เคยสังเกตไหมทำไมเพื่อนบางคนน้อยดึกนอนน้อยแต่ใต้ตาก็ยังดูไม่ดำคล้ำ แต่กับตัวเองที่นอนดึกเป็นครั้งคราวแบบที่ยังนอนเต็มอิ่มอยู่กลับใต้ตาดำคล้ำจนเห็นชัด เพื่อการรับมืออย่างตรงจุด ก่อนวิ่งเข้าหาอายส์ครีมราคาแพงเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ลองมาทำความรู้จักกับรูปแบบอาการใต้ตาดำว่ามีแบบไหนบ้าง 

“ใต้ตาดำคล้ำมีหลายสาเหตุ นอกจากการรับมือด้วยอายส์ครีมแล้วยังมีวิธีอื่นอย่างการนวดประคบไปจนถึงการรักษาอาการภายในร่างกาย โดยต้องเริ่มจากรู้จักใต้ตาคล้ำของเราก่อนว่าเกิดจากอะไร” คุณหมออ้อม (พญ.กอบกาญจน์ ชุณหสวัสดิกุล) ให้คำแนะนำถึงปัญหาใต้ตาดำที่พบบ่อยในคนรุ่นใหม่ โดยสาเหตุหลักเกิดได้จากการทำงานของหลอดเลือดบริเวณผิวใต้ตาไปจนถึงริ้วรอยสะสมที่ทำให้มองเห็นเป็นความคล้ำ ซึ่งแบ่งเป็น 4 อย่างดังนี้

สาเหตุใต้ตาดำคล้ำ

1.ใต้ตาดำจากหลอดเลือด (Vascular)

คนที่ผิวสว่างมักพบปัญหานี้ได้บ่อย ใต้ตาดำชนิดนี้มักมีสีออกม่วงหรือชมพู เกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี หากลองหยิบผิวใต้ตาขึ้นมาเบาๆ แล้วพบว่าผิวบริเวณนั้นมีสีผิวปกติไม่ดำคล้ำ หมายความว่าใต้ตาของเราเกิดจากสาเหตุนี้

     Worth a Try! 

ทาอายส์ครีมเป็นชั้นบางใต้ผิวก่อนนวดด้วยกัวซารอบผิวใต้ตา ใช้วิธีนี้ควบคู่ไปกับการดิ่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.รอยคล้ำ 

“ใต้ตาดำเพราะผิวใต้ตาคล้ำ” เมื่อผิวผลิตเมลานินขึ้นมามากเกินไปหรือกระบวนการผลัดเซลล์ผิวทำงานได้ช้าลง เหล่าเมลานินจะเริ่มกองกันอยู่ที่ผิวตั้งแต่ชั้นในถึงชั้นนอกจนเกิดเป็นความคล้ำขึ้น ใต้ตาดำจากรอยคล้ำมั้งจะมีสีออกน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำ

     It’s Work!

มองหาอายส์ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือ AHA ที่ให้ผลลัพธ์ความกระจ่างใส สิ่งสำคัญคือวิธีการลงอายส์ครีมที่ต้องทาให้ห่างจากขอบตา สามารถเริ่มได้จากเหนือโหนกแก้มแล้วค่อยๆ เกลี่ยไล่มารอบใต้ตา  

3.ริ้วรอย

ความสามารถในการอุ้มน้ำของผิวจะด้อยประสิทธิภาพลงตรงกันข้ามกับอายุที่เพิ่มขึ้น ผิวจึงดูแฟบ แห้ง หย่อนคล้อยจนเกิดริ้วรอย โดยเฉพาะผิวใต้ตาที่บางกว่าบริเวณอื่น เมื่อความชุ่มชื่นหรือความยืดหยุ่นน้อยลงแม้แต่นิดก็จะเห็นได้ชัด ริ้วรอยที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้เกิดเงาดำใต้ดวงตา ซึ่งหากลองยืดผิวด้วยมือดูแล้ว อาจไม่ได้มีปัญหาเรื่องความคล้ำก็เป็นได้  

     Try This!

นอกจากใช้อายส์ครีมสูตรเข้มข้นที่มี Hyaluronic และ Squalane เพื่อเติมความชุ่มชื้นแล้ว การมาสก์ผิวใต้ตาคือหนึ่งทางออกสำหรับการเติมความอิ่มฟู รวมถึงการนวดยกกระชับที่ควรทำเดือนละหนึ่งถึงสองครั้ง แต่ไม่ควรนวดบ่อยจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ริ้วรอยเกิดเพิ่มขึ้นได้

4.บวมน้ำ

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากเต็มอิ่มจากการดื่มสังสรรค์หรือการกินอาหารโซเดียมสูง อาการบวมหลังตื่นนอนอาจมาควบคู่กับรอยคล้ำใต้ตาได้ นอกจากนี้อาการแพ้ที่เกิดขึ้นช่วงเช้าอย่างภูมิแพ้อากาศจนจามและน้ำมูกไหล ก็อาจส่งผลต่อความบวมและผิวใต้ตาด้วยเช่นกัน 

     Your Eyes Love This!

ดับอาการบวมที่มีความร้อนภายในด้วยความเย็นจากแท่งประคบหรือกัวซา