TREATMENTS
#VogueReview ยกกระชับปรับรูปหน้าให้สวยด้วยนวัตกรรมการลดเลือนริ้วรอยที่ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติรูปหน้าสวย แลดูอ่อนเยาว์ เห็นผลได้ทันทีหลังจากทำทรีตเมนต์เสร็จ |
รู้หรือไม่ว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบันส่งผลเสียต่อผิวมากขึ้น ทั้งเรื่องการเผชิญมลภาวะภายนอก ฝุ่นควัน แสงแดด, การทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลา, พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงความเครียดสะสม อาจส่งผลให้ผิวเราดูแก่ก่อนวัย ริ้วรอยถามหาไม่เว้นแต่ละวัน หากจะใช้แต่สกินแคร์ก็คงต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูผิว สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับใบหน้าอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง โว้กบิวตี้พาไปทำความรู้จักกับ ABO ACTIVE 3D และ RESTYLANE HYALURONIC DERMAL FILLERS สองตัวช่วยที่จะทำให้ใบหน้าเราสวยดูอ่อนเยาว์และเห็นผลได้ทันที
ABO ACTIVE 3D (เอโบ แอคทีฟ ทรีดี)
ABO ACTIVE 3D หรือ สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิดเอ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว มีผลให้เซลล์เกิดการหดตัวจึงทำให้ใบหน้ายกกระชับได้ทันทีจนเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 10 ชั่วโมง ซึ่งการทำงานหลักๆ ของ AB0 Active 3D จะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามบริเวณใบหน้า จึงช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับและมีกรอบหน้าชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ยังออกฤทธิ์กับเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า ที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างรอยย่นระหว่างคิ้ว หน้าผาก และรอยตีนกา เป็นโบท็อกที่ได้การยอมรับจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลก ทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยและใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีร่องแก้มค่อนข้างลึก สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเป็นโบท็อกที่มีความเป็นธรรมชาติสูง หน้าไม่แข็ง ยิ้มแล้วหน้าไม่ตึง
อายุการใช้งาน
สามารถอยู่ได้ 4-6 เดือน โดยที่ใบหน้าของเราจะไม่กลับมาใหญ่เท่าเดิม เส้นริ้วรอยลดน้อยลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคน ถ้าอยากให้ประสิทธิภาพการใช้งานอยู่ได้นานมากขึ้น แนะนำให้ลดการเคี้ยวของแข็งเพราะเป็นการเน้นการทำงานของฟันกรามและหลีกเลี่ยงการนวดหน้าโดยใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า เพราะกล้ามเนื้อของเราจะทำงานมากขึ้น อาจทำให้ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยบนใบหน้ากลับมาได้เร็วมากกว่าเดิม
RESTYLANE HYALURONIC DERMAL FILLERS (เรสทิเลน ไฮยาลูโรนิค เดอร์มอล ฟิลเลอร์)
คือสารเติมเต็ม ในกลุ่มของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) มีคุณสมบัติในการเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น รวมถึงการเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อใต้ชั้นผิว ด้วยการรวม 2 นวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกันระหว่าง Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid (NASHA) คือ Dermal Filler ที่เป็น firm gel สามารถขึ้นทรงได้ดี คงรูป อยู่ในบริเวณที่ฉีดไม่ไหลหรือย้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหน้าที่แข็งแรงและดีอยู่แล้ว แต่อยากมีใบหน้าที่สวยคม และ Optimal Balance Technology (OBT) คือ Dermal Filler ที่เป็น soft gel เหมาะสำหรับผู้ที่มีลักษณะผิวค่อนข้างบางหรือบริเวณที่มีการเคลื่อนไหว เช่น ใต้ตา รอบริมฝีปาก เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ดูไม่แข็งทื่อ จึงทำให้ออกมาเป็นฟิลเลอร์ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด สามารถคงอยู่ภายใต้ผิวหนังได้ยาวนานขึ้นและสามารถเติมเต็มเนื้อเยื่อให้กับผิวหนังได้อย่างเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับใคร
เหมาะกับผู้ที่เติมเต็มและปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ด้วยการเติมบริเวณคาง แก้ม ร่องใต้ตา หน้าผาก ร่องแก้ม ขมับ ริมฝีปาก มือ คอ เนินอก หรือ ปรับกรอบหน้าให้คมชัด คืนความอ่อนเยาว์ ทำให้หน้ามีมิติมากขึ้นก็สามารถทำได้ หน้าจะดูอิ่มฟูขึ้นทันทีหลังจากฉีดเสร็จ
อายุการใช้งาน
สามารถอยู่ได้ 6-18 เดือน สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ หลังจากฉีดเสร็จไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ เพราะร่างกายจะเกิดความร้อน อาจทำให้สารฟิลเลอร์เสียรูปทรง จากการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงได้ และไม่ควรสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ด้วยความรุนแรงหรือทำการขัดถูใบหน้า
ขั้นตอนการทำทรีตเมนต์
ทีมโว้กบิวตี้ได้เข้ารับการรักษากับ นายแพทย์ธงชัย ปัณฑวนันท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบทอกซ์และฟิลเลอร์ ที่นิติพล คลินิก สาขาสีลม คุณหมอได้ทำการวิเคราะห์รูปหน้าและถามถึงความต้องการในการแก้ไขปัญหารูปหน้า โดยคุณหมอบอกว่าทางเรามีรูปหน้าที่ค่อนข้างใหญ่เพราะเกิดจากการกล้ามเนื้อส่วนกรามที่ไม่กระชับเข้ารูป รวมถึงใต้ตาที่ค่อนข้างลึกเพราะเกิดจากการพักผ่อนน้อยและโรคประจำตัวอย่างภูมิแพ้ จึงทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส คุณหมอจึงจะฉีดโบทอกซ์และฟิลเลอร์ เพื่อปรับรูปหน้าและยกกระชับผิวให้เข้ารูป พร้อมเติมเต็มร่องลึกให้ผิวดูฟูขึ้น จากนั้นก็เริ่มจากการลบเครื่องสำอางและทำความสะอาดผิวให้สะอาด จากนั้นจะทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 45-60 นาที บริเวณกรอบหน้าทั้งหมด หลังจากครบเวลาก็ลบยาชาออกแล้วเริ่มฉีดฟิลเลอร์ก่อนเป็นอันดับแรก โดยคุณหมอจะเน้นฉีดบริเวณถุงใต้ตามาจนถึงโหนกแก้ม รวมถึงตรงร่องน้ำหมาก ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น ต่อด้วยการฉีดโบทอกซ์ คุณหมอจะเน้นฉีดที่บริเวณกรามทั้งสองข้าง กรอบหน้า และหน้าผากเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูปกว่าเดิม กล้ามเนื้อส่วนกรามเล็กลง พร้อมลดริ้วรอยอย่างตีนกาและรอยย่นบนหน้าผาก เมื่อฉีดเสร็จจะมีรอยแดงของเข็มเล็กน้อยและจะรู้สึกแน่นๆ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์นิดหน่อย แต่สิ่งเหล่านี้จะหายไป 2-3 วันหลังจากฉีด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้หลังจากทำทรีตเมนต์มาเป็นเวลา 1 เดือน คือ ใบหน้าเข้ารูปมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยบริเวณดวงตาและหน้าผากน้อยลง ร่องแก้มดูอิ่มฟูขึ้น รู้สึกมั่นใจเวลาต้องถ่ายรูปหรือพบปะผู้คน
WATCH
นายแพทย์ธงชัย ปัณฑวนันท์
สาวๆ คนไหนสามารถติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.galdermaaestheticsthailand.com
ข้อมูล : www.galdermaaestheticsthailand.com/th
ภาพ : IG: @iulia_david_photography
WATCH