อเด็กทารกได้ ดังนั้นคุณแม่ที่ให้นมบุตร จึงไม่ควรทานเมล็ดเจีย เนื่องจากสารอาหารในเมล็ดเจียจะส่งผ่านไปสู่ลูกน้อยผ่านทางน้ำนมได้

ภาพ: Freepik

ประโยชน์ของเมล็ดเจีย

• มีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาถึง 8 เท่า โดยร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) มีฤทธิ์แก้อักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ป้องกันการติดเชื้อของบาดแผล ทำให้บาดแผลหายไวยิ่งขึ้น
• มีปริมาณสารอาหารที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟัน เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน จึงช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุนและกระดูกบางได้
• ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นด้วยปริมาณไฟเบอร์สูง ซึ่งเป็นชนิดที่ดูดซึมง่าย การรับประทานเมล็ดเจียจึงดีต่อระบบลำไส้และระบบขับถ่าย ช่วยแก้อาการท้องผูกและดูดซึมสารพิษที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ได้ดี

ภาพ: Freepik

• ช่วยในเรื่องของการคุมน้ำหนัก เพราะมีเส้นใยสูง ช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนานมากขึ้นและมีแคลอรีต่ำ เหมาะสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก เพราะทำให้ช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานในแต่ละวันได้
• บำรุงหัวใจให้แข็งแรงด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในเมล็ดเจียที่จะช่วยลดไขมันเลว (LDL) และเพิ่มไขมันดี (HDL) จึงช่วยปรับสมดุลระบบไหลเวียนโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้หัวใจแข็งแรง เร่งการเผาผลาญให้ดีขึ้น