SKINCARE

ออกเดินทางสู่เมืองโกฌักค์ ชมฟาร์มคามีลเลียและ Open-Sky Research Laboratory ต้นกำเนิด "N1 de Chanel"

อยากมีผิวสวย อิ่มฟู อ่อนเยาว์ ต้องรู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สามารถซึมซาบลงไปถึงโมเลกุลของผิวเพื่อเข้าไปช่วยฟื้นฟูและสร้างความแข็งแรงให้ผิว

     Chanel เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และอยู่ร่วมกับธรรมชาติ หนึ่งในนั้นคือเรื่องของการพัฒนาต่อยอดสู่ความยั่งยืน อย่างเรื่องการดูแลผิวให้แข็งแรงพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัย ที่แบรนด์เลือกใช้ดอกคามีลเลียเป็นส่วนผสมสำคัญ เหตุผลไม่ใช่เพราะเป็นดอกไม้ประจำแบรนด์ที่มาดมัวแซลชาเนลหลงใหล แต่เป็นเพราะว่าสำหรับมาดมัวแซลชาเนลแล้ว แฟชั่นกับความงามเป็นของคู่กัน และเธอก็เข้าใจในความแตกต่างของผู้หญิงจึงอยากส่งต่อความงามที่ยั่งยืนเพื่อให้ผู้หญิงดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก ครั้งหนึ่งมาดมัวแซลชาเนลค้นพบความลับอันมหัศจรรย์ของดอกคามีลเลียที่มีคุณสมบัติในการดูแลผิวไม่ให้ดูโทรม เธอจึงเลือกดอกไม้ชนิดนี้มาเป็นส่วนผสมในเครื่องประทินผิวของชาเนลตั้งแต่แรกเริ่ม เวลาผ่านไป ทีมชาเนลยังคงศึกษาวิจัยดอกคามีลเลียอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ขายดีที่สุดของแบรนด์

แอลลี่ อชิรญา ออกเดินทางพร้อมสื่อมวลชนไปยังเมือง Gaujacq ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อชมฟาร์มคามีลเลียและ Open-Sky Research Laboratory

     ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชาเนลพาสื่อมวลชนเดินทางแบบเอกซ์คลูซีฟไปยังเมือง Gaujacq ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศสด้วยรถไฟความเร็วสูง 4 ชั่วโมงจากกรุงปารีส เพื่อชมฟาร์มคามีลเลียและ Open-Sky Research Laboratory คามีลเลียเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูหนาวและทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ดี “คามีลเลียมีคุณสมบัติพิเศษคือไม่มีวันร่วงโรย” Jean Thoby ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าของฟาร์มบอกเรา “เป็นต้นไม้ที่ไม่มีวันตาย ยิ่งนานวันยิ่งสวยและแข็งแกร่ง” ฟาร์มแห่งนี้ได้รับการดูแลอย่างดีโดยครอบครัวของฌ็องรุ่นแล้วรุ่นเล่า ครอบครัวของเขาเป็นผู้ดูแลการปลูกและพัฒนาสายพันธุ์ดอกคามีลเลียมาถึง 5 ชั่วอายุคนแล้ว ฟาร์มนี้ไม่ได้ปลูกคามีลเลียเรียงแถวสวยงามเหมือนฟาร์มดอกไม้ทั่วไป แต่ออกแบบการปลูกคามีลเลียแต่ละสายพันธุ์ให้อยู่ท่ามกลางต้นไม้ชนิดอื่นๆ เพื่อให้ต้นไม้ในฟาร์มเกื้อกูลกันทางธรรมชาติ ฟาร์มจึงมีลักษณะเหมือนสวนป่าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ต้นหญ้า ดอกหญ้า พืชคลุมดิน และไม้ดอกอื่นๆ สาเหตุเพราะพืชแต่ละชนิดมีหน้าที่ตามธรรมชาติแตกต่างกัน อันเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้คามีลเลียให้ผลิตผลที่ดีที่สุด วิธีนี้นอกจากจะทำให้ต้นไม้เจริญเติบโตตามธรรมชาติเป็นป่าที่สมบูรณ์แล้ว ยังช่วยสร้างระบบนิเวศให้ยืนยงเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงและสัตว์ “เมืองโกฌักค์เป็นเมืองที่มีภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เหมาะสม” Philippe Grandy ผู้จัดการด้านผลิตภัณฑ์ของฟาร์มเล่าให้ฟังเกี่ยวกับระบบนิเวศในเมืองนี้ เขาวางระบบนิเวศสำหรับพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และสร้างความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลายปีที่ผ่านมามีแมลงและนกหลายสายพันธุ์ที่หายไปกลับมาใหม่อีกครั้ง “ทุกอย่างเป็นหนึ่งเดียวกันในระบบธรรมชาติ เราแค่เข้าไปอยู่ตรงนั้นและพยายามไม่ควบคุมอะไรเลย”



WATCH



N1 de Chanel Revitalizing Serum

     นอกจากการปลูกและดูแลสภาพแวดล้อมเพื่อให้ได้ดอกคามีลเลียที่ดีที่สุดแล้ว อีกหนึ่งหัวใจสำคัญคือขั้นตอนการเก็บ เพื่อไม่ให้สูญเสียสารสำคัญที่จะนำไปสกัด ดังนั้น ดอกคามีลเลียแต่ละดอกจะถูกเก็บด้วยมือและนำไปยัง Open-Sky Research Laboratory เพื่อแช่แข็งหรือศึกษาวิจัยต่อไป ที่ฟาร์มแห่งนี้มีคามีลเลียกว่า 2,700 สายพันธุ์ โดยเฉพาะ Camellia Japonoca’Alba คามีลเลียสีขาวที่บานในฤดูหนาวเท่านั้น มีคุณสมบัติในการเก็บกักน้ำได้ดี ส่วนดอกสีแดงมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและป้องกันริ้วรอยแรกเริ่มแห่งวัย ชาเนลจึงนำสารสกัดจากดอกคามีลเลียสีแดงมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในไลน์สกินแคร์ NO1 de Chanel โดยมีการค้นคว้าวิจัยตั้งแต่การปลูก การพัฒนาสายพันธุ์ จนถึงการนำไปสกัดด้วยกรรมวิธีพิเศษเพื่อรักษาคุณสมบัติของดอกคามีลเลียไว้ให้ได้ยาวนานที่สุดก่อนจะนำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ซึ่งกระบวนการวิจัยและสกัดนี้ใช้เวลาถึง 17 ปี ผลลัพธ์ที่ได้คือสารสกัดจากดอกคามีลเลียสีแดงสายพันธุ์ The Czar มีกรด Protocatechuic Acid ที่ช่วยเรื่องการชะลอวัย และมีโมเลกุลช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายในแต่ละวันอีกด้วย เมื่อใช้ติดต่อกันจะเกิดสัญญาณ 5 ประการที่บ่งบอกว่าผิวดีขึ้นนั่นคือ ผิวดูเรียบเนียนและเฟิร์มขึ้น ผิวดูสบาย รูขุมขนกระชับ สีผิวสม่ำเสมอ และผิวดูโกลว์

     การมาเยี่ยมชมฟาร์มครั้งนี้ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์สกินแคร์ของชาเนลเพื่อให้ตอบโจทย์สภาพผิวของผู้หญิง ทำให้มั่นใจว่านี่คือสกินแคร์ที่มาจากธรรมชาติจริงๆ ไร้สารพิษปนเปื้อน และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงไม่แปลกใจที่ NO1 de Chanel ขึ้นแท่นผลิตภัณฑ์ขายดีของแบรนด์ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งความใส่ใจที่เรารู้สึกได้ก็คือการรังสรรค์กลิ่นของผลิตภัณฑ์ เพราะดอกคามีลเลียเป็นดอกไม้ไม่มีกลิ่น แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของผลิตภัณฑ์ในไลน์นี้แบรนด์ออกมาแบบจากจินตนาการว่ากลิ่นดอกคามีลเลียน่าจะเป็นแบบนี้ รายละเอียดที่ออกแบบมาเฉพาะตั้งแต่ส่วนผสมจนถึงกลิ่นทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าในหนึ่งขวดแดงที่ได้ไปนั้น ไม่ใช่แค่สกินแคร์ระดับพรีเมียม แต่ยังได้คุณค่าต่อจิตใจที่ได้เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย

การวิจัยและสกัดดอกคามีลเลียสีแดงใน Open-Sky Research Laboratory 

Hero Products:

  • N1 de Chanel Revitalizing Serum (50 มล. 6,200 บาท) เซรั่มเนื้อเบาซึมซาบเร็ว ช่วยฟื้นฟูผิวและทำให้ผิวดูโกลว์สวย สุขภาพดี
  • N1 de Chanel Revitalizing Cream (50 กรัม 4,300 บาท) ครีมบำรุงผิว ช่วยให้รูขุมขนแลดูละเอียด ผิวเนียนนุ่มและแข็งแรง
  • N1 de Chanel Revitalizing Serum-in-Mist (50 มล. 3,300 บาท) เซรั่มบำรุงผิว ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ใช้ฉีดบำรุงผิวหน้าได้ตลอดวันและช่วยให้เครื่องสำอางติดทน

เรียบเรียง : ฐาดิณี รัชชระเสวี

WATCH