
WELLNESS
ชี้ประโยชน์ของมัสตาร์ด เครื่องเทศที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมายเครื่องเทศสีเหลืองที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ แต่ยังดีต่อสุขภาพอย่างไม่น่าเชื่อ |
เมื่อพูดถึง ‘มัสตาร์ด’ หลายคนอาจนึกถึงซอสสีเหลืองรสเปรี้ยวเผ็ดเล็กน้อยที่มักเจอในเบอร์เกอร์ ฮอตดอก หรือแซนด์วิชต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังรสชาติที่ช่วยชูรสอาหารให้น่ากินขึ้นนี้ มัสตาร์ดยังเป็นเครื่องเทศที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีคุณสมบัติทางยาที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มาทำความรู้จักกับที่ไปที่มาของเครื่องเทศชนิดนี้กัน

ภาพ: Freepik
มัสตาร์ด (Mustard) เป็นเครื่องเทศที่ทำจากเมล็ดของต้นมัสตาร์ด ซึ่งเป็นพืชในตระกูล Brassicaceae เช่นเดียวกับกะหล่ำปลีและบร็อกโคลี่ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบบบดเป็นผง ผสมกับน้ำส้มสายชูและเครื่องเทศอื่นๆ เพื่อทำเป็นซอส หรือใช้เมล็ดทั้งเม็ดสำหรับทำอาหารบางประเภท เช่น แกงหรือดองผัก

ภาพ: Freepik
WATCH
-
ประโยชน์ของมัสตาร์ด
1. ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร
เมล็ดมัสตาร์ดมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำลายและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ซึ่งช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูงหรือย่อยยาก การรับประทานมัสตาร์ดเล็กน้อยร่วมกับมื้ออาหารจึงช่วยลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือรู้สึกไม่สบายท้องหลังมื้อหนักๆ ได้
2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ
มีสารสำคัญที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลูโคซิโนเลต (Glucosinolates) เป็นสารประกอบที่พบได้ในผักตระกูลกะหล่ำ มีฤทธิ์ในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม ลำไส้ใหญ่ และมะเร็งปอดบางชนิด นอกจากนี้ยังมีเซเลเนียม (Selenium) เป็นแร่ธาตุที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลดอาการอักเสบของเซลล์
3. ดีต่อสุขภาพหัวใจ
มีส่วนประกอบของไขมันดีในรูปแบบกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น โอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 แม้จะมีในปริมาณไม่มาก แต่ก็มีคุณสมบัติช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) พร้อมป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและความดันโลหิตสูงได้

ภาพ: Freepik
4. บรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และอาการทางเดินหายใจ
มัสตาร์ดมีฤทธิ์เผ็ดร้อนคล้ายขิงและพริก ซึ่งช่วยเปิดรูจมูก ขยายหลอดลม และกระตุ้นการหลั่งน้ำมูก ทำให้หายใจสะดวกขึ้นในช่วงที่เป็นหวัด นอกจากนี้กลิ่นหอมแรงของมัสตาร์ดยังช่วยกระตุ้นประสาทรับกลิ่น ทำให้รู้สึกตื่นตัวและสดชื่นขึ้น
5. ลดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ
มีสารที่ออกฤทธิ์คล้ายกับแคปไซซินในพริก ซึ่งเมื่อใช้ภายนอกในรูปแบบพอกหรือครีม จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่มีอาการปวด ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดการอักเสบเฉพาะที่ ซึ่งวิธีพื้นบ้าน ที่ยังนิยมใช้กันในบางประเทศคือพอกมัสตาร์ดบดบริเวณข้อหรือกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด หรือแช่เท้าในน้ำอุ่นผสมผงมัสตาร์ด เพื่อช่วยคลายความเมื่อยล้าและอาการบวมน้ำ
ภาพ : Freepik
WATCH