TREATMENTS

อัปเดตหัตถการงานผิวฉบับปี 2025 กับคุณหมอโดฟ-มนัสพงษ์

2025 ยังคงเป็นอีกปีที่คุณภาพผิวคือเรื่องพื้นฐานของการดูแลตัวเองเรื่องความงาม

ก่อนจะตัดสินใจเริ่มเข้าวงการ “งานผิว” ในปี 2025 ควรต้องรู้อะไรบ้าง?

 

สองถึงสามปีมานี้เรื่องงานผิวถือเป็นตัวเลือกมาแรงของคนยุคใหม่ที่อยากดูแลตัวเอง โว้กบิวตี้จึงไม่พลาดมาอัปเดตเรื่องงานผิวไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์หรือไบโอสติมูเลเตอร์กับ หมอโดฟ (นพ.มนัสพงษ์  จิรพัฒนางกูร) แพทย์ประจำนิติพลคลินิกที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับหัตถการและการดูแลผิวมานานกว่า 6 ปี ใครอยากเข้าวงการงานผิวในปีนี้ เตรียมจดข้อมูลอัปเดตไว้ได้เลย

Then & Now เรื่องเสริมความงาม

พูดได้เต็มปากแล้วว่าเราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเรื่องความงามเรียบร้อย ใครนึกถึงเรื่องทำหน้าหรือเสริมความงามจึงต้องลืมภาพจำเก่าๆ ไปก่อนเลย จากความเห็นของหมอโดฟก็ให้เหตุผลในด้านนี้เช่นกัน ยุคก่อนหน้านี้ความสวยมีภาพจำเป็นใบหน้าเรียว ตึง เข้ารูป คนยุคก่อนเน้นการเติมเต็มและการล็อกใบหน้าให้ดู “หน้าวี” ทำให้ปัญหาหลักของการเสริมความงามยุคก่อนคือความสวยที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ 

แต่ปัจจุบันที่ไลฟ์สไตล์คนหันกลับมาดูแลตัวเองตั้งแต่พื้นฐาน อยากมีรูปร่างในอุดมคติก็เริ่มที่อาหารการกินและการออกกำลังกายมากกว่าพึ่งพายาลดน้ำหนัก อยากมีความสุขในการใช้ชีวิตก็ย้อนกลับมาใส่ใจเรื่องสุขภาพจิต เช่นกันกับเรื่องความสวย อยากให้ใบหน้าดูดีตามต้องการก็เริ่มที่เรื่องพื้นฐานอย่างการดูแลผิวให้มีความชุ่มชื่น มีความยืดหยุ่น และเข้าใจว่าพื้นฐานของความสวยมี “ความไม่สมบูรณ์แบบ” ซ่อนไว้อยู่ ทำให้ยุคนี้การเสริมความงามแบบภาพรวมจึงที่เป็นที่นิยมมากกว่าเฉพาะจุด ซึ่งการเติมเต็มงานผิวที่ทำทั่วใบหน้าก็จะช่วยเรื่องคุณภาพผิวแบบโดยรวมเช่นกัน

Fun Fact: รู้ไหมว่าการทำสวยยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากการแต่งรูปผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ด้วย! จากการวิเคราะห์ของคุณหมอ การปรับแต่งผิวให้ดูกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย รวมถึงการปรับดึงรูปหน้าในแอปที่ไม่เน้นหน้าวี แต่เน้นให้ใบหน้าดูเข้ารูปเป็นธรรมชาติส่งผลถึงการเสริมความงามยุคนี้ด้วยเช่นกัน

งานผิวเทคนิคเฉพาะ

จากการพูดคุยกับคุณหมอ เทคนิคสำคัญอย่างหนึ่งที่หมอโดฟใช้คือความเข้าใจว่าเสน่ห์บนใบหน้าชองแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นต้องมองและวิเคราะห์ภาพรวมร่วมกับความกังวลของบุคคลนั้นๆ ในกลุ่มผู้ใหญ่ช่วงวัย 30 ปีขึ้นไปมักกังวลเรื่องริ้วรอย และจุดที่มักเป็นแพะรับบาปก่อนคือร่องแก้ม ซึ่งในบางคนเติมร่องแก้มให้ตื้นขึ้นอาจไม่ได้ช่วยให้หน้าแลดูเด็กลง แต่ต้องมาทำในช่วง “Mid-Face” แทน และการเติมเต็มงานผิวในบริเวณนี้จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่นและมีประกายมากขึ้น ทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูสดใสอ่อนวัย ที่สำคัญคือการเติมเต็มในผิวชั้นลึกที่เป็นเทคนิคที่คุณหมอใช้เพื่อหลีกเลี่ยงอาการ “ฟิลเลอร์เป็นก้อน” ที่หลายคนกำลังเป็นกันอยู่



WATCH



ภาพ: Design by Freepik

Skinvive หนึ่งในงานผิวที่ถูกใช้ในนิติพลคลินิกเพื่อเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวและเสริมการทำงานธรรมชาติของผิว

3 สิ่งที่คนยังเข้าใจผิดเรื่องงานผิว

 

  • ทำที่ไหนก็เหมือนกัน

 

เพราะประโยคนี้แหล่ะที่เป็นสาเหตุสำคัญที่คนส่วนใหญ่เจอปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนบ้าง เติมเต็มงานผิวแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติบ้าง ทฤษฎีทางปฏิบัติสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง แต่อันดับถัดมาคือประสบการณ์และเทคนิคเฉพาะที่หมอแต่ละคนมีแตกต่างกัน ดังนั้นควรเข้าไปปรึกษากับคุณหมอก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าหมอคนที่เราเลือกเข้าใจความกังวลที่แท้จริงและแนะนำการรักษาที่ถูกวิธี

 

  • หลาย CC ใช่ว่าจะดี

 

ข้อนี้ใช้ได้กับทั้งการเติมเต็มงานผิวและการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์ การเสริมความงามต้องนึกไว้เสมอว่าหาก “ขาด” ยังเติมได้ แต่หาก “เกิน” จนต้องเอาออกจะยุ่งยากกว่า โดยเฉพาะหัตถการต่างๆ การฉีดสลายอาจส่งผลค้างเคียงต่อผิวเดิมของเราได้เช่นกัน

 

  • ทำแล้วไม่ทาสกินแคร์

 

หัตถการงานผิวช่วยเสริมการทำงานของผิวให้ดูชุ่มชื่นมีประกายดูสุขภาพดีก็จริง แต่ต้องการตัวช่วยเพื่อคงผลลัพธ์ให้ยาวนาน การทาสกินแคร์จะเป็นการเสริมประสิทธิภาพให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นและทำงานได้เต็มระบบธรรมชาติ ดังนั้นหากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและยาวนานขึ้นต้องไม่ลืมทาสกินแคร์ให้ครบขั้นตอน ทำความสะอาดผิว เติมความชุ่มชื่นด้วยเซรั่ม ล็อกความชุ่มชื่นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ และไม่ลืมทากันแดดทุกครั้งตอนเช้า

WATCH