SKINCARE

#VogueReview แนะนำสกินแคร์จาก Philosophy แบรนด์ที่คิดค้นมาเพื่อทุกสภาพผิว

ทำความรู้จัก Philosophy แบรนด์เครื่องสำอางที่โดดเด่นเรื่องส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ มาพร้อมเนื้อสัมผัสที่อ่อนโยนใช้ง่าย และมีหลากหลายสูตรสำหรับทุกสภาพผิว

 

     นับตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ในปี 1996 Philosophy แบรนด์เครื่องสำอางสัญชาติอเมริกันได้ยึดมั่นในปรัชญาการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว มีส่วนผสมที่ทรงประสิทธิภาพ และที่สำคัญช่วยให้ช่วงเวลาการดูแลผิวเป็นโมเมนต์ Self-care ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มาโดยตลอด โดยเป็นแรงบันดาลใจของแบรนด์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ความงามที่ผสานนวัตกรรมและแนวคิดการดูแลผิวที่ใช้แล้วมอบความรู้สึกฟิลกู้ดเข้าด้วยกัน ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ ไล่ตั้งแต่สกินแคร์ บอดี้แคร์ และน้ำหอม จะมาพร้อมกลิ่น เนื้อสัมผัส สี และข้อความที่ช่วยบูสต์พลังบวกขณะที่ดูแลผิว วันนี้โว้กบิวตี้เลยขอพาทำความรู้จัก 2 ไลน์ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมจากแบรนด์ Philosophy กัน

 

Purity Made Simple

หนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของแบรนด์ มาพร้อมสกินแคร์ที่อุดมด้วยส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างเรียบง่าย เน้นส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ โดย Purity Made Simple สูตรปรับปรุงใหม่ได้เน้นการใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ผสมพาราเบน พาทาเลต ฟอร์มาลดีไฮด์ สาร SLS และ สาร SLES 

 

Purity Made Simple One-Step Facial Cleanser ราคา 1,800 บาท

เคลนเซอร์ช่วยทำความสะอาดผิวในขั้นตอนเดียวที่ล่าสุดได้มีการปรับสูตรใหม่ที่ช่วยทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งขึ้นแต่ยังคงอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวไปด้วยในตัว อย่างสารสกัดจากน้ำมันเมล็ดมีโดว์โฟม ที่ช่วยปรับผิวให้สมดุลและคงความชุ่มชื่นไม่ให้ผิวแห้งตึงหลังล้าง นอกจากนี้ยังเป็นเคลนเซอร์ที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดฟองอย่าง SLS และ พาราเบน

Editor's Tip: นอกจากช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยนและสะอาดหมดจดแล้ว Mario Dedivanovic เมกอัพอาร์ทิสต์มือโปรผู้อยู่เบื้องหลังลุคเมกอัพของ Kim Kardashian ยังนำมาช่วยทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าด้วย เพราะช่วยดึงสิ่งสกปรกและเมกอัพออกจากแปรงแต่งหน้าได้หมดจด แถมยังช่วยถนอมขนแปรงด้วย

 

 

Hope in a Jar 

กลุ่มสกินแคร์ที่มาพร้อมคุณสมบัติช่วยบูสต์ความชุ่มชื่น คืนความเรียบเนียน และฟื้นบำรุงให้ผิวดูสดใส อุดมด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่ผสานเข้ากับนวัตกรรมที่คิดค้นมาเพื่อปลุกความโกลว์ของผิว 

 



WATCH



Hope In a Jar Instant Glow Peeling Mousse ราคา 1,485 บาท

หลังจากล้างหน้า สเต็ปแรกของรูทีน Hope In a Jar เริ่มที่การใช้มาส์กที่มาพร้อมคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบไฮบริดด้วยส่วนผสมของเอ็นไซม์ เนื้อมาส์กที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังนี้จะช่วยฟื้นคืนผิวที่สุขภาพดี ด้วยสารสกัดจากดอกคอร์นฟลาวเวอร์  วิชเฮเซลวอเตอร์ และไพน์แอปเปิ้ลคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นสูตรที่เป็นเอกลักษณ์ของ Philosophy ช่วยมอบผิวที่เรียบเนียนและเปล่งปลั่ง

 

Hope In A Jar Biome-Balance Glow Serum ราคา 2,350 บาท

เติมน้ำให้ผิวต่อกับเซรั่มเนื้อสัมผัสบางเบาที่มาพร้อมส่วนผสมทรงประสิทธิภาพในการคืนความชุ่มชื่น อย่าง Aloe Vera, Vitamins C และ E, Peptides, Asian Fruit Extract และ Jasmine Extract ที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวดูสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ด้วย

 

 

Hope In A Jar Skin Resurrection Overnight Power Hydrator

ปิดท้ายรูทีนด้วยสลีปปิ้งมาส์กที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างล้ำลึก โดยอุดมด้วยส่วนผสมจากพืชไมราเมส (Myramazee Resurrection Plant) ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่สามารถทนการขาดน้ำได้นานถึง 1 ปี มีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นวงจรการสร้างเซลล์ผิวใหม่ในเวลากลางคืนและปรับสมดุลผิวหน้าให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น

 

 

นอกจากจะเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกส่วนผสมที่โปรดภัยต่อผิวแล้ว ทางแบรนด์ยังมาพร้อมข้อความสร้างพลังบวกบนแพ็คเกจที่ตั้งใจอยากให้ทุกคนได้รู้สึกดีขณะที่ทำสกินแคร์รูทีน โดยทางแบรนด์ยังได้มอบรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อการกุศลในการสนับสนุนกรมสุขภาพจิตทั่วโลกด้วย

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: Philosophy