TREATMENTS

เจาะลึกหัตถการ ‘HIFU’ หนึ่งทางเลือกแห่งการยกกระชับผิว พร้อมไกด์ข้อมูลสำหรับมือใหม่ที่ควรรู้!

อีกหนึ่งทางลัดบอกลาปัญหาผิวไม่กระชับได้โดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น มักมีสัญญาณเตือนผิวแห่งวัยอย่างเรื่องความหย่อนคล้อยและริ้วรอยตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งการดูแลด้วยการทาครีมหรือสกินแคร์คงไม่เพียงพอ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความกังวลใจและไม่มั่นใจในตัวเอง ล่าสุดอีกหนึ่งเทรนด์เสริมความงามที่จะมาช่วยสร้างความมั่นใจอย่าง HIFU เทคโนโลยีช่วยยกกระชับผิว ลดเลือนริ้วรอย และมอบผิวที่แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทว่าต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น วันนี้โว้กบิวตี้จึงขออาสารวบรวมความรู้คร่าวๆ ของหัตถการนี้มาบอกต่อเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนทำ

ทำความรู้จักกับ HIFU ตัวช่วยยกกระชับผิว

หัตถการ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นการใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวด์ที่มีความเข้มข้นเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิวและยกกระชับผิวหย่อนคล้อยจากการเสื่อมลงของผิว รวมถึงมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อิลาสติน และเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือทำร้ายผิว ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียน กระชับมากขึ้น และยับยั้งริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อีกด้วย

 



WATCH



ภาพชั้นผิวหนัง

ซึ่งเทคโนโลยี HIFU นั้นใช้หลักการผ่านการสั่นสะเทือนของชั้นผิวด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง 4-7 เมกะเฮิรตซ์ ที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยหู หรือที่เรียกว่า อัลตราโซนิก (Ultrasonic) ผ่านอุปกรณ์ควบคุมการเดินทางของคลื่นเสียงให้สม่ำเสมออย่าง อะคูสติกเลนส์ (Acoustic Lens) ที่ติดตั้งในหัวยิงคลื่นเสียง โดยใช้หัวยิงแนบกับบริเวณผิวที่ต้องการยกกระชับ ทำให้คลื่นเสียงส่งผ่านไปยังแต่ละชั้นผิวที่มีปัญหาได้อย่างตรงจุด เมื่อคลื่นเสียงความถี่สูงเดินทางอย่างสม่ำเสมอไปยังชั้นผิวจะเกิดการสั่นสะเทือนในชั้นผิวจนเกิดเป็นพลังงานความร้อนแบบจุดใต้ชั้นผิว ทำให้เนื้อเยื่อหดตัวลงคล้ายกับเนื้อสัตว์ที่ถูกความร้อน โดยไม่ทำลายหรือทำให้ผิวชั้นนอกบางลงเหมือนการเลเซอร์ผิวแบบอื่นๆ HIFU จะทิ้งรอยจุดเล็กๆ ไว้เพียงชั่วครู่ และหายได้เองโดยไม่สร้างรอยแผลเป็นไว้ให้กังวลใจ อีกทั้งการเลือกใช้หัวยิงให้เหมาะสมกับระดับผิวเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน เรามาทำความรู้จักกับหัวยิงคลื่นเสียง 3 ขนาดว่ามีคุณสมบัติการทำงานที่แตกต่างกันอย่างไร

1 / 3

หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 1.5-2.0 มิลลิเมตร

1.หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 1.5-2.0 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับผิวชั้นบน (Upper Dermis) มีคุณสมบัติพิเศษช่วยยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินของผิวชั้นบน ทำให้ริ้วรอยแลดูจางลง

2 / 3

หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 3.00 มิลลิเมตร

2.หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 3.00 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) มีคุณสมบัติพิเศษช่วยลดไขมันและเซลลูไลต์ อันเป็นหนึ่งสาเหตุของผิวไม่เรียบเนียน พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวชั้นกลาง ทำให้หน้าแลดูกระจ่างใสและเรียวกระชับไปพร้อมๆ กัน

3 / 3

หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 4.50 มิลลิเมตร

3.หัวยิงคลื่นเสียงขนาดความลึก 4.50 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับผิวชั้นล่าง (Superficial muscular aponeurotic system) ที่มีคุณสมบัติพิเศษแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย จากการเสื่อมลงและยืดออกของคอลลาเจนและอิลาสตินที่ผิวหนังชั้นล่าง  เป็นชั้นผิวที่นิยมทำการดึงผิวหน้าให้เรียบตึงด้วยวิธีผ่าตัด และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวยกกระชับ ริ้วรอยจางหาย ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หัตถการนี้ช่วยแก้ปัญหาผิวบริเวณใดได้บ้าง

  1. บริเวณหน้าผากและระหว่างคิ้ว ลดรอยเหยี่ยวย่น
  2. บริเวณรอบดวงตา ลดรอยตีนกาและริ้วรอย
  3. บริเวณแก้ม ลดไขมัน ยกกระชับผิวบริเวณแก้มที่หย่อนคล้อย
  4. บริเวณผิวหน้า ยกกระชับผิวหน้า ปรับใบหน้าให้เข้ารูป เห็นกรอบโครงหน้าชัดเจนเรียวสวย
  5. บริเวณใต้คาง ลดรอยเหี่ยวย่นของเหนียง พร้อมยกกระชับเหนียงบริเวณใต้คางที่หย่อนคล้อย
  6. บริเวณลำคอ ลดรอยเหยี่ยวย่น ยกกระชับผิวบริเวณลำคอที่หย่อนคล้อย
  7. บริเวณต้นแขน ต้นขา ลดไขมันและเซลลูไลต์ ยกกระชับผิวบริเวณต้นแขนที่หย่อนคล้อย
  8. บริเวณหน้าท้อง ลดไขมันและเซลลูไลต์ ยกกระชับผิวหน้าท้องที่หย่อนคล้อย
  9. บริเวณรอบเอว ลดไขมันและเซลลูไลต์ ยกกระชับผิวบริเวณรอบเอวที่หย่อนคล้อย
  10. บริเวณสะโพก ลดไขมันและเซลลูไลต์ ยกกระชับผิวบริเวณสะโพกที่หย่อนคล้อย

หัตถการนี้ไม่เหมาะกับใครบ้าง

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหัตถการทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอย ทว่า HIFU จะส่งผลต่อระบบกล้ามเนื้อในแต่ละชั้นผิวและอาจส่งผลต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต ก่อนเข้ารับบริการควรศึกษาข้อมูลทั้งข้อดีและข้อด้อยเป็นอย่างแรก เราสามารถเช็กลิสต์ตัวเองได้ว่าเหมาะกับการทำหัตถการนี้หรือไม่ ได้ดังนี้

  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรทำหลังคลอดบุตรและสภาพร่างกายกลับมาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว
  • ผู้ที่มีอาการบวม ฟกช้ำ มีบาดแผล ผิวอักเสบ หรืออยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังผ่าตัด ควรรอให้อาการเหล่านี้หายดีหรือหลังผ่าตัดไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนโลหิตที่ผิดปกติ
  • ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation)
  • ผู้ที่มีภาวะการขาดความสามารถในการรับความรู้สึก Sensory Processing Disorder (SPD)

ข้อควรปฏิบัติก่อนทำ HIFU

เนื่องจากการทำ HIFU จะส่งผลกระทบต่อชั้นผิวแต่ละชั้น ฉะนั้นการเตรียมตัวก่อนการทำจึงต้องคงสภาพผิวทั้งผิวภายนอกและผิวภายในของเราให้ปกติมากที่สุด โดยมีวิธีปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้

  1. งดนวดหน้า สครับผิวหน้า นวดผิว ขัดผิว
  2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
  3. งดกิจกรรมที่ทำให้ผิวอักเสบหรือเกิดบาดแผล
  4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ผิวต้องถูกแสงแดดเป็นเวลานาน
  5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
  6. รับประทานยาแก้ปวดก่อนการทำ HIFU 

ข้อควรปฏิบัติหลังทำ

หลังจากทำ HIFU ผิวอาจมีอาการผิวบวม ตึง และแดง จากพลังงานความร้อน หลังจากนั้นอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์ จนผิวกลับมาเป็นปกติ ซึ่งอาการบวมดังกล่าวบ่งบอกว่าการทำ HIFU ได้ผล เนื่องจากพลังงานความร้อนทำปฏิกิริยากับชั้นผิว ซึ่งเป็นอาการปกติและเป็นผลข้างเคียงที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ในระยะนั้นควรงดรับประทานเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดนวดหรือขัดผิว และงดการออกกำลังกาย จนกว่าอาการดังกล่าวจะหายดี

 

หัตถการ HIFU ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการยกกระชับผิวที่ได้ผลลัพธ์เห็นผลไวโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม สำหรับใครที่สนใจหัตถการนี้ อย่าลืมทำความรู้จักให้ดีก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจมากที่สุด และสามารถขอคำปรึกษาจากทีมแพทย์ของทางกังนัมคลินิก เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวให้เหมาะสมกับรูปหน้าและรูปร่างของแต่ละบุคคลได้

WATCH