TREATMENTS

เลเซอร์หน้าใสคืออะไร...เลือกแบบไหนถึงเหมาะกับสภาพผิวหน้าของเรา

เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวหน้าแบบรวดเร็วทันใจด้วยเลเซอร์หน้าใส ช่วยลดความหมองคล้ำและจุดด่างดำ ผิวดูเปล่งประกายยิ่งขึ้น

     ‘เลเซอร์หน้าใส’ เป็นเลเซอร์ยอดนิยมที่จะช่วยแก้ไขจุดต่างๆ บนใบหน้า ซึ่งเน้นจัดการกลุ่มเม็ดสี รอยดำสิว กระ ฝ้า และกระชับรูขุมขน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ และผิวไม่เรียบเนียนในเวลาอันรวดเร็ว ใครที่กำลังตัดสินใจอยากทำเลเซอร์หน้าใส บทความนี้โว้กบิวตี้จะพามาทำความรู้จักกับเลเซอร์ชนิดนี้กัน

 

เลเซอร์หน้าใสคืออะไร

     เลเซอร์หน้าใสเป็นการยิงเลเซอร์ลงสู่ใต้ชั้นผิว เพื่อช่วยลดระยะการผลัดเซลล์เม็ดสีเมลานินส่วนเก่าประมาณ 4-6 สัปดาห์ แล้วสร้างเซลล์ผิวส่วนใหม่ขึ้นมาทดแทนให้เร็วยิ่งขึ้น จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใสมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง จุดด่างดำจากสิวต่างๆ รวมถึงผิวหน้าหมองคล้ำ แลดูไม่มีชีวิตชีวา

 

ประโยชน์ของเลเซอร์หน้าใส

  • ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว
  • ลดรอยดำที่เกิดจากรอยแผลเป็น ซึ่งหลุดลอกและหายดีแล้ว แต่ยังทิ้งความหมองคล้ำไว้บางจุด
  • ลดริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า เช่น รูขุมขน ร่องแก้ม หรือรอยเหี่ยวย่นต่างๆ ที่ไม่ลึกมากนัก
  • กระชับรูขุมขนให้เล็กลง เพื่อช่วยให้แต่งหน้าติดง่ายและลดปัญหาการเกิดสิวอุดตันตามมาทีหลังได้
  • ปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้มีความเท่ากันและกระจ่างใสยิ่งขึ้น

 

 

ประเภทของเลเซอร์หน้าใส

1. Q-switch Laser

     เป็นเลเซอร์ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงความหมองคล้ำ โดยผ่านการปล่อยพลังงานเลเซอร์เข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ผิวที่หมองคล้ำไม่สดใสผลัดออก ก่อนจะผลัดเซลล์ใหม่เป็นผิวที่กระจ่างใสขึ้น

2. Fractional Co2 Laser

     เป็นเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิวและกระชับรูขุมขน รวมถึงกระตุ้นผิวให้กระจ่างใส โดยเป็นการยิงลำแสงในลักษณะเป็นจุดเล็กๆ หลายจุดเรียงกันเป็นตาราง เพื่อลอกเซลล์ผิวที่เสียไปแล้วออกมาก่อน แล้วจะกระตุ้นให้การผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่เปล่งปลั่งกว่าเกิดขึ้น

3. E-Matrix Laser

     เป็นนวัตกรรมเลเซอร์หน้าใสผ่านการยิงคลื่นวิทยุความถี่ (Radio Fractional: RF) นอกจากกระตุ้นความใสของผิวแล้ว ยังช่วยกระตุ้นปัญหาหลุมสิวให้ตื้นจางลงอีกด้วย เพราะเป็นการสร้างแผลบนใบหน้าผ่านการยิงคลื่นวิทยุความถี่ เพื่อให้เซลล์ผิวบริเวณที่เกิดแผลผลัดเซลล์ใหม่ รวมถึงเสริมปริมาณคอลลาเจนให้เพียงพอ จะทำให้สีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางกระจ่างใสกว่าเซลล์ผิวเก่าที่ผลัดออกไปด้วย

4. IPL

     IPL ย่อมาจาก “Intense pulse light” ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานแสงที่กว้าง 500-1,200 นาโนเมตร ซึ่งสามารถปรับเซลล์ผิวให้ใสขึ้นโดยที่พลังงานยังมีความอ่อนโยนต่อผิวอยู่ แต่จะไม่สามารถยิงพลังงานลงลึกผิวหนังชั้นในได้ ทำให้เห็นผลการรักษาไม่ชัดเจนมากนักในครั้งแรก จึงควรมายิงหลายครั้งจึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง

5. Dual Yellow Laser

     เป็นนวัตกรรมเลเซอร์ที่ค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิวที่สุด มีจุดเด่นตรงที่หลังจากเลเซอร์แล้ว สามารถแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางตามต้องการได้ทันที ต่างจากนวัตกรรมเลเซอร์อื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการทำงานเพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวอย่างเฉพาะจุด ไม่ทำลายผิวหนังใกล้เคียง

 

 

ทำเลเซอร์หน้าใสกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

     โดยปกติเลเซอร์หน้าใสจะเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับบริการ แต่เพื่อความต่อเนื่องที่จะทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนในระยะยาว ควรมารับบริการยิงเลเซอร์อย่างต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมของผิวที่จะผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสกว่าเดิม

การเตรียมตัวก่อนและหลังเข้ารับบริการเลเซอร์หน้าใส

ก่อนเข้ารับบริการ

  • แนะนำให้งดออกไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ก่อนมายิงเลเซอร์ เพราะจะทำให้ผลลัพธ์การยิงเลเซอร์ลดน้อยลง 
  • งดใช้สกินแคร์ทุกชนิดที่อาจสร้างความระคายเคืองต่อผิว เช่น กลุ่มวิตามินเอ (Retin-A) หรือ AHA 
  • งดเกาผิวหรือทำให้ผิวเป็นแผล เพื่อลดโอกาสติดเชื้อและความรู้สึกเจ็บระหว่างยิงเลเซอร์ 
  • ทาครีมเสริมความชุ่มชื้นที่ผิวให้มากกว่าเดิม เพราะผิวหลังจากทำเลเซอร์หน้าใสเสร็จจะมีความแห้งเป็นพิเศษ จึงควรเติมความชุ่มชื้นให้เพียงพอก่อนเข้ารับบริการ

หลังเข้ารับบริการ

  • ทาครีมกันแดดทุกวันและงดออกไปเผชิญแสงแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยควรมีค่า SPF 30+ หรือ 50+
  • แนะนำให้หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ผิวลอกจนเกิดเป็นแผลได้
  • ไม่แกะ แคะ หรือเกาแผล เพราะจะทำให้แผลหายช้าและเกิดแผลใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมได้
  • รับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างเพียงพอ จะช่วยเสริมให้ผิวสวยกระจ่างใสกว่าเดิมได้อีกหนึ่งวิธี

 



WATCH



 

ข้อดีและข้อเสียของเลเซอร์หน้าใส

ข้อดี

  • ผิวกระจ่างใสขึ้นในระยะเวลารวดเร็ว
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย เช่น สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยสิว และกระชับรูขุมขน 
  • ไม่ต้องพักฟื้นหลังจากทำ สามารถแต่งหน้าได้ทันที (เฉพาะ Dual Yellow Laser เท่านั้น)
  • กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น

ข้อเสีย

  • อาจทำให้ผิวหน้าเกิดอาการบวมแดงหลังจากทำเสร็จ
  • มีความรู้สึกเจ็บระหว่างทำเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการดูแลเตรียมผิวก่อนเข้ารับบริการ
  • ผิวหน้ามีความไวต่อแสงแดดหลังจากทำเลเซอร์หน้าใส
  • จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน จึงอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในอนาคตได้

     ใครที่กำลังประสบปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง แลดูไม่สดชื่น ลองใช้ตัวช่วยเลเซอร์หน้าใสที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำจากรอยสิวต่างๆ พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนแบบไม่ต้องพึ่งรองพื้นเพื่อผิวสวยกระจ่างใสในระยะเวลาอันรวดเร็ว

 

WATCH