WELLNESS
นี่คือประโยชน์ที่คุณรู้แล้วจะอยากทานอะโวคาโดมากขึ้นไม่แปลกใจที่อะโวคาโดจะถูกยกให้เป็นซูเปอร์ฟู้ด เมื่อคุณรู้คุณประโยชน์เหล่านี้ |
อะโวคาโด (Avocado) คือผลไม้สีเขียวเข้มรูปทรงรีที่ถูกยกย่องให้เป็น "ซูเปอร์ฟู้ด" เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย ทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว วิตามิน และแร่ธาตุอีกมากมาย รวมไปถึงไขมันดี ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูงขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่การรับประทานอะโวคาโดจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งโว้กบิวตี้ก็ได้รวมประโยชน์หลายประการที่คุณรู้แล้วจะอยากทานอะโวคาโดมากขึ้น
ภาพถ่ายโดย ready made: https://www.pexels.com/th-th/photo/3850639/
ดีต่อสุขภาพดวงตา
อะโวคาโดดีต่อดวงตาเพราะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ 2 ชนิด คือ วิตามินอีและลูทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในดวงตา ลดความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจก อีกทั้งลูทีนยังช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย นอกจากนี้อะโวคาโดยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมองและช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงดวงตาได้ดี การทานอะโวคาโดเป็นประจำจึงช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงต่อโรคตา
ภาพถ่ายโดย Nicola Barts : https://www.pexels.com/th-th/photo/7937462/
ส่งเสริมการลดน้ำหนัก
ตามข้อมูลของ USDA อะโวคาโด 1 ลูกมีไฟเบอร์ประมาณ 13.5 กรัม ซึ่งไฟเบอร์จะช่วยให้รู้สึกอิ่ม ลดโอกาสกินจุกจิกหรือกินเยอะเกินไป และแม้ว่าอะโวคาโดจะมีไขมันสูง แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นไขมันดี หรือไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งจากการวิจัยพบว่าไขมันประเภทนี้สามารถช่วยลดหรือควบคุมน้ำหนักได้ดี ทั้งนี้เนื่องจากอะโวคาโดค่อนข้างมีแคลอรี่สูง จึงควรทานในปริมาณที่เหมาะสมหรือครึ่งผลต่อวัน
WATCH
ภาพถ่ายโดย Taryn Elliott: https://www.pexels.com/th-th/photo/4281817/
บูสต์อารมณ์ให้ดีขึ้น
การรับประทานอะโวคาโด 1 ถ้วยจะได้รับโฟเลตไปแล้วเกือบ 1 ใน 3 ของปริมาณที่ผู้ใหญ่ต้องการในแต่ละวัน ซึ่งโฟเลตมีพลังลับมากมาย ทั้งช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เสริมสร้างดีเอ็นเอ และช่วยป้องกันข้อบกพร่องแต่กำเนิดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ นอกจากนี้โฟเลตยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า และช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อยาต้านโรคซึมเศร้าได้ดีขึ้น ฉะนั้นการทานอะโวคาโดเป็นประจำไม่เพียงแค่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังช่วยบูสต์อารมณ์ให้ดีขึ้นด้วย
ภาพถ่ายโดย Polina Tankilevitch: https://www.pexels.com/th-th/photo/3872374/
เพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
อะโวคาโดอุดมไปด้วยวิตามินบี ไม่ใช่แค่โฟเลตหรือวิตามินบี 9 เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีไทอามีน (B1) ไรโบฟลาวิน (B2) และไนอาซิน (B3) ซึ่งเป็นวิตามินบีที่สำคัญต่อร่างกาย และช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนอาหารที่กินเข้าไปเป็นพลังงาน โดยเฉพาะไนอาซินที่มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการอักเสบ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
ภาพถ่ายโดย solod_sha: https://www.pexels.com/th-th/photo/7664085/
ดีต่อหัวใจ
เมื่อพูดถึงสุขภาพหลอดเลือด สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association) แนะนำให้บริโภคไขมันไม่อิ่มตัวเป็นหลักซึ่งพบมากในอะโวคาโด มากกว่าไขมันอิ่มตัวในอาหารที่พบได้ในเนื้อแดงและผลิตภัณฑ์จากนม โดยมีผลการวิจัยชี้ว่าอะโวคาโดมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล "ไม่ดี" ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และช่วยควบคุมความดันโลหิตได้
ภาพถ่ายโดย Lisa Fotios: https://www.pexels.com/th-th/photo/5115057/
ชะลอความจำเสื่อมถอย
อะโวคาโดมีประโยชน์ต่อสมอง เนื่องจากมีวิตามินอีในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์และชะลอการเสื่อมถอยของความจำและทักษะการคิดได้โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ นอกจากนี้วิตามินอียังช่วยปรับปรุงการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่เพียงพอ สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระด้วย
ภาพถ่ายโดย Anna Shvets: https://www.pexels.com/th-th/photo/5069401/
ดูแลสุขภาพผิวพรรณ
ไม่ว่าจะทานมันหรือทำเป็นมาสก์ อะโวคาโดก็มีประโยชน์ต่อผิว เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดเลือนริ้วรอย และสารอาหารเดียวกันที่ปกป้องดวงตายังสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวี นอกจากนี้กากอะโวคาโดยังช่วยสมานแผลได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้ทาลงบนผิวเพื่อบรรเทาอาการไหม้แดดได้
“อะโวคาโด” ไม่ได้มีดีแค่รสชาติอร่อย แต่ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ การทานอะโวคาโดเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีพลังและชีวิตชีวา ทั้งนี้ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือวันละครึ่งผล ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแคลอรี่และไขมัน
ข้อมูล : webmd, medical news today, nutrition source
WATCH