THREE ก้าวสู่ปีที่ 10 ในไทย โว้กพาคุยกับผู้ก่อตั้งแบรนด์ถึงจุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบองค์รวม

คุณยาซูชิ อิชิบาชิ

     หลังเปิดตัวเป็นระยะเวลา 3 ปีในประเทศญี่ปุ่น THREE มองหาตลาดความงามใหม่ๆ เพื่อขยายแบรนด์ไปสู่ชาวโลก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่ทางคุณยาซูชิให้ความสำคัญ โดยจากการเปิดตัวครั้งแรกตลอดจนปัจจุบันคุณยาซูชิแชร์กับขณะสื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยยังคงให้การตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะพาเราออกเดินทางไปรู้จักเรื่องราวที่เป็นจุดเริ่มต้นของ THREE “เรากำเนิดขึ้นด้วยแนวคิดการดูแลแบบองค์รวม การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติแบบเน้นๆ สำหรับ THREE เหมือนกับการยืมพลังจากธรรมชาติมาช่วยปรนนิบัติผิวและช่วยบำบัดร่างกายให้คลายความเครียดให้กับคนในปัจจุบัน” คุณยาซูชิเล่าถึงหัวใจในการรังสรรค์กินแคร์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติเพื่อการดูแลผิวแบบองค์รวมว่ามีที่มาจากความเชื่อมโยงกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาติที่มีมาอย่างยาวนาน “ยกตัวอย่างนะครับ เคลนซิ่งออยล์คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดาวเด่นของเรา  ซึ่งนอกจากให้ความสำคัญกับการคิดค้นสูตรที่ช่วยดูดจับสิ่งสกปรกบนผิวออกได้หมดจดแล้ว ทางเรายังให้ความสำคัญกับเรื่องของประสาทสัมผัสด้วย อย่างคุณสมบัติในการช่วยชะล้างความเครียดในแต่ละวันจึงเป็นที่มาที่ทาง THREE ทุ่มเทให้กับการวิจัยด้านส่วนผสมและพิถีพิถันด้านการเลือกเอสเซนเชียลออยล์ที่ช่วยสร้างกลิ่นหอมที่รื่นรมย์ขณะปรนนิบัติผิว “ไอเดียที่ผมแอบคิดไว้ในอนาคตคืออาจนำกลิ่นหอมของสมุนไพรไทยมาผสานในการสร้างสรรค์กลิ่นหอมของ THREE” คุณยาซูชิแชร์ถึงความตั้งใจในอนาคตที่อยากรังสรรค์คอลเล็กชั่นพิเศษเพื่อมอบให้กับสาวกบิวตี้ชาวไทย โดยหลังจากได้ทำความรู้จัก THREE คุณยาซูชิพาเราไปรู้จักกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Balancing อย่าง THREE Balancing Nectar 

     THREE Balancing Nectar

      ความพิเศษที่มาพร้อมกับการฉลองครบรอบ 10 ปี ในประเทศไทย คือการชวนแฟนๆ ของแบรนด์มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในการดูแลผิวแบบองค์รวมกับไลน์ Balancing Nectar โดยยังเน้นใช้ส่วนผสมมาจากธรรมชาติกว่า 90% จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเปรียบเสมือนการบูสต์ซูเปอร์ฟู้ดให้กับผิวด้วยคุณค่าจากสุดยอดผัก และผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย อาทิ ไฟโตนิวเทรียนท์ (สารพฤกษเคมี) ที่เน้นมอบความอวบอิ่ม ชุ่มฉ่ำ และยืดหยุ่นให้แก่ผิว มอบผลลัพธ์ผิวที่ดูโกล์วใส เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ  โดยขณะที่พาเราไปรู้จักกับแต่ละผลิตภัณฑ์ไล่ตั้งแต่เคลนเซอร์ เอสเซ้นส์เซรั่ม และมอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งผสานส่วนประกอบจากน้ำมันธรรมชาติ น้ำจากผลไม้ และเอสเซ็นเชียลออยล์มากถึง 21 ชนิด คุณยาซูชิเผยว่ากว่าจะมาเป็นแต่ละผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านมา THREE ได้มีการนำส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นมาใช้เพื่อนำเสนอองค์ความรู้ดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นไปสู่ชาวโลกหรือที่แบรนด์เรียกว่าแนวคิดชินโดฟุจิ อย่างส่วนผสมจากชาที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่มีบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่นและเป็นส่วนผสมหลักทั้งในสกินแคร์ แฮร์แคร์ ไปจนถึงเมกอัพ คุณยาซูชิเล่าให้เราฟังว่าเอสเซนเชียลออยล์จากชาที่นำมาใช้นั้นสกัดมาจากส่วนใบชาและก้านชา และปัจจุบันสารสกัดจากเมล็ดของชา (Tea Seed Oil) ก็ถูกนำมาใช้เช่นกัน เพื่อลดการสร้างขยะจากการสกัดส่วนผสม ซึ่งเป็นการตอกย้ำตัวตนการเป็นผู้นำไลฟ์สไตล์แบรนด์ที่ไม่เพียงเน้นใช้ส่วนผสมแบบออแกนิกที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรระดับโลกอย่าง COSMOS ที่ยึดหลักการเพาะปลูกที่เป็นมิตรกับระบบนิเวศ แต่ยังเป็นแบรนด์ที่ยึดแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อีกด้วย 

      เมื่อถามถึงไลฟ์สไตล์และรูทีนการดูแลผิว คุณยาซูชิแชร์กับโว้กว่าในช่วงที่สภาพอากาศเย็นจะเลือกใช้ผลิตภัณฑที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นอย่างในไลน์ Nectar ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประจำคือไลน์ THREE Balancing Stem ซึ่งเน้นดูแลผิวให้แข็งแรงพร้อมช่วยกระชับรูขุมขน “ผมเริ่มต้นรูทีนด้วยเคลนซิ่งเจล จากนั้นตามด้วยเอสเซ้นส์ประมาณ 3 ปั๊ม และปิดท้ายด้วยอิมัลชั่นเพื่อช่วยล็อคความชุ่มชื่น” โดยนอกจากนี้คุณยาซูชิเผยว่าเคลนซิ่งออยล์เป็นอีกไอเท็มที่ขาดไม่ได้ในรูทีน  

     ก่อนบทสนทนาของเราจะจบลงคุณอากิ ผู้เป็น THREE Skin Care Specialist แชร์เทรนด์การดูแลผิวแบบฉบับสาวญี่ปุ่นฝากมาให้ผู้อ่านได้ลองนำไปปรับใช้ในรูทีนกันด้วย "เทรนด์การดูผิวที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือการทำความสะอาดผิวแบบดับเบิ้ลเคลนซิ่ง คือทำความสะอาดผิวด้วยเคลนซิ่งออยล์อย่าง THREE Balancing Cleansing Oil N เพื่อช่วยลบเมกอัพและชะล้างสิ่งสกปรก ก่อนจะทำความสะอาดผิวเป็นสเต็ปที่ 2 ด้วยเคลนเซอร์เนื้อโฟมหรือเจลที่ช่วยให้ผิวสะอาดหมดจด พร้อมที่จะได้รับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป" 

บรรยากาศงานอีเวนต์ฉลองครบรอบ 10 ปี