6 น้ำหอมที่ต้องยอมซื้อตั้งแต่แพ็กเกจจิ้ง! No.7

Voce Viva Eau de Parfum จาก Valentino (ราคา $130 หรือประมาณ 4,000 บาท)

ขวดแก้วใสหรูหราสไตล์วาเลนติโนร็อคสตูดิโออันที่ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับกลิ่นของน้ำหอม ซึ่งสะท้อนถึงหลากหลายอารมณ์ผู้หญิง เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด ผลไม้รสเปรี้ยวสดชื่น และตัดด้วยคความนุ่มลึกของวนิลา มัสก์ และไม้จันทร์

Ambrette de Noir จาก Aerin (ราคา $240 หรือประมาณ 7,800 บาท)

เป็นน้ำหอมที่เราคุ้นหน้าคุ้ตตากันอยู่แล้ว แต่ไอเท็มนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มความพิเศษเข้ามาตรงคอขวดด้วยลวดลายสุดวินเทจ บวกกับกลิ่นหอมสไตล์ฟลอรัลจากดอกไม้นานาพันธุ์ เติมเสน่ห์ด้วยกลิ่นของทองก้าและซีดาวู้ด จึงสะท้อนถึงความงามและความหรูหราของผู้หญิง

Cheap & Chic Eau de Toilette จาก Moschino (ราคา 3,450 บาท)

น้ำหอมสุดคลาสสิกที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1995 เป็นน้ำหอมกลิ่นฟลอรัลที่ได้กลิ่นหอมสดชื่นจากผลไม้แนวซิตรัส ตามด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอกบัว ดอกกุหลาบ ดอกพีโอนี ดอกฟรีเซีย ดอกมะลิ ฯลฯ ปิดท้ายด้วยกลิ่นนุ่มลึกของกลิ่นไม้ แถมยังมาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งสุดน่ารักและขี้เล่นในสไตล์ Moschino

Angels Share Eau De Parfum จาก Kilian (ราคา $195 หรือประมาณ 6,000 บาท)

สวยหรูดูแพงต้องยกให้น้ำหอมชิ้นนี้ น้ำหอมกลิ่นแนววู้ดดี้ที่ได้ส่วนผสมของคอนญักหรือบรั่นดี ชินนามอน และกล่ินไม้เข้าไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกถึงพลังความเซ็กซี่ของผู้หญิง ลึกลับ น่าค้นหา เป็นกลิ่นยูนิเซ็กส์ที่สามารถใช้ฉีดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง 

Loubicroc Eau de Parfum จาก Christian Louboutin (ราคา $300 หรือประมาณ 9,000 บาท)

เผ็ดแซ่บตั้งแต่ขวดยันกลิ่นของน้ำหอม เพราะเป็นกลิ่นสไตล์โอเรียนทอลสไปซี่ที่ได้จากยางไม้อย่างมดยอบ ผสมผสานกับน้ำมันหอมระเหยนาการ์มอธา ปิดท้ายด้วยกลิ่นของแซนเดิลวู้ด ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความร้อนแรงภายใน

Allegra Eau de Parfum จาก Bvlgari (ราคา 8,900 บาท)

คอลเล็กชั่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไลฟ์สไตล์ของสาวอิตาลี เป็นความสวยงามปนความขี้เล่น รักในอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง มีทั้งหมด 5 กลิ่น ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร ติดทนนาน กลิ่นค่อนข้างเข้มข้นแต่ไม่ฉุนจนเกินไป ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน